สำหรับเทรดเดอร์แล้ว การเข้าใจ "โครงสร้างตลาด" (Market Structure) คือหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์ทิศทางราคา แต่การนั่งตีเส้น หาจุดสูงสุด-ต่ำสุด (Highs/Lows) ด้วยตนเองอาจเป็นเรื่องซับซ้อนและใช้เวลา โชคดีที่ใน TradingView มีอินดิเคเตอร์ที่จะมาปฏิวัติการเทรดของคุณให้ง่ายและเป็นระบบมากขึ้น อินดิเคเตอร์นั้นคือ "Rally/Drop Market Structure" ซึ่งจะช่วยคุณระบุโซนสำคัญและโครงสร้างราคาได้โดยอัตโนมัติ

Концепция (Concept) ของอินดิเคเตอร์

แนวคิดหลักของอินดิเคเตอร์นี้คือการผสมผสานสองทฤษฎีที่ทรงพลังเข้าไว้ด้วยกัน:

1. Market Structure (โครงสร้างตลาด): วิเคราะห์การเคลื่อนที่ของราคาผ่านการสร้างจุดสูงสุดและต่ำสุด

   • แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend): ราคาจะสร้าง Higher Highs (HH) และ Higher Lows (HL) อย่างต่อเนื่อง

   • แนวโน้มขาลง (Downtrend): ราคาจะสร้าง Lower Highs (LH) และ Lower Lows (LL) อย่างต่อเนื่อง

2. Supply and Demand Zones (โซนซื้อ-ขาย): คือบริเวณที่เกิดความไม่สมดุลของคำสั่งซื้อและขายอย่างรุนแรง ซึ่งมักเป็น "ต้นกำเนิด" ของการเคลื่อนที่ของราคาที่แข็งแกร่ง

   • Demand Zone (โซนความต้องการซื้อ): เกิดขึ้นหลังจากการที่ราคาทะลุโครงสร้างขาลงขึ้นไปได้ (Bullish Break) เป็นโซนที่แรงซื้อเอาชนะแรงขาย ทำให้ราคาพุ่งขึ้น มักเป็นแนวรับที่สำคัญ

   • Supply Zone (โซนความต้องการขาย): เกิดขึ้นหลังจากการที่ราคาทะลุโครงสร้างขาขึ้นลงมาได้ (Bearish Break) เป็นโซนที่แรงขายเอาชนะแรงซื้อ ทำให้ราคาร่วงลง มักเป็นแนวต้านที่สำคัญ

อินดิเคเตอร์ Rally/Drop Market Structure จะทำการระบุการทะลุโครงสร้างราคา (Break of Structure - BoS) และวาดโซน Supply หรือ Demand ให้โดยอัตโนมัติ ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนว่าควรจะรอเข้าเทรดที่บริเวณใด

⚙️ วิธีการติดตั้ง Indicator

1. เปิดโปรแกรม TradingView และไปที่หน้ากราฟราคาของสินทรัพย์ที่คุณสนใจ

2. คลิกที่เมนู "Indicators" (อินดิเคเตอร์) ที่อยู่ด้านบนของจอ

3. ในช่องค้นหา พิมพ์ชื่ออินดิเคเตอร์ว่า "Rally/Drop Market Structure"

4. คลิกเลือกอินดิเคเตอร์จากผลการค้นหาเพื่อเพิ่มลงในกราฟของคุณ

5. คุณสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้โดยคลิกที่ไอคอนรูปฟันเฟือง (Settings) ของอินดิเคเตอร์ เช่น การปรับ Timeframe ของโครงสร้าง หรือสีของโซนต่างๆ

📈 วิธีการใช้งาน (Entry, TP, SL)

1. จุดเข้าซื้อ (Entry Buy / Long)

มองหาสัญญาณ:

• รอให้ราคาสร้างโครงสร้างขาขึ้นที่ชัดเจน คือทำลายจุดสูงสุดเดิมได้ (เกิดสัญลักษณ์ Bullish BoS)

• อินดิเคเตอร์จะสร้าง Demand Zone (โซนสีเขียวหรือน้ำเงิน) ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นบริเวณฐานที่ส่งราคาขึ้นไป

วิธีการเข้า Order:

• รอให้ราคาย่อตัว (Pullback) กลับลงมาทดสอบในบริเวณ Demand Zone

• เมื่อราคาเข้ามาในโซน ให้มองหาสัญญาณการกลับตัวของราคา เช่น เกิดแท่งเทียน Bullish Engulfing, Hammer หรือราคาเริ่มมีการดีดตัวออกจากโซน

• ทำการเข้า Buy (Long)

การตั้งค่า TP/SL:

• 🎯 Take Profit (TP): ตั้งเป้าทำกำไรที่บริเวณจุดสูงสุดเดิม (HH) หรือแนวต้านถัดไป หรืออาจเป็นโซน Supply Zone ด้านบนที่ยังไม่เคยถูกทดสอบ

• 🛡️ Stop Loss (SL): ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่บริเวณ ใต้กรอบ Demand Zone เล็กน้อย เพื่อป้องกันความผันผวน

2. จุดเข้าขาย (Entry Sell / Short)

มองหาสัญญาณ:

• รอให้ราคาสร้างโครงสร้างขาลง คือทำลายจุดต่ำสุดเดิมได้ (เกิดสัญลักษณ์ Bearish BoS)

• อินดิเคเตอร์จะสร้าง Supply Zone (โซนสีแดงหรือส้ม) ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นบริเวณที่ทำให้ราคาปรับตัวลง

วิธีการเข้า Order:

• รอให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นไป (Retest) ทดสอบในบริเวณ Supply Zone

• เมื่อราคาเข้ามาในโซน ให้มองหาสัญญาณการกลับตัวลง เช่น แท่งเทียน Bearish Engulfing, Shooting Star หรือราคาไม่สามารถผ่านโซนขึ้นไปได้

• ทำการเข้า Sell (Short)

การตั้งค่า TP/SL:

• 🎯 Take Profit (TP): ตั้งเป้าทำกำไรที่บริเวณจุดต่ำสุดเดิม (LL) หรือแนวรับถัดไป หรืออาจเป็นโซน Demand Zone ด้านล่างที่ยังไม่เคยถูกทดสอบ

• 🛡️ Stop Loss (SL): ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่บริเวณ เหนือกรอบ Supply Zone เล็กน้อย

สรุป: อินดิเคเตอร์ Rally/Drop Market Structure เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่ทรงพลัง ทำให้เทรดเดอร์สามารถระบุโซนเข้าเทรดที่มีนัยสำคัญตามหลักการของโครงสร้างตลาดและ Supply/Demand ได้อย่างเป็นระบบและลดอคติส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องมือใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้ร่วมกับการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดีเสมอ