สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ตามแนวโน้ม (Trend Following) หรือมองหาสัญญาณการกลับตัว การเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญ Commodity Channel Index (CCI) เป็นหนึ่งในออสซิลเลเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูง แต่ข้อเสียหลักของมันคือความผันผวนสูง (Noisy) ซึ่งอาจทำให้เกิดสัญญาณหลอก (False Signal) ได้บ่อยครั้ง วันนี้เราจะมาเจาะลึกอินดิเคเตอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ นั่นคือ FX Sniper's T3 CCI

Concept: แนวคิดหลักของ T3 CCI

FX Sniper's T3 CCI คืออินดิเคเตอร์ที่นำค่า CCI แบบดั้งเดิมมา "ปรับให้เรียบ" ด้วยอัลกอริทึมการคำนวณที่เรียกว่า T3 Moving Average ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ขั้นสูงที่พัฒนาโดย Tim Tillson

หลักการทำงานแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนง่ายๆ คือ:

1. คำนวณค่า CCI: อินดิเคเตอร์จะคำนวณค่า CCI ตามปกติโดยใช้คาบเวลา (Period) ที่เราตั้งค่า (ค่าเริ่มต้นคือ 14)

2. ปรับค่าให้เรียบด้วย T3: นำค่า CCI ที่ได้จากขั้นตอนแรก มาผ่านกระบวนการคำนวณของ T3 เพื่อลดความผันผวนของเส้นสัญญาณ

ผลลัพธ์ที่ได้คือเส้น CCI ที่มีความเรียบ (Smooth) มากขึ้น ตัดสัญญาณรบกวนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้เทรดเดอร์เห็นภาพรวมของโมเมนตัมและแนวโน้มได้ชัดเจนกว่าเดิม และช่วยยืนยันสัญญาณการเข้าเทรดได้แม่นยำยิ่งขึ้น

หน้าตาของอินดิเคเตอร์:

• เส้นสีน้ำเงิน: คือเส้น T3 CCI ที่ผ่านการคำนวณแล้ว

• ฮิสโตแกรมสีเขียว/แดง: เป็นส่วนแสดงผลเพื่อให้ดูง่ายขึ้น

  • สีเขียว: เมื่อเส้น T3 CCI มีค่ามากกว่า 0 (บ่งบอกโมเมนตัมฝั่งซื้อ)

  • สีแดง: เมื่อเส้น T3 CCI มีค่าน้อยกว่า 0 (บ่งบอกโมเมนตัมฝั่งขาย)

วิธีการติดตั้ง Indicator บน MT4

1. ดาวน์โหลดไฟล์อินดิเคเตอร์ FX Sniper's T3 CCI.mq4

2. เปิดโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4)

3. ไปที่เมนู File > Open Data Folder

4. หน้าต่างใหม่จะเปิดขึ้นมา ให้เข้าไปที่โฟลเดอร์ MQL4 > Indicators

5. นำไฟล์ .mq4 ที่ดาวน์โหลดมาไปวางไว้ในโฟลเดอร์ Indicators

6. กลับมาที่โปรแกรม MT4 ไปที่หน้าต่าง "Navigator" (หากไม่มีให้กด Ctrl+N)

7. คลิกขวาที่ "Indicators" แล้วเลือก Refresh

8. จะปรากฏชื่อ FX Sniper's T3 CCI ในลิสต์ ให้ลากอินดิเคเตอร์ไปวางบนกราฟที่ต้องการใช้งาน

วิธีการใช้งานเพื่อหาจังหวะเข้าเทรด

สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy)

เราสามารถมองหาสัญญาณซื้อได้จาก 3 รูปแบบหลัก:

1. ตัดเส้นศูนย์ขึ้น (Zero-Line Cross):

   • สัญญาณ: เส้น T3 CCI (สีน้ำเงิน) วิ่งตัดเส้นระดับ 0 ขึ้นไปด้านบน และฮิสโตแกรมเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียว

   • ความหมาย: เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโมเมนตัมได้เปลี่ยนจากฝั่งขายมาเป็นฝั่งซื้อ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้น

2. ออกจากเขตขายมากเกินไป (Oversold):

   • สัญญาณ: เส้น T3 CCI ตกลงไปในเขต Oversold (เช่น ต่ำกว่า -100) แล้ววกตัวกลับขึ้นมาตัดเส้น -100 อีกครั้ง

   • ความหมาย: เป็นสัญญาณการกลับตัวที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง บ่งบอกว่าแรงขายเริ่มอ่อนกำลังลงแล้ว

3. สัญญาณ Bullish Divergence:

   • สัญญาณ: ราคากราฟทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม (Lower Low) แต่เส้น T3 CCI กลับทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (Higher Low)

   • ความหมาย: เป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวที่สำคัญที่สุด บ่งบอกว่าแม้ราคาจะลง แต่โมเมนตัมฝั่งขายอ่อนแรงลงอย่างชัดเจน และมีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาขึ้น

สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell)

เช่นเดียวกับฝั่งซื้อ เราสามารถมองหาสัญญาณขายได้จาก 3 รูปแบบ:

1. ตัดเส้นศูนย์ลง (Zero-Line Cross):

   • สัญญาณ: เส้น T3 CCI (สีน้ำเงิน) วิ่งตัดเส้นระดับ 0 ลงมาด้านล่าง และฮิสโตแกรมเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง

   • ความหมาย: เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าโมเมนตัมได้เปลี่ยนจากฝั่งซื้อมาเป็นฝั่งขาย มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลง

2. ออกจากเขตซื้อมากเกินไป (Overbought):

   • สัญญาณ: เส้น T3 CCI วิ่งขึ้นไปในเขต Overbought (เช่น สูงกว่า +100) แล้ววกตัวกลับลงมาตัดเส้น +100 อีกครั้ง

   • ความหมาย: บ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลัง และอาจถึงเวลาที่ราคาจะปรับฐานหรือกลับตัวลง

3. สัญญาณ Bearish Divergence:

   • สัญญาณ: ราคากราฟทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าเดิม (Higher High) แต่เส้น T3 CCI กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower High)

   • ความหมาย: เป็นสัญญาณเตือนว่าแม้ราคาจะขึ้น แต่โมเมนตัมฝั่งซื้อกำลังจะหมดแรง และมีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวเป็นขาลง

การตั้งค่า Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL)

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรด ต่อไปนี้คือแนวทางการตั้ง TP และ SL

การตั้ง Stop Loss (SL)

• สำหรับออเดอร์ Buy: ตั้ง SL ไว้ที่ จุดต่ำสุดล่าสุด (Recent Swing Low) ก่อนเกิดสัญญาณ หรือแนวรับที่สำคัญ

• สำหรับออเดอร์ Sell: ตั้ง SL ไว้ที่ จุดสูงสุดล่าสุด (Recent Swing High) ก่อนเกิดสัญญาณ หรือแนวต้านที่สำคัญ

การตั้ง Take Profit (TP)

• ใช้สัญญาณตรงข้าม: ปิดทำกำไรเมื่อเกิดสัญญาณฝั่งตรงข้าม เช่น เปิด Buy ไว้ และเมื่อ T3 CCI ตัดเส้น 0 ลงมา ก็ให้ปิดออเดอร์

• ใช้แนวรับ-แนวต้าน: ตั้ง TP ที่บริเวณแนวรับหรือแนวต้านถัดไปที่สำคัญ

• ใช้ Risk/Reward Ratio: กำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่คุ้มค่า เช่น 1:1.5 หรือ 1:2 (เช่น หากระยะ SL คือ 50 pips ระยะ TP ก็ควรจะเป็น 75-100 pips)

ข้อควรจำ: ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้ T3 CCI ร่วมกับการวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น Price Action, Chart Patterns, หรือการดูแนวโน้มใน Timeframe ที่ใหญ่กว่า และที่สำคัญที่สุดคือต้องมี การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดีเสมอ

สามารถ Download Indicator ได้ที่ : 

https://www.mql5.com/en/code/download/9171/FX_Snipervs_T3_CCI.mq4