สร้างระบบเทรดด้วย Technical Ratings: กลยุทธ์จับสัญญาณแรง ซื้อขายพร้อมจุด Stop Loss อัตโนมัติ
สำหรับนักเทรดที่ใช้งาน TradingView คงจะคุ้นเคยกับเครื่องมือ Indicator มากมาย แต่จะมีเครื่องมือหนึ่งที่โดดเด่นในการสรุปภาพรวมของตลาด นั่นคือ "Technical Ratings" ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมสัญญาณจาก Indicator ยอดนิยมหลายตัวมาประมวลผลและให้คะแนนออกมาเป็น "ซื้อ" หรือ "ขาย"
บทความนี้จะนำเสนอ Concept และวิธีการติดตั้งใช้งานกลยุทธ์ (Strategy) ที่อ้างอิงสัญญาณจาก Technical Ratings เพื่อสร้างเป็นระบบเทรดที่มีทั้งจุดเข้า (Entry) และจุดออก (Exit) สำหรับทำกำไรและตัดขาดทุน (TP/SL) อย่างชัดเจน
Concept: กลยุทธ์นี้คืออะไร?
แนวคิดหลักของกลยุทธ์นี้เรียบง่ายและทรงพลัง คือ "เข้าเทรดเมื่อมีสัญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น" โดยจะใช้สัญญาณจาก Indicator "Technical Ratings" เป็นตัวชี้วัด
-
หัวใจของกลยุทธ์: รอสัญญาณ "Strong Buy" (แนะนำให้ซื้ออย่างยิ่ง) เพื่อเปิดออเดอร์ Long (ซื้อ) และรอสัญญาณ "Strong Sell" (แนะนำให้ขายอย่างยิ่ง) เพื่อเปิดออเดอร์ Short (ขาย)
-
การจัดการความเสี่ยง: ทุกๆ ออเดอร์ที่เปิดจะมีการตั้งค่า Stop Loss และ Trailing Stop อัตโนมัติโดยอ้างอิงจากค่าความผันผวนของราคา (ATR) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด ณ เวลานั้นๆ
วิธีการติดตั้ง Indicator (Strategy Script)
กลยุทธ์นี้อยู่ในรูปแบบของ Pine Script ที่ต้องนำไปติดตั้งใน TradingView โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
-
เปิดโปรแกรม TradingView และไปที่หน้ากราฟของสินทรัพย์ที่คุณสนใจ
-
คลิกที่แท็บ "Pine Editor" บริเวณด้านล่างของจอ
-
คัดลอก (Copy) โค้ดทั้งหมดด้านล่างนี้:
//@version=5
strategy(title="Technical Ratings Strategy", shorttitle="Technicals Strategy", default_qty_type = strategy.percent_of_equity, default_qty_value = 5, overlay=true)
res = input.timeframe("", title="Indicator Timeframe")
ratingSignal = input.string(defval = "All", title = "Rating is based on", options = ["MAs", "Oscillators", "All"])
import TradingView/TechnicalRating/3 as rating
StrongBound = 0.5
getSignal(ratingTotal, ratingOther, ratingMA) =>
if ratingSignal == "MAs"
ratingMA
else if ratingSignal == "Oscillators"
ratingOther
else
ratingTotal
[ratingTotal, ratingOther, ratingMA] = request.security(syminfo.tickerid, res, rating.calcRatingAll())
tradeSignal = getSignal(ratingTotal, ratingOther, ratingMA)
dynSLpoints(factor) => factor * ta.atr(14) / syminfo.mintick
if tradeSignal > StrongBound
strategy.entry("long", strategy.long)
if tradeSignal < -StrongBound
strategy.entry("short", strategy.short)
strategy.exit("sl/tp", loss = dynSLpoints(3), trail_points = dynSLpoints(5), trail_offset = dynSLpoints(2))
4. วาง (Paste) โค้ดที่คัดลอกมาลงในหน้าต่าง Pine Editor
5. คลิกที่ปุ่ม "Add to Chart" (เพิ่มไปยังแผนภูมิ)
6. ตัว Strategy จะปรากฏบนกราฟของคุณ พร้อมแสดงผลการทดสอบย้อนหลัง (Backtest)
หมายเหตุ: คุณสามารถปรับค่าต่างๆ ได้โดยกดที่รูปฟันเฟือง (Settings) ของ Strategy บนกราฟ เช่น เลือก Timeframe ของ Indicator หรือเลือกประเภทของสัญญาณ (MAs, Oscillators, All)
