การเทรดในตลาดการเงินมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเทรดแบบสวิง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของราคาหลักทรัพย์ Forex หรือสินค้าโภคภัณฑ์ แตกต่างจากการเทรดแบบรายวัน การเทรดแบบสวิงให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าการวิเคราะห์พื้นฐาน และช่วยให้นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวขึ้นและลงของราคาได้อย่างรอบคอบและมีโอกาสมากขึ้น

ทำความเข้าใจกับ Fibonacci Retracements ในการเทรดแบบสวิง

Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญ โดยเป็นระดับแนวรับและแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระบุจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแนวโน้มหลัก ระดับเหล่านี้ได้มาจากการแบ่งระยะห่างในแนวดิ่งระหว่างจุดสำคัญสองจุดของแนวโน้มด้วยอัตราส่วน Fibonacci ที่เฉพาะเจาะจง ได้แก่ 0% (จุดเริ่มต้น), 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, 76.4% และ 100% (จุดสิ้นสุด) จุดเหล่านี้จะถูกทำแผนที่กับระดับราคาที่สอดคล้องกันโดยการวาดเส้นแนวนอนบนกราฟราคา

สำหรับแนวโน้มขาขึ้น จุด Fibonacci ทั่วไปที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับคือ 0.382, 0.500 และ 0.618 ในทางกลับกัน เมื่อตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลง จุดเหล่านี้จะกลายเป็นแนวต้านที่สำคัญสำหรับการแกว่งตัวขึ้น นักเทรดบางรายยังใช้ระดับ 0.236 และ 0.764 เพื่อค้นหาโอกาสในการซื้อหรือขายตามทิศทางของแนวโน้ม

การใช้ Fibonacci Retracements เพื่อทำกำไร

นักเทรดแบบสวิงใช้ Fibonacci Retracements สองวิธีหลักในการทำกำไร:

1. การทำกำไรจากการแกว่งตัวลงหรือขึ้น: กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับการทำกำไรเมื่อราคาของสินทรัพย์ยังคงเคลื่อนที่ไปสู่ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ ในกรณีนี้ ราคาของตราสารมักจะเคลื่อนที่สวนทางกับแนวโน้มหลัก
    
    
2. การจับเวลาการกลับตัวของแนวโน้ม: วิธีที่สองคือการพยายามทำกำไรโดยการจับเวลาจุดเริ่มต้นของการกลับตัวที่ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ ตัวอย่างจริงแสดงให้เห็นว่าแม้หลายระดับจะกระตุ้นการกลับตัว แต่ระดับ 61.8% มักจะนำไปสู่การกลับตัวที่ดีที่สุด นักเทรดแบบสวิงมักจะยึดตามทิศทางของแนวโน้มหลักและมองหาโอกาสในการเข้าสู่ตำแหน่งที่ระดับ Fibonacci ที่สำคัญ
    
    
    

การยืนยันโอกาสในการซื้อ

เพื่อให้มั่นใจในโอกาสในการเทรดและหลีกเลี่ยงการขาดทุน นักเทรดแบบสวิงมักจะรวม Fibonacci Retracements เข้ากับตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อยืนยันการกลับตัวของแนวโน้ม ตัวอย่างเช่น การใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Simple Moving Average (MVA) 7 วัน และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Exponential Weighted Moving Average (EMA) 10 วันสามารถช่วยยืนยันการเทรดได้ เมื่อเส้น MVA 7 วันและ EMA 10 วันเริ่มแบนและเคลื่อนที่ขึ้น บ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาลงระยะสั้นและยืนยันโอกาสในการซื้อที่ระดับ Fibonacci 61.8%

ข้อควรระวังและกลยุทธ์

แม้ว่าการเทรดแบบสวิงจะนำเสนอโอกาสในการทำกำไร แต่ก็มีข้อควรระวังที่สำคัญ:

• ความซับซ้อนในการเรียนรู้: การเทรดแบบสวิงนั้นไม่เคยง่ายในการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถในการทำกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคย
   
• เวลาและความพยายาม: การเทรดแบบสวิงอาจต้องใช้เวลาและความพยายามทางเทคนิคในการระบุตำแหน่งที่มีศักยภาพในการเทรด และต้องมีการสังเกตการเคลื่อนไหวของราคารายวันอย่างใกล้ชิด
   
   
• ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทิศทาง: การกลับตัวอาจเปลี่ยนทิศทางก่อนที่จะกลับตัวเต็มที่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ นักเทรดควรหลีกเลี่ยงการผูกพันทางอารมณ์กับการเทรด
   
   

อย่างไรก็ตาม การเทรดแบบสวิงมีข้อดีหลายประการ:

• ง่ายกว่า Day Trading: การเทรดแบบสวิงมักจะง่ายกว่าการเทรดแบบ Day Trading
   
• กิจกรรมการเทรดน้อยลง: ต้องใช้กิจกรรมการเทรดน้อยลง ทำให้มีเวลาประเมินปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อราคา
   
• การจัดการความเสี่ยง: ระดับ Fibonacci Retracements ช่วยให้การกำหนดจุดหยุดขาดทุนและจุดทำกำไรเป็นไปได้ง่าย ช่วยลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
   
   
• ความยืดหยุ่น: ช่วยให้นักเทรดสามารถทำควบคู่ไปกับงานประจำได้เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน
   

โดยสรุป การเทรดแบบสวิงด้วย Fibonacci Retracements เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรในตลาดการเงิน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเทรดเฉพาะด้วยเงินที่คุณสามารถจะเสียได้

สามารถ Download File ได้ที่ :