coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
กลยุทธ์เทรดตามเทรนด...
 
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

กลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ด้วย Consecutive Up/Down จับจังหวะเมื่อราคาไปทางเดียวกัน

2 กระทู้
2 ผู้ใช้
1 Reactions
22 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 11 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 446
หัวข้อเริ่มต้น  

สำหรับเทรดเดอร์ที่มองหากลยุทธ์ที่เข้าใจง่ายและเน้นการเทรดตามโมเมนตัมของราคา "Consecutive Up/Down Strategy" เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจ เพราะมีตรรกะที่ไม่ซับซ้อน สามารถนำไปปรับใช้และทดสอบกับสินทรัพย์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี บทความนี้จะอธิบายตั้งแต่แนวคิดหลัก วิธีการติดตั้ง ไปจนถึงการใช้งานจริง พร้อมข้อควรระวังจากผล Backtest

 

Concept: แนวคิดหลักของกลยุทธ์

 

แนวคิดของกลยุทธ์นี้เรียบง่ายมาก คือการ "นับจำนวนแท่งเทียนที่ปิดในทิศทางเดียวกันต่อเนื่อง"

  • ฝั่งซื้อ (Long): จะเข้าเทรดเมื่อราคามี แท่งเทียนสีเขียว (ราคาปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า) ติดต่อกัน ตามจำนวนที่ตั้งค่าไว้ (เช่น 3 แท่ง) เพราะเป็นสัญญาณว่าโมเมนตัมฝั่งซื้อกำลังแข็งแกร่ง

  • ฝั่งขาย (Short): จะเข้าเทรดเมื่อราคามี แท่งเทียนสีแดง (ราคาปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า) ติดต่อกัน ตามจำนวนที่ตั้งค่าไว้ ซึ่งเป็นสัญญาณของโมเมนตัมฝั่งขายที่เพิ่มขึ้น

หัวใจสำคัญคือการจับจังหวะ "ต่อเนื่อง" ของราคาเพื่อเกาะไปกับเทรนด์ในระยะสั้นๆ นั่นเอง

 

วิธีการติดตั้ง Indicator บน TradingView

 

เนื่องจากกลยุทธ์นี้เป็นสคริปต์ เราจะทำการติดตั้งผ่าน Pine Editor ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างอินดิเคเตอร์ของ TradingView โดยตรง

  1. เปิดกราฟของสินทรัพย์ที่สนใจใน TradingView

  2. คลิกที่แท็บ "Pine Editor" บริเวณด้านล่างของหน้าจอ

  3. ลบโค้ดตัวอย่าง ที่มีอยู่เดิมออกทั้งหมด

  4. คัดลอก (Copy) โค้ด ด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่แก้ไขข้อผิดพลาดและปรับปรุงแล้ว ไปวางใน Pine Editor

Pine Script

//@version=5
strategy("Consecutive Up/Down Strategy", overlay=true)

// ตั้งค่าจำนวนแท่งเทียนต่อเนื่อง
consecutiveBarsUp = input.int(3, title="Consecutive Bars Up")
consecutiveBarsDown = input.int(3, title="Consecutive Bars Down")

price = close

// ตัวแปรสำหรับนับแท่งเทียน
var int ups = 0
var int dns = 0

// ตรรกะการนับแท่งเขียวต่อเนื่อง
ups := price > price[1] ? ups + 1 : 0
// ตรรกะการนับแท่งแดงต่อเนื่อง
dns := price < price[1] ? dns + 1 : 0

// เงื่อนไขเข้าเทรดฝั่ง Long
if (ups >= consecutiveBarsUp)
strategy.entry("ConsUpLE", strategy.long, comment="Long Entry")

// เงื่อนไขเข้าเทรดฝั่ง Short
if (dns >= consecutiveBarsDown)
strategy.entry("ConsDnSE", strategy.short, comment="Short Entry")

 
  1. คลิกที่ปุ่ม "Add to chart" (เพิ่มไปยังกราฟ)

  2. ตัวชี้วัดและสัญญาณการเทรด (ลูกศร Buy/Sell) จะปรากฏขึ้นบนกราฟของคุณทันที

 

วิธีการใช้งาน และการตั้งค่า TP/SL

 

สัญญาณเข้าเทรด (Entry Signal)

  • สัญญาณซื้อ (Buy/Long): เมื่อเงื่อนไขครบ (เช่น แท่งเขียว 3 แท่งติดต่อกัน) จะมีป้าย "ConsUpLE" หรือลูกศรสีฟ้า/เขียวปรากฏขึ้นใต้แท่งเทียน เป็นจุดสำหรับพิจารณาเข้าซื้อ

  • สัญญาณขาย (Sell/Short): เมื่อเงื่อนไขครบ (เช่น แท่งแดง 3 แท่งติดต่อกัน) จะมีป้าย "ConsDnSE" หรือลูกศรสีแดงปรากฏขึ้นเหนือแท่งเทียน เป็นจุดสำหรับพิจารณาเข้าขาย

