สร้างระบบเทรดทำกำไรด้วย Zig Zag และ CCI: คู่มือฉบับสมบูรณ์
ยกระดับการเทรดของคุณด้วยการผสานสองอินดิเคเตอร์ยอดนิยมอย่าง Zig Zag และ Commodity Channel Index (CCI) เข้าไว้ด้วยกันเป็นระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเจาะลึกถึงแนวคิดหลักของระบบ, วิธีการติดตั้งอินดิเคเตอร์ในโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) พร้อมทั้งอธิบายเงื่อนไขการเข้าออเดอร์ทั้งฝั่งซื้อ (Buy) และฝั่งขาย (Sell) อย่างละเอียด
## Concept: แนวคิดของระบบเทรด Zig Zag + CCI
แนวคิดหลักของระบบเทรดนี้ คือการใช้จุดแข็งของอินดิเคเตอร์แต่ละตัวมาประกอบกันเพื่อสร้างสัญญาณเทรดที่แม่นยำและกรองสัญญาณหลอก (False Signal) ออกไป
-
Zig Zag: ทำหน้าที่เป็น "ผู้กำหนดโครงสร้างราคา" โดยจะลากเส้นเชื่อมจุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ที่มีความสำคัญของกราฟ ทำให้เรามองเห็นแนวโน้มหลัก, แนวรับ-แนวต้าน และการกลับตัวของราคาได้อย่างชัดเจน โดยไม่ถูกรบกวนจากความผันผวนเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างทาง
-
CCI (Commodity Channel Index): ทำหน้าที่เป็น "ผู้ชี้วัดโมเมนตัม" โดยจะวัดการแกว่งตัวของราคาเทียบกับค่าเฉลี่ย เพื่อบอกภาวะการซื้อมากเกินไป (Overbought) และการขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงโอกาสที่ราคาจะเกิดการกลับตัว
เมื่อนำมารวมกัน เราจะใช้ Zig Zag เพื่อยืนยันการเกิดจุดกลับตัวของโครงสร้างราคา (เกิด High หรือ Low ใหม่) และใช้ CCI เพื่อยืนยันว่า ณ จุดกลับตัวนั้น มีแรงซื้อหรือแรงขายเข้ามาสนับสนุนมากพอที่จะทำให้ราคาวิ่งไปในทิศทางนั้นๆ ต่อไปได้
## วิธีการติดตั้ง Indicator บน MT4 / MT5
โดยปกติแล้ว ทั้ง Zig Zag และ CCI เป็นอินดิเคเตอร์มาตรฐาน (Standard Indicator) ที่มีติดตั้งมาให้แล้วในโปรแกรม MT4 และ MT5 ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดจากภายนอก โดยมีขั้นตอนการติดตั้งบนกราฟดังนี้
-
เปิดโปรแกรม MT4 หรือ MT5
-
ไปที่เมนูด้านบน เลือก Insert > Indicators
-
สำหรับ Zig Zag: เลือก Custom > ZigZag
-
สำหรับ CCI: เลือก Oscillators > Commodity Channel Index
-
ในหน้าต่างตั้งค่า (Parameters) ของแต่ละอินดิเคเตอร์ สามารถใช้ค่ามาตรฐานที่โปรแกรมตั้งมาให้ได้ หรือปรับเปลี่ยนตามความถนัด เช่น ค่า
Periodของ CCI ที่นิยมใช้คือ 14 -
คลิก OK อินดิเคเตอร์จะปรากฏบนหน้าต่างกราฟของคุณ โดย Zig Zag จะแสดงเป็นเส้นบนกราฟราคา และ CCI จะแสดงในหน้าต่างย่อยด้านล่าง
(ภาพตัวอย่างสมมติแสดงการติดตั้งอินดิเคเตอร์บนแพลตฟอร์ม)
## วิธีการใช้งาน: จุดเข้าเทรด (Entry)
กฎการเข้าเทรดของระบบนี้จะรอสัญญาณยืนยันจากทั้งสองอินดิเคเตอร์พร้อมกัน เพื่อเพิ่มความน่าจะเป็นในการชนะ
📈 Entry Buy: สัญญาณเข้าซื้อ
มองหาสัญญาณเข้าซื้อเมื่อราคาแสดงการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น โดยมีเงื่อนไขครบ 3 ข้อดังนี้
-
เกิดจุดต่ำสุดใหม่ (New Low): อินดิเคเตอร์ Zig Zag วาดเส้นลงมาทำจุดต่ำสุด (ลักษณะเป็นยอดแหลมชี้ลง 👇) และเริ่มวาดเส้นเฉียงขึ้น
-
CCI บ่งชี้ภาวะขายมากเกินไป: ณ บริเวณที่ Zig Zag ทำจุดต่ำสุดนั้น เส้น CCI จะต้องลงไปอยู่ในโซน Oversold (ต่ำกว่าระดับ -100)
-
เกิดสัญญาณยืนยันการกลับตัว: รอจนกว่าเส้น CCI จะดีดตัวกลับขึ้นมา ตัดผ่านระดับ -100 ขึ้นมา นี่คือสัญญาณยืนยันว่าแรงขายได้อ่อนกำลังลงและมีแรงซื้อกลับเข้ามา ให้พิจารณาเข้าออเดอร์ Buy ที่แท่งเทียนถัดไป
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): อาจตั้งไว้ที่บริเวณใต้จุดต่ำสุดล่าสุดของ Zig Zag เล็กน้อย
📉 Entry Sell: สัญญาณเข้าขาย
มองหาสัญญาณเข้าขายเมื่อราคาแสดงการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง โดยมีเงื่อนไขครบ 3 ข้อดังนี้
-
เกิดจุดสูงสุดใหม่ (New High): อินดิเคเตอร์ Zig Zag วาดเส้นขึ้นไปทำจุดสูงสุด (ลักษณะเป็นยอดแหลมชี้ขึ้น 👆) และเริ่มวาดเส้นเฉียงลง
-
CCI บ่งชี้ภาวะซื้อมากเกินไป: ณ บริเวณที่ Zig Zag ทำจุดสูงสุดนั้น เส้น CCI จะต้องขึ้นไปอยู่ในโซน Overbought (สูงกว่าระดับ +100)
-
เกิดสัญญาณยืนยันการกลับตัว: รอจนกว่าเส้น CCI จะวกตัวกลับลงมา ตัดผ่านระดับ +100 ลงมา นี่คือสัญญาณยืนยันว่าแรงซื้อได้อ่อนกำลังลงและมีแรงขายเข้ามา ให้พิจารณาเข้าออเดอร์ Sell ที่แท่งเทียนถัดไป
จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): อาจตั้งไว้ที่บริเวณเหนือจุดสูงสุดล่าสุดของ Zig Zag เล็กน้อย
ข้อควรจำ: ระบบเทรดนี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ควรใช้ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดี และทดสอบกับบัญชีทดลอง (Demo Account) จนเกิดความชำนาญก่อนนำไปใช้เทรดจริงเสมอ
สาระดีๆขอบคุน
ทิ้งคำตอบไว้
- 45 ฟอรัม
- 3,195 หัวข้อ
- 9,684 กระทู้
- 230 ออนไลน์
- 4,198 สมาชิก