วิธีการใช้งาน
1. สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy)
กลยุทธ์จะเปิดออเดอร์ซื้อ (Long Position) โดยอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข:
-
เงื่อนไข: Indicator "Technical Ratings" แสดงผลเป็น "Strong Buy" (ในโค้ดคือค่า
tradeSignal > 0.5
)
2. สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell / Short)
กลยุทธ์จะเปิดออเดอร์ขาย (Short Position) โดยอัตโนมัติเมื่อเข้าเงื่อนไข:
-
เงื่อนไข: Indicator "Technical Ratings" แสดงผลเป็น "Strong Sell" (ในโค้ดคือค่า
tradeSignal < -0.5
)
การตั้งค่า Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL) อัตโนมัติ
จุดเด่นที่สุดของกลยุทธ์นี้คือการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจนและปรับเปลี่ยนตามความผันผวนของตลาดด้วยค่า ATR(14)
1. การตั้ง Stop Loss เริ่มต้น (Initial Stop Loss)
ทันทีที่เปิดออเดอร์ ระบบจะตั้งจุดตัดขาดทุนทันทีเพื่อจำกัดความเสี่ยง
-
เงื่อนไข: ตั้ง Stop Loss ที่ระยะห่างเท่ากับ 3timesATR(14) จากราคาที่เข้าเทรด
-
ตัวอย่าง: หากเข้าซื้อที่ราคา $100 และค่า ATR(14) คือ $2 จุด Stop Loss จะถูกตั้งไว้ที่ 100−(3times2)=94
2. การเลื่อนจุดทำกำไรและตัดขาดทุน (Trailing Stop)
ระบบนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายทำกำไร (TP) แบบตายตัว แต่จะใช้ Trailing Stop เพื่อ "ล็อคกำไร" และปล่อยให้กำไรวิ่งต่อไป (Let Profit Run)
-
เงื่อนไขการเปิดใช้งาน: Trailing Stop จะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อออเดอร์นั้นมี กำไรเท่ากับ 5timesATR(14)
-
กลไกการทำงาน:
-
เมื่อ Trailing Stop ทำงาน จุด Stop Loss เดิมจะถูกยกเลิก
-
ระบบจะตั้ง Stop Loss ใหม่ให้ วิ่งตามจุดสูงสุด (สำหรับฝั่งซื้อ) หรือจุดต่ำสุด (สำหรับฝั่งขาย) ของกำไร โดยเว้นระยะห่างไว้ที่ 2timesATR(14)
-
ตัวอย่างต่อเนื่อง: จากข้อที่แล้ว หากราคาหุ้นขึ้นไปถึง $110 (กำไร $10 ซึ่งเท่ากับ 5 \times ATR) Trailing Stop จะทำงาน และเลื่อนจุดตัดขาดทุนมาไว้ที่ 110−(2times2)=106 ตอนนี้คุณการันตีกำไรขั้นต่ำ $6 แล้ว
-
หากราคาขึ้นไปอีกถึง $115 จุดตัดขาดทุนก็จะเลื่อนตามไปที่ 115−(2times2)=111
-
ออเดอร์จะถูกปิดก็ต่อเมื่อราคาย่อตัวกลับมาชนจุด Trailing Stop นี้
-
ข้อควรระวังและคำแนะนำ
สำคัญมาก: TradingView ไม่แนะนำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์ทางการเงินโดยอาศัยเพียงคำแนะนำจาก Technical Ratings Indicator เท่านั้น สัญญาณเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยชี้บ่งถึงสภาวะที่น่าสนใจ ซึ่งอาจสอดคล้องกับกลยุทธ์ของนักเทรดแต่ละคน
-
ไม่มีกลยุทธ์ใดที่สมบูรณ์แบบ: ควรทำการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) กับสินทรัพย์และ Timeframe ที่คุณสนใจ เพื่อดูประสิทธิภาพของกลยุทธ์
-
สภาวะตลาด: กลยุทธ์นี้อาจทำงานได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending Market) และอาจมีผลขาดทุนได้ในตลาดที่ไร้ทิศทาง (Sideways Market)
-
ใช้เป็นผู้ช่วย: มองกลยุทธ์นี้เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจที่มีระบบ ไม่ใช่เครื่องมือพยากรณ์อนาคตที่แม่นยำ 100%
ทิ้งคำตอบไว้
- 42 ฟอรัม
- 2,670 หัวข้อ
- 7,718 กระทู้
- 183 ออนไลน์
- 2,937 สมาชิก