การตั้งค่า Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL)

ข้อสำคัญ: สคริปต์นี้เป็นกลยุทธ์แบบ Reversing System คือจะปิดออเดอร์เดิมก็ต่อเมื่อมีสัญญาณฝั่งตรงข้ามเกิดขึ้น มันไม่ได้กำหนดจุด TP และ SL อัตโนมัติ ดังนั้น เราต้องกำหนดความเสี่ยงด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเทรด

  • การตั้ง Stop Loss (SL):

    • สำหรับฝั่ง Long: อาจตั้ง SL ไว้ที่ จุดต่ำสุดของ Swing Low ก่อนหน้า หรือ ใต้ราคา Low ของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณ เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาวิ่งสวนทาง

    • สำหรับฝั่ง Short: ตั้ง SL ไว้ที่ จุดสูงสุดของ Swing High ก่อนหน้า หรือ เหนือราคา High ของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณ

  • การตั้ง Take Profit (TP):

    • ใช้ Risk/Reward Ratio (RRR): เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด เช่น หากระยะ Stop Loss ของคุณคือ 50 จุด คุณอาจตั้ง TP ที่ 100 จุด (RRR 1:2) หรือ 150 จุด (RRR 1:3)

    • ใช้แนวรับ-แนวต้าน: ตั้ง TP ที่บริเวณแนวรับหรือแนวต้านสำคัญถัดไปที่คาดว่าราคาจะไปถึง

 

วิเคราะห์ผล Backtest และข้อควรระวัง

 

จากผลการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) ที่ให้มา กลยุทธ์นี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญมาก:

  1. กำไรน้อยมาก: ผลตอบแทนสุทธิ (Net Profit) อยู่ในระดับที่แทบจะเท่าทุน (Profit Factor 1.024)

  2. Win Rate ต่ำ: อัตราการเทรดชนะอยู่ที่ประมาณ 41.59% ซึ่งหมายความว่า เทรดแพ้บ่อยกว่าชนะ แต่ที่ยังทำกำไรได้เล็กน้อยเพราะขนาดของกำไรเฉลี่ยต่อครั้ง (Avg Winning Trade) ใหญ่กว่าขาดทุนเฉลี่ย (Avg Losing Trade)

  3. ฝั่ง Short ขาดทุน: ผลทดสอบแสดงให้เห็นชัดเจนว่า การเทรดฝั่ง Long ทำกำไร แต่ฝั่ง Short กลับขาดทุน

  4. ผลตอบแทนแพ้ Buy & Hold: ข้อที่สำคัญที่สุดคือ ผลตอบแทนจากกลยุทธ์นี้ น้อยกว่าการซื้อสินทรัพย์นั้นแล้วถือไว้เฉยๆ (Buy & Hold) อย่างมหาศาล

ข้อสรุปและคำแนะนำจากผลทดสอบ:

  • เหมาะกับตลาดมีเทรนด์: กลยุทธ์นี้จะทำงานได้ดีในตลาดที่มีเทรนด์ชัดเจน แต่จะขาดทุนบ่อยครั้งในตลาด Sideways (เกิด Whipsaw)

  • ระวังสินทรัพย์ที่เป็นเทรนด์ขาขึ้นแรงๆ: การที่ฝั่ง Short ขาดทุน บ่งชี้ว่ากลยุทธ์นี้พยายามสวนเทรนด์ใหญ่ของสินทรัพย์นั้นๆ ดังนั้น สำหรับสินทรัพย์ที่เป็นขาขึ้นชัดเจน ควรพิจารณาปิดการเทรดฝั่ง Short

  • ไม่ใช่ระบบเทรดที่สมบูรณ์: อย่าใช้กลยุทธ์นี้เดี่ยวๆ ควรใช้เป็น เครื่องมือยืนยันโมเมนตัม ร่วมกับ Indicator อื่นๆ เช่น เส้นค่าเฉลี่ย (Moving Average) เพื่อดูเทรนด์หลัก หรือใช้ร่วมกับแนวรับ-แนวต้าน

  • การจัดการความเสี่ยงคือหัวใจ: ความสำเร็จของกลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า TP/SL และการจัดการความเสี่ยง (Position Sizing) ของคุณเอง

โดยสรุป Consecutive Up/Down เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจในการเริ่มต้นมองหาโมเมนตัม แต่ไม่ใช่ "จอกศักดิ์สิทธิ์" (Holy Grail) เทรดเดอร์ควรนำไปทดสอบ ปรับปรุง และใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อสร้างระบบเทรดที่แข็งแกร่งและเหมาะกับตนเอง


   
Notnaruyang reacted
อ้างอิง
Notnaruyang
(@not_tha_pong91)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
Rank F
เข้าร่วม: 2 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 89
 

ขอบคุณฮับ❤️


   
ตอบอ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: