Dots Indicator: จับสัญญาณเทรนด์ง่ายๆ ด้วยจุดสีฟ้า-แดง
สำหรับนักเทรดสายตามเทรนด์ (Trend Follower) การมองหาเครื่องมือที่ช่วยยืนยันแนวโน้มของตลาดได้อย่างชัดเจนและรวดเร็วคือหัวใจสำคัญ Dots Indicator คือหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยการแสดงผลที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพในการจับสัญญาณเทรนด์ มาดูกันว่า Indicator ตัวนี้ทำงานอย่างไร และเราจะนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การเทรดของเราได้อย่างไร
ภาพรวมการทำงาน (How It Works)
Dots Indicator เป็นเครื่องมือที่แสดงผลโดยการพล็อตจุดสีลงบนกราฟราคาโดยตรง เพื่อบ่งบอกถึงทิศทางของแนวโน้มในขณะนั้น
-
จุดสีน้ำเงิน 🔵 (Blue Dot): สัญญาณของ แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) หรือตลาดกระทิง
-
จุดสีแดง 🔴 (Red Dot): สัญญาณของ แนวโน้มขาลง (Downtrend) หรือตลาดหมี
หัวใจของการคำนวณไม่ได้อิงจาก Moving Average แบบทั่วไป แต่ใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า "โคไซน์ของมุมการเปลี่ยนแปลงราคา" (Cosine of the angle of price change) ซึ่งทำให้มันสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมและทิศทางของเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้คือสัญญาณภาพที่ชัดเจน ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ
วิธีการตั้งค่าพารามิเตอร์ (Parameter Settings)
การปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดและสินทรัพย์ที่เทรดเป็นสิ่งสำคัญ
-
Length (ค่าเริ่มต้น = 10): คือคาบเวลาที่ใช้ในการคำนวณ
-
ค่าสูง: Indicator จะเคลื่อนไหวเรียบขึ้น สัญญาณหลอก (False Signal) น้อยลง แต่จะตอบสนองช้าลง (Lag)
-
ค่าต่ำ: Indicator จะตอบสนองต่อราคาไวขึ้น แต่ก็อาจเกิดสัญญาณหลอกได้บ่อยขึ้น
-
-
AppliedPrice (ค่าเริ่มต้น = PRICE_CLOSE): เลือกประเภทราคาที่จะนำมาใช้คำนวณ เช่น ราคาปิด, ราคาเปิด, ราคาสูงสุด, หรือราคาต่ำสุด
-
Filter (ค่าเริ่มต้น = 0): เป็นพารามิเตอร์ที่มีประโยชน์มาก เพื่อกรองสัญญาณรบกวน จากการแกว่งตัวของราคาในกรอบแคบๆ โดยไม่ทำให้ Indicator ช้าลง หากตั้งค่านี้ (เช่น 3-5) Indicator จะเปลี่ยนสีก็ต่อเมื่อราคามีการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งมากพอ
-
Deviation (ค่าเริ่มต้น = 0): ใช้ปรับตำแหน่งของจุดในแนวตั้ง (เลื่อนขึ้น-ลง) เพื่อความสวยงามหรือให้มองเห็นชัดขึ้น ไม่มีผลต่อการคำนวณ
-
Shift (ค่าเริ่มต้น = 0): ใช้เลื่อนการแสดงผลของ Indicator ทั้งหมดไปทางซ้ายหรือขวาตามจำนวนแท่งเทียนที่กำหนด
เทรดกับสินค้าอะไรได้บ้าง และ Time Frame ที่เหมาะสม
สินค้าที่เหมาะสม
Dots Indicator ทำงานได้ดีที่สุดกับสินทรัพย์ที่มี แนวโน้มชัดเจน (Trending Market) เช่น:
-
คู่เงิน Forex Majors: EUR/USD, GBP/USD, AUD/USD
-
ทองคำ: XAU/USD
-
ดัชนี (Indices): S&P500, NASDAQ
-
สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่มีแนวโน้มชัดเจน
ควรหลีกเลี่ยงการใช้กับตลาดที่ไม่มีทิศทางชัดเจน หรือ Sideways เพราะอาจเกิดสัญญาณซื้อๆ ขายๆ สลับไปมาบ่อยครั้ง
Time Frame ที่เหมาะสม
แนวโน้มของตลาดจะชัดเจนขึ้นใน Time Frame ที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้น Time Frame ที่แนะนำคือ:
-
H1 และ H4: เป็น Time Frame ที่สมดุลที่สุด เหมาะสำหรับ Day Trading และ Swing Trading ให้สัญญาณที่ค่อนข้างเสถียรและกรองสัญญาณรบกวนออกไปได้ดี
-
D1 (Daily): เหมาะสำหรับนักเทรดระยะยาว (Position Trader) ที่ต้องการมองภาพรวมของเทรนด์หลัก
-
M15 - M30: สามารถใช้ได้ แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีสัญญาณรบกวนสูง อาจต้องใช้คู่กับ
Filterที่มีค่าสูงขึ้น หรือใช้เครื่องมืออื่นยืนยัน
กลยุทธ์การเทรดเบื้องต้น
กลยุทธ์ที่นิยมใช้กันคือ "การยืนยันด้วยจุดที่สอง" (Two-Dot Confirmation)
-
สัญญาณซื้อ (Buy): รอให้เกิด จุดสีน้ำเงิน 🔵 2 จุดติดต่อกัน เพื่อเป็นสัญญาณยืนยันการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น แล้วจึงพิจารณาเข้าซื้อ
-
สัญญาณขาย (Sell): รอให้เกิด จุดสีแดง 🔴 2 จุดติดต่อกัน เพื่อยืนยันการเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง แล้วจึงพิจารณาเข้าขาย
-
จุดออก (Exit): ออกจากสถานะเมื่อปรากฏ จุดสีตรงข้าม เกิดขึ้นเป็นจุดแรก
สรุป: Dots Indicator เป็นเครื่องมือช่วยเทรดตามเทรนด์ที่ทรงพลังและเข้าใจง่าย อย่างไรก็ตาม ไม่มี Indicator ใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เช่น แนวรับ-แนวต้าน, รูปแบบแท่งเทียน และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดีเสมอ
สามารถ Download Indicator ได้ที่ :
https://www.mql5.com/en/code/download/55379/dots.mq4
ทิ้งคำตอบไว้
- 45 ฟอรัม
- 3,249 หัวข้อ
- 9,914 กระทู้
- 41 ออนไลน์
- 4,234 สมาชิก






