รู้จัก Price Channel Strategy: กลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ด้วยการ Breakout
Price Channel Strategy เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยมสำหรับเทรดเดอร์สาย Momentum และ Swing Trade ที่ต้องการจับจังหวะการทะลุของราคาออกจากกรอบ (Breakout/Breakdown) โดยหลักการของมันนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
บทความนี้จะอธิบายถึงแนวคิด, วิธีการติดตั้งบน TradingView, และวิธีการนำไปใช้งานจริง
Concept: แนวคิดและหลักการทำงาน
Price Channel Strategy สร้าง "ช่องราคา" (Channel) ขึ้นมาบนกราฟ โดยมีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วนคือ:
-
กรอบบน (Upper Channel Band): คือ ราคาสูงสุด (Highest High) ในช่วงเวลาที่กำหนด (ค่า X)
-
กรอบล่าง (Lower Channel Band): คือ ราคาต่ำสุด (Lowest Low) ในช่วงเวลาเดียวกัน (ค่า X)
ค่า X คือค่า "Length" ที่เราสามารถตั้งค่าได้ใน Indicator เช่น หากตั้งค่า Length ไว้ที่ 20 บนกราฟรายวัน (Daily) กรอบบนก็คือราคาสูงสุดในรอบ 20 วันที่ผ่านมา และกรอบล่างคือราคาต่ำสุดในรอบ 20 วันที่ผ่านมา
หัวใจของกลยุทธ์นี้คือการเข้าเทรดเมื่อราคามีแรงส่งมากพอที่จะ "ทะลุ" ออกจากกรอบราคานี้ไปได้
วิธีการติดตั้ง Indicator บน TradingView
คุณสามารถเพิ่ม Price Channel Strategy บนโปรแกรม TradingView ได้ง่ายๆ จากคลัง Indicator ที่มีอยู่แล้ว ดังนี้
-
เปิดกราฟของสินทรัพย์ที่คุณสนใจบน TradingView
-
คลิกที่เมนู "Indicators" ที่ด้านบนของจอ
-
ในช่องค้นหา พิมพ์คำว่า "Price Channel Strategy"
-
ระบบจะแสดง Indicator ที่ตรงกับชื่อขึ้นมา ให้คลิกเลือกเพื่อเพิ่มลงบนกราฟ (โดยส่วนใหญ่มักจะเป็น Indicator ที่มีอยู่แล้วในหมวด Technicals > Strategies)
-
เมื่อเพิ่มแล้ว Indicator จะปรากฏบนกราฟ พร้อมแสดงสัญญาณซื้อขายย้อนหลัง ดังภาพตัวอย่าง
วิธีการใช้งานและสัญญาณเทรด
กลยุทธ์นี้จะสร้างสัญญาณเข้าเทรดโดยอ้างอิงจากกรอบราคาของ "แท่งเทียนก่อนหน้า"
สัญญาณซื้อ (Entry Buy / Long)
-
เงื่อนไข: สัญญาณซื้อจะเกิดขึ้นเมื่อ "ราคาสูงสุด (High) ของแท่งเทียนปัจจุบัน" วิ่งขึ้นไปแตะหรือทะลุ "กรอบบน (Upper Band) ของแท่งเทียนก่อนหน้า"
-
ความหมาย: เป็นการยืนยันว่าราคาได้ทำลายสถิติสูงสุดเดิมในช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 20 วัน) ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสที่ราคาจะวิ่งขึ้นไปต่อ
-
สัญลักษณ์บนกราฟ: โดยทั่วไปจะแสดงเป็นลูกศรสีฟ้าชี้ขึ้น พร้อมข้อความ
PCLE
(Price Channel Long Entry) ดังที่เห็นในภาพตัวอย่างช่วงปลายเดือนมกราคม 2025 ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
สัญญาณขาย (Entry Sell / Short)
-
เงื่อนไข: สัญญาณขายจะเกิดขึ้นเมื่อ "ราคาต่ำสุด (Low) ของแท่งเทียนปัจจุบัน" วิ่งลงไปแตะหรือทะลุ "กรอบล่าง (Lower Band) ของแท่งเทียนก่อนหน้า"
-
ความหมาย: เป็นการยืนยันว่าราคาได้ทำลายสถิติต่ำสุดเดิม ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่รุนแรง และมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงต่อ
-
สัญลักษณ์บนกราฟ: โดยทั่วไปจะแสดงเป็นลูกศรสีแดงชี้ลง พร้อมข้อความ
PCSE
(Price Channel Short Entry)
การตั้งค่าเพิ่มเติมและข้อควรระวัง
-
การตั้งค่า Stop Loss:
-
สำหรับ Buy Long: อาจตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุด (Low) ของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณ Breakout หรือต่ำกว่าเส้น Upper Band เล็กน้อย
-
สำหรับ Sell Short: อาจตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าจุดสูงสุด (High) ของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณ Breakdown หรือสูงกว่าเส้น Lower Band เล็กน้อย
-
-
ข้อเสียสำคัญ (Weakness): กลยุทธ์นี้จะทำงานได้ดีที่สุดใน ตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน (Trending Market) แต่จะมีจุดอ่อนใน ตลาดที่ไม่มีทิศทาง (Sideways หรือ Ranging Market) ซึ่งมักจะเกิดสัญญาณหลอก (Whipsaw) บ่อยครั้ง เช่น ราคาเพิ่งทะลุกรอบบนไปได้ไม่นานก็กลับตัวลงมาต่ำกว่ากรอบ ทำให้ขาดทุนได้ง่าย ดังจะเห็นได้จากช่วงเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2025 ในภาพตัวอย่าง ที่มีสัญญาณซื้อและขายสลับกันไปมาในกรอบแคบๆ
สรุป
Price Channel Strategy เป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม โดยอาศัยหลักการ Breakout ที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการจับการเคลื่อนไหวของราคาในรอบใหญ่ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานควรตระหนักถึงจุดอ่อนของมันในตลาด Sideways และต้องมีการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดีควบคู่ไปด้วยเสมอ
ขอบ
คุนฮ้าบ🙏
ทิ้งคำตอบไว้
- 42 ฟอรัม
- 2,670 หัวข้อ
- 7,718 กระทู้
- 181 ออนไลน์
- 2,937 สมาชิก