เจาะลึกอินดิเคเตอร์ "AO Delta Confirmation" – กลยุทธ์เทรดด้วยสัญญาณสองชั้น
ในโลกของการเทรด การมีเครื่องมือที่ช่วยกรองสัญญาณรบกวน (Noise) และยืนยันจุดเข้าที่แม่นยำถือเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ อินดิเคเตอร์ "AO Delta Confirmation" ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างอินดิเคเตอร์สุดคลาสสิกอย่าง Awesome Oscillator (AO) เข้ากับตรรกะการยืนยันโมเมนตัมที่เรียกว่า "Delta" เพื่อสร้างสัญญาณเทรดที่มีความน่าเชื่อถือสูง
Concept และหลักการทำงาน
แนวคิดหลักของอินดิเคเตอร์ตัวนี้คือ "การยืนยันสองชั้น (Double Confirmation)" หมายความว่าสัญญาณจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขทั้ง 2 ส่วนต่อไปนี้เป็นจริงพร้อมกัน
ส่วนประกอบที่ 1: Awesome Oscillator (AO) Trigger
เป็นตัวจุดประกายสัญญาณแรก โดยจะมองหารูปแบบการกลับตัวของ AO แบบคลาสสิก:
-
สัญญาณ Buy: แท่งฮิสโตแกรมของ AO ต้องอยู่ ใต้เส้นศูนย์ (Zero Line) และเริ่มกลับตัวเป็น ทิศทางขึ้น (แท่งปัจจุบันสูงกว่าแท่งก่อนหน้า)
-
สัญญาณ Sell: แท่งฮิสโตแกรมของ AO ต้องอยู่ เหนือเส้นศูนย์ (Zero Line) และเริ่มกลับตัวเป็น ทิศทางลง (แท่งปัจจุบันต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า)
ส่วนประกอบที่ 2: Delta Confirmation Filter
เป็นตัวกรองชั้นที่สองเพื่อ ยืนยันโมเมนตัม ของราคา หลักการทำงานคือ:
-
อินดิเคเตอร์จะนับย้อนหลังไปตามจำนวนแท่งเทียนที่กำหนดใน
inp_depta_period(ค่าเริ่มต้นคือ 7 แท่ง) -
สำหรับการ Buy: จะนับว่าใน 7 แท่งนั้น มีกี่แท่งที่ ราคาปิด (Close) สูงกว่า จุดกึ่งกลาง (Midpoint) ของแท่งเทียนก่อนหน้า
-
สำหรับการ Sell: จะนับว่าใน 7 แท่งนั้น มีกี่แท่งที่ ราคาปิด (Close) ต่ำกว่า จุดกึ่งกลาง (Midpoint) ของแท่งเทียนก่อนหน้า
-
จำนวนที่นับได้จะต้องมีค่าอย่างน้อย 80% ของระยะเวลาที่กำหนด (สำหรับค่าเริ่มต้น 7 แท่ง คือต้องได้อย่างน้อย 5 ครั้ง) เพื่อเป็นการยืนยันว่าโมเมนตัมฝั่งนั้นแข็งแกร่งจริง
สรุป: ลูกศรจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อ AO ให้สัญญาณ และ Delta ยืนยันโมเมนตัม ในทิศทางเดียวกัน ทำให้สัญญาณที่ได้ถูกกรองมาแล้วชั้นหนึ่งและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
สามารถใช้กับสินค้าอะไรได้บ้าง?
อินดิเคเตอร์นี้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายตลาด โดยเฉพาะสินค้าที่มีแนวโน้ม (Trend) ชัดเจน:
-
Forex (ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา): คู