coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

PSAR of KAMA: อินดิเคเตอร์จับเทรนด์ขั้นสูง ลดสัญญาณรบกวน เพิ่มความแม่นยำในการเทรด

3 กระทู้
3 ผู้ใช้
12 Reactions
64 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 504
หัวข้อเริ่มต้น  

ในโลกของการเทรดทางเทคนิค การหาเครื่องมือที่สามารถระบุแนวโน้ม (Trend) ได้อย่างแม่นยำและกรองสัญญาณหลอก (Noise) ออกไปได้ ถือเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ PSAR of KAMA คืออินดิเคเตอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ โดยการนำจุดแข็งของสองอินดิเคเตอร์ระดับตำนานอย่าง Parabolic SAR และ Kaufman's Adaptive Moving Average (KAMA) มารวมกัน พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยแนวคิดการวัดประสิทธิภาพของตลาดขั้นสูง เพื่อให้เทรดเดอร์ได้สัญญาณการซื้อขายที่เฉียบคมยิ่งขึ้น


 

## แนวคิดและหลักการทำงาน (Concept)

 

หัวใจของอินดิเคเตอร์ตัวนี้คือการ "กรองสัญญาณซ้อนกันสองชั้น" เพื่อสร้างผลลัพธ์สุดท้ายที่นิ่งและแม่นยำกว่าเดิม

 

1. ส่วนประกอบหลัก

 

  • Parabolic SAR (PSAR): พัฒนาโดย J. Welles Wilder เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการระบุทิศทางของแนวโน้มและหาจุดกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น โดยจะแสดงเป็นจุดไข่ปลาที่เคลื่อนที่ตามราคา หากจุดอยู่ใต้ราคา หมายถึงแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) และหากจุดอยู่เหนือราคา หมายถึงแนวโน้มขาลง (Downtrend) จุดอ่อนสำคัญของ PSAR แบบดั้งเดิมคือ เกิดสัญญาณหลอกบ่อยมาก ในสภาวะตลาดที่ไร้ทิศทาง (Sideways) หรือมีความผันผวนสูง

  • Kaufman's Adaptive Moving Average (KAMA): พัฒนาโดย Perry Kaufman เป็นเส้นค่าเฉลี่ยอัจฉริยะที่สามารถ ปรับความเร็วของตัวเองได้ตามความผันผวนของตลาด โดยอาศัยสิ่งที่เรียกว่า Efficiency Ratio (ER)

    • ตลาดมีเทรนด์ชัดเจน (ผันผวนต่ำ): เส้น KAMA จะเคลื่อนที่เข้าใกล้ราคา ทำให้ตอบสนองได้รวดเร็ว

    • ตลาดผันผวนสูง (Sideways): เส้น KAMA จะเคลื่อนที่ช้าลงและทิ้งระยะห่างจากราคา เพื่อกรองสัญญาณรบกวนออกไป

 

2. การทำงานร่วมกันของ PSAR of KAMA

 

แทนที่จะนำ PSAR มาคำนวณกับ "ราคาดิบ" ที่เต็มไปด้วยความผันผวนและสัญญาณรบกวน อินดิเคเตอร์ตัวนี้จะทำงานเป็น 2 ขั้นตอนคือ:

  1. สร้างเส้น KAMA ก่อน: อินดิเคเตอร์จะคำนวณเส้น KAMA บนกราฟราคา เพื่อสร้าง "เส้นแนวโน้มหลักที่ถูกกรองสัญญาณรบกวนออกไปแล้ว"

  2. นำ PSAR มาคำนวณบนเส้น KAMA: จากนั้นจึงนำหลักการของ PSAR มาคำนวณบน "เส้น KAMA" อีกทีหนึ่ง ไม่ใช่บนราคาโดยตรง

ผลลัพธ์ที่ได้คือ จุด PSAR ที่นิ่งและเสถียรอย่างมาก เพราะมันถูกสร้างขึ้นจากแนวโน้มที่ผ่านการกรองมาแล้วชั้นหนึ่ง ทำให้ลดปัญหาสัญญาณหลอก (Whipsaws) ในช่วงตลาด Sideways ได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ อินดิเคเตอร์ยังมาพร้อมกับ Baseline ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวยืนยันแนวโน้มอีกชั้นหนึ่ง หากทิศทางของ PSAR of KAMA และ Baseline ขัดแย้งกัน ทั้งคู่จะเปลี่ยนเป็น "สีขาว" ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าตลาดกำลังอยู่ใน "เขตอันตราย" (Chop Zone) หรือโซนที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน ไม่ควรเข้าเทรด


 

## วิธีการติดตั้ง Indicator (สำหรับ TradingView)

 

โดยทั่วไป อินดิเคเตอร์ประเภท Custom Script จะมีขั้นตอนการติดตั้งที่คล้ายกันบนแพลตฟอร์ม TradingView ดังนี้:

  1. เปิดกราฟ TradingView ของคุณ

  2. คลิกที่แท็บ "Pine Editor" ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ

  3. ลบโค้ดตัวอย่าง ที่มีอยู่เดิมออกทั้งหมด

  4. คัดลอกโค้ด (Source Code) ของอินดิเคเตอร์ PSAR of KAMA ทั้งหมดที่คุณมี

  5. นำโค้ดที่คัดลอกมา ไปวางในหน้าต่าง Pine Editor

  6. คลิกที่ปุ่ม "Add to Chart" (เพิ่มไปยังกราฟ)

  7. หากโค้ดถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด อินดิเคเตอร์จะปรากฏขึ้นบนกราฟของคุณทันที


 

## วิธีการใช้งาน (How to Use)

 

 

📈 สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy)

 

มองหาสัญญาณที่สอดคล้องกันอย่างน้อย 2-3 ข้อเพื่อเพิ่มความน่าจะเป็น:

  1. จุด PSAR ปรากฏใต้เส้น KAMA: นี่คือสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น

  2. จุด PSAR และเส้น Baseline เป็นสีเดียวกัน (ไม่ใช่สีขาว): เป็นการยืนยันว่าแนวโน้มแข็งแกร่งและไม่ได้อยู่ในสภาวะตลาด Sideways

  3. แท่งเทียนเป็นสีเขียว (หากเปิดฟังก์ชัน Color Bars): เป็นการยืนยันภาพรวมของแรงซื้อ

  4. เข้าซื้อ (Entry): เมื่อเห็นสัญญาณครบถ้วน อาจเข้าซื้อที่ราคาเปิดของแท่งเทียนถัดไป

 

📉 สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell)

 

มองหาสัญญาณที่ตรงกันข้ามเพื่อหาจังหวะเข้าขาย:

  1. จุด PSAR ปรากฏเหนือเส้น KAMA: นี่คือสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง

  2. จุด PSAR และเส้น Baseline เป็นสีเดียวกัน (ไม่ใช่สีขาว): ยืนยันแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง

  3. แท่งเทียนเป็นสีแดง (หากเปิดฟังก์ชัน Color Bars): ยืนยันภาพรวมของแรงขาย

  4. เข้าขาย (Entry): เมื่อสัญญาณครบถ้วน อาจเข้าขาย (Short) ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนถัดไป


 

## การตั้งจุดทำกำไร (Take Profit - TP) และตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)

 

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ

 

การตั้ง Stop Loss (SL)

 

  • สำหรับฝั่ง Buy: ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ จุด PSAR ล่าสุด หรือที่แนวรับสำคัญ (Support) ก่อนหน้าเล็กน้อย

  • สำหรับฝั่ง Sell: ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ จุด PSAR ล่าสุด หรือที่แนวต้านสำคัญ (Resistance) ก่อนหน้าเล็กน้อย

ข้อดีของการใช้จุด PSAR เป็น SL: เป็นการตั้ง SL แบบ Trailing Stop ไปในตัว เมื่อเทรนด์ดำเนินต่อไป จุด PSAR จะขยับตาม ช่วยปกป้องกำไรของคุณไปด้วย

 

การตั้ง Take Profit (TP)

 

  1. เมื่อสัญญาณกลับตัวปรากฏ: วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ปิดสถานะเมื่อจุด PSAR พลิกกลับด้าน เช่น หากคุณถือสถานะ Buy อยู่ ให้ปิดทำกำไรเมื่อจุด PSAR แรกปรากฏขึ้น "เหนือ" เส้น KAMA

  2. ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio): กำหนดเป้าหมาย TP ที่มีระยะห่างเป็น 1.5 หรือ 2 เท่าของระยะ Stop Loss เช่น หาก SL ของคุณคือ 50 pips ให้ตั้ง TP ที่ 75 หรือ 100 pips

  3. ใช้แนวรับ-แนวต้านสำคัญ: มองหาแนวรับ-แนวต้านใน Timeframe ที่ใหญ่ขึ้น เพื่อใช้เป็นเป้าหมายในการทำกำไร

คำแนะนำสำคัญ: PSAR of KAMA จะทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน ควรหลีกเลี่ยงการเทรดเมื่ออินดิเคเตอร์แสดง "สีขาว" ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาวะตลาด Sideways การใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ยืนยันตัวอื่น ๆ เช่น RSI หรือ MACD จะช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับการตัดสินใจของคุณได้อีกระดับหนึ่ง



   
FDaziima, La_bamai.129, Ao-m12991 and 2 people reacted
อ้างอิง
Love.me.me1
(@love-me-me1)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
Rank F
เข้าร่วม: 4 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 135
 

อืมมม



   
FDaziima, La_bamai.129, Ao-m12991 and 1 people reacted
ตอบอ้างอิง
Ao-m12991
(@ao-m12991)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
Rank F
เข้าร่วม: 4 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 87
 

ดดดด🙏❤️



   
ตอบอ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: