coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

WRAMA Channel: อินดิเคเตอร์ล้ำยุค ผสม RSI และ ATR ชี้เป้าเทรดทำกำไร

6 กระทู้
5 ผู้ใช้
13 Reactions
152 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 508
หัวข้อเริ่มต้น  

ในโลกของการเทรดทางเทคนิค การหาเครื่องมือที่สามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำคือหัวใจสำคัญ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ WRAMA Channel (Weighted RSI ATR MA) อินดิเคเตอร์ขั้นสูงที่ถูกออกแบบมาให้ "ฉลาดกว่า" และ "เร็วกว่า" ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) แบบดั้งเดิม

 

Concept หลัก: ทำไม WRAMA Channel ถึงเหนือกว่า?

 

อินดิเคเตอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ย (MA) จะให้ความสำคัญกับทุกราคาเท่ากัน ทำให้เกิดความล่าช้า (Lag) ในการส่งสัญญาณ แต่ WRAMA Channel ใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป โดยการสร้างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนัก (Weighted Moving Average) ที่นำปัจจัยสำคัญ 2 อย่างมาคำนวณด้วย:

  1. RSI (Relative Strength Index): ใช้วัด "โมเมนตัม" หรือความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ราคาที่เกิดขึ้นในช่วงที่แนวโน้มแข็งแกร่ง (RSI สูงหรือต่ำมาก) จะได้รับน้ำหนักมากกว่าปกติ

  2. ATR (Average True Range): ใช้วัด "ความผันผวน" ของตลาด ราคาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง จะได้รับน้ำหนักมากขึ้นเช่นกัน

ผลลัพธ์คือเส้นค่าเฉลี่ย WRAMA ที่ปรับตัวตามสภาวะตลาดได้แบบไดนามิก ทำให้มันสามารถชี้วัดแนวโน้มและส่งสัญญาณได้เร็วกว่าเส้น MA ทั่วไป

 

วิธีการติดตั้ง Indicator บน TradingView

 

คุณสามารถเพิ่ม WRAMA Channel ลงบนกราฟของคุณใน TradingView ได้ง่ายๆ ดังนี้:

  1. เปิดโปรแกรมหรือเว็บไซต์ TradingView และไปที่กราฟที่คุณต้องการวิเคราะห์

  2. คลิกที่แท็บ "Indicators" (อินดิเคเตอร์) ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ

  3. ในช่องค้นหา พิมพ์ชื่อ "WRAMA Channel"

  4. จะมีรายการอินดิเคเตอร์ขึ้นมา ให้เลือกอันที่ตรงกับชื่อ หรืออันที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากและเป็นที่นิยม

  5. คลิกที่ชื่ออินดิเคเตอร์เพื่อเพิ่มลงในกราฟของคุณ

  6. คุณสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ ได้โดยคลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟือง (Settings) ของอินดิเคเตอร์ เพื่อให้เหมาะสมกับกลยุทธ์และสินทรัพย์ที่คุณเทรด

 

วิธีการใช้งาน: จุดเข้าซื้อ-ขาย และการตั้ง TP/SL

 

WRAMA Channel มีองค์ประกอบหลักคือ เส้น Baseline (WRAMA) และ กรอบ Channel (Upper/Lower Band) ซึ่งเราสามารถใช้เป็นกลยุทธ์ในการเทรดได้ดังนี้

 

สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy)

 

มองหาโอกาสเข้า Buy เมื่อเห็นสัญญาณเหล่านี้:

  • กลยุทธ์ Breakout (ทะลุกรอบ):

    • สัญญาณ: ราคาพุ่งทะลุกรอบบน (Upper Band) ของ Channel อย่างแข็งแกร่ง พร้อมมี "สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีเขียว" ปรากฏขึ้น เป็นการยืนยันโมเมนตัมฝั่งซื้อที่แข็งแกร่ง

    • เข้าซื้อ: เข้า Buy ที่แท่งเทียนถัดไปหลังจากแท่งที่ปิดเหนือกรอบบน

  • กลยุทธ์ Trend Following (ซื้อเมื่อย่อตัว):

    • สัญญาณ: ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้น Baseline (พื้นที่ใน Channel เป็นสีเขียว) ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น จากนั้นราคาย่อตัวลงมาใกล้หรือแตะที่เส้น Baseline

    • เข้าซื้อ: เข้า Buy เมื่อเห็นแท่งเทียนกลับตัวเป็นสีเขียวบริเวณเส้น Baseline

การยืนยันเพิ่มเติม: ดูที่ตารางสัญญาณ (Signal Table) ที่มุมขวาบน หากเส้น MA ส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นสถานะ Bullish (กระทิง) จะช่วยยืนยันสัญญาณซื้อได้ดียิ่งขึ้น

 

สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell)

 

มองหาโอกาสเข้า Sell เมื่อเห็นสัญญาณเหล่านี้:

  • กลยุทธ์ Breakout (ทะลุกรอบ):

    • สัญญาณ: ราคาทะลุกรอบล่าง (Lower Band) ของ Channel อย่างรุนแรง พร้อมมี "สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีแดง" ปรากฏขึ้น เป็นการยืนยันโมเมนตัมฝั่งขาย

    • เข้าขาย: เข้า Sell ที่แท่งเทียนถัดไปหลังจากแท่งที่ปิดต่ำกว่ากรอบล่าง

  • กลยุทธ์ Trend Following (ขายเมื่อดีดตัว):

    • สัญญาณ: ราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าเส้น Baseline (พื้นที่ใน Channel เป็นสีแดง) ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง จากนั้นราคาดีดตัวขึ้นไปใกล้หรือแตะที่เส้น Baseline

    • เข้าขาย: เข้า Sell เมื่อเห็นแท่งเทียนกลับตัวเป็นสีแดงบริเวณเส้น Baseline

การยืนยันเพิ่มเติม: ตรวจสอบตารางสัญญาณ (Signal Table) หากเส้น MA ส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นสถานะ Bearish (หมี) จะช่วยยืนยันสัญญาณขายได้


 

การตั้งเป้าหมายทำกำไร (Take Profit - TP)

 

  • สำหรับคำสั่ง Buy: ตั้ง TP ที่บริเวณกรอบบน (Upper Band) ของ Channel

  • สำหรับคำสั่ง Sell: ตั้ง TP ที่บริเวณกรอบล่าง (Lower Band) ของ Channel

  • อีกทางเลือก: ใช้หลัก Risk/Reward Ratio เช่น ตั้ง TP ให้มีระยะห่างเป็น 1.5 หรือ 2 เท่าของระยะ Stop Loss

 

การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)

 

การตั้ง SL เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการบริหารความเสี่ยง

  • สำหรับคำสั่ง Buy (Breakout): ตั้ง SL ไว้ที่บริเวณ ต่ำกว่า กรอบบน (Upper Band) เล็กน้อย ที่ราคาเพิ่งทะลุขึ้นมา

  • สำหรับคำสั่ง Buy (ย่อตัว): ตั้ง SL ไว้ที่บริเวณ ต่ำกว่า เส้น Baseline หรือจุดต่ำสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า (Swing Low)

  • สำหรับคำสั่ง Sell (Breakout): ตั้ง SL ไว้ที่บริเวณ สูงกว่า กรอบล่าง (Lower Band) เล็กน้อย ที่ราคาเพิ่งทะลุลงไป

  • สำหรับคำสั่ง Sell (ดีดตัว): ตั้ง SL ไว้ที่บริเวณ สูงกว่า เส้น Baseline หรือจุดสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า (Swing High)

 

บทสรุป

 

WRAMA Channel เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นแนวโน้ม โมเมนตัม และความผันผวนได้ในอินดิเคเตอร์ตัวเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องมือใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้ WRAMA Channel ร่วมกับการวิเคราะห์รูปแบบกราฟอื่นๆ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) กับกลยุทธ์ของคุณและ บริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) อย่างเข้มงวดเสมอ



   
อ้างอิง
Notnaruyang
(@not_tha_pong91)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
Rank F
เข้าร่วม: 5 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 89
 

🙏🙏🙏🙏



   
ตอบอ้างอิง
Ao-m12991
(@ao-m12991)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
Rank F
เข้าร่วม: 5 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 87
 

เข้าใจมากขึ้นเยอะ



   
ตอบอ้างอิง
Love.me.me1
(@love-me-me1)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 5 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 170
 

📌📌💯💯



   
ตอบอ้างอิง
Love.me.me1
(@love-me-me1)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 5 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 170
 

โอเคร



   
ตอบอ้างอิง
(@rz61223bb)
สมาชิก
Rookie
เข้าร่วม: 3 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 1
 

ขอบคุน



   
Notnaruyang reacted
ตอบอ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: