Information-Geometric Market Dynamics (IGMD) — พลิกโฉมการวิเคราะห์ตลาดด้วยแนวคิดเชิงเรขาคณิต
คุณเคยรู้สึกไหมว่าการวิเคราะห์กราฟราคาแบบเดิมๆ นั้นไม่สมบูรณ์? เส้นแนวโน้มและอินดิเคเตอร์ต่างๆ ดูเหมือนจะบอกเล่าเรื่องราวเพียงครึ่งเดียวของสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด IGMD (Information-Geometric Market Dynamics) คือแนวคิดใหม่ที่ก้าวข้ามการวิเคราะห์แบบเดิม โดยมองว่ากราฟราคาที่เราเห็นเป็นเพียงภาพฉายมิติเดียวของ "สนามข้อมูล" (Information Field) ที่ซับซ้อนและมีมิติสูงกว่าสคริปต์นี้ไม่ใช่เพียงชุดของอินดิเคเตอร์ แต่เป็นกรอบแนวคิดที่รวมเอาหลักการทางคณิตศาสตร์และทฤษฎีสารสนเทศขั้นสูง เพื่อวัดและทำความเข้าใจ "รูปทรงเรขาคณิต" ของสนามข้อมูลตลาด ทั้งความทรงจำ ความซับซ้อน ความไม่แน่นอน และกระแสข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจโดยอ้างอิงจากความจริงที่ลึกซึ้งกว่า
แนวคิดหลักของ IGMD: การวิเคราะห์แบบหลายแกน (Multi-Kernel Approach)
หัวใจสำคัญของ IGMD คือการใช้ "แกนคณิตศาสตร์" (Kernels) ห้าชนิดที่แตกต่างกัน แต่ละแกนทำหน้าที่เป็น "โพรบ" พิเศษที่ใช้สกัดข้อมูลเชิงลึกที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากข้อมูลราคาดิบ แต่ละแกนให้มุมมองที่แตกต่างกันของตลาด และจะถูกนำมารวมกันผ่านกระบวนการที่เรียกว่า "การหลอมรวม" (Fusion) เพื่อสร้างภาพรวมที่ชัดเจนเพียงภาพเดียว
แกนทั้งห้าของ IGMD และหน้าที่ของมัน
-
แกน Wavelet (The "Microscope"): 🔬
-
หน้าที่: ใช้แบ่งสัญญาณราคาออกเป็นส่วนๆ ตามความถี่ เพื่อแยก "สัญญาณรบกวน" ระยะสั้นออกจาก "แนวโน้ม" ระยะยาว
-
การทำงาน: สามารถเลือกใช้ Wavelet Kernels ได้ 2 แบบคือ Haar สำหรับการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และ Daubechies (db2) สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มที่ราบรื่น
-
-
แกน Hurst Exponent (The "Memory Gauge"): 🧠
-
หน้าที่: วัด "ความทรงจำระยะยาว" ของตลาด
-
การทำงาน:
-
ค่า H > 0.5: ตลาดมีแนวโน้ม (Trending)
-
ค่า H < 0.5: ตลาดมีการย้อนกลับสู่ค่าเฉลี่ย (Mean-Reverting)
-
ค่า H = 0.5: ตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบสุ่ม (Random)
-
-
-
แกน Fractal Dimension (The "Complexity Compass"): 🧭
-
หน้าที่: วัดความซับซ้อนหรือ "ความยึกยัก" ของเส้นทางราคา
-
การทำงาน: เป็นตัวกรองหลักที่ช่วยระบุว่าสภาวะตลาดนั้น เทรดได้ (มีความซับซ้อนต่ำ) หรือ ไม่ควรเทรด (มีความซับซ้อนสูง)
-
-
แกน Shannon Entropy (The "Uncertainty Meter"): ⚖️
-
หน้าที่: วัดความไม่แน่นอน หรือ "ข้อมูล" ในระบบ
-
การทำงาน:
-
ค่าต่ำ: การเคลื่อนไหวของราคาสามารถคาดเดาได้
-
ค่าสูง: การเคลื่อนไหวของราคาไร้ทิศทางและคาดเดาไม่ได้
-
-
-
แกน Transfer Entropy (The "Causality Probe"): ⛓️
-
หน้าที่: วัด "การไหลของข้อมูล" จากปัจจัยหนึ่ง (เช่น ปริมาณซื้อขาย) ไปยังราคา
-
การทำงาน: ช่วยระบุว่าปริมาณการซื้อขายกำลัง "นำ" การเคลื่อนไหวของราคาอยู่หรือไม่
-
Field Score และแดชบอร์ด: การหลอมรวมและการตีความ
แกนทั้งห้าจะถูกหลอมรวมกันเป็นค่าเมตริกเดียวที่เรียกว่า Field Score ซึ่งมีค่าตั้งแต่ -1 (แนวโน้มขาลง) ถึง +1 (แนวโน้มขาขึ้น) ค่านี้คือการอ่านค่าภาพรวมของตลาดในปัจจุบัน
แดชบอร์ดจะแสดง:
-
Field Score & Regime: สถานะโดยรวมของตลาด เช่น "Uptrend Field", "Downtrend Field" หรือ "Transitional"
-
Kernel Readouts: ค่าคะแนนของแต่ละแกน ทำให้เราเข้าใจที่มาของ Field Score
-
Signals: แสดงความน่าจะเป็นสำหรับการเข้าซื้อหรือขาย โดยอ้างอิงจากข้อมูลเชิงลึก
-
Pattern: ตรวจจับรูปแบบแท่งเทียนที่เด่นชัดและแสดงระดับความเชื่อมั่น
วิธีการใช้งานเบื้องต้น: การเข้าซื้อ-ขายและบริหารความเสี่ยง
เนื่องจากสคริปต์นี้เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อน การใช้งานจึงต้องอาศัยการตีความข้อมูลจากหลายส่วนประกอบ แต่ตามบทความต้นฉบับได้มีการอธิบายถึงองค์ประกอบที่ใช้สำหรับการเข้า-ออกและบริหารความเสี่ยงดังนี้:
-
วิธีการเข้าซื้อ (Entry Buy) และเข้าขาย (Entry Sell):
-
สคริปต์จะแสดง Signal Markers (▲ and ▼) บนกราฟเมื่อเงื่อนไขทั้งหมดของ Signal Engine ตรงตามที่กำหนด
-
ตัวเลขที่ปรากฏถัดจากเครื่องหมายคือ Probability Score (คะแนนความน่าจะเป็น) ที่ถูกคำนวณมา ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความน่าจะเป็นในการเข้าซื้อหรือขาย
-
การเข้าซื้อควรพิจารณาเมื่อมีสัญญาณ ▲ (Buy) และ Field Score มีค่าเป็นบวก (Uptrend Field) ในทางกลับกัน การเข้าขายควรพิจารณาเมื่อมีสัญญาณ ▼ (Sell) และ Field Score มีค่าเป็นลบ (Downtrend Field)
-
-
การตั้งค่า TP (Take Profit) และ SL (Stop Loss):
-
เมื่อมีสัญญาณเกิดขึ้น สคริปต์จะทำการพล๊อต RR Rails (เส้นประ) โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะแสดงระดับ Entry (จุดเข้า), Stop Loss (SL) (อิงจากค่า ATR), และ Take Profit (TP) สองระดับ (อิงจากอัตราส่วน Risk/Reward)
-
เส้นเหล่านี้จะหายไปเมื่อราคาสัมผัสกับระดับใดระดับหนึ่ง แสดงถึงการบริหารความเสี่ยงแบบไดนามิก
-
บทสรุป: เครื่องมือสำหรับโลกที่ซับซ้อน
IGMD คือเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักเทรดสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของการวิเคราะห์แบบเดิมๆ และมองเห็นความจริงที่ซับซ้อนของตลาดได้ดียิ่งขึ้นดังที่ Benoît Mandelbrot บิดาแห่งเรขาคณิตแฟร็กทัลได้กล่าวไว้ว่า: "ก้อนเมฆไม่ใช่ทรงกลม ภูเขาไม่ใช่กรวย... และตลาดก็ไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง"IGMD จึงเป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อนำทางในความเป็นจริงที่ซับซ้อน สวยงาม และเป็นแบบแฟร็กทัลของตลาดการเงิน
น่าลอง
ทิ้งคำตอบไว้
- 45 ฟอรัม
- 3,185 หัวข้อ
- 9,650 กระทู้
- 1,051 ออนไลน์
- 4,189 สมาชิก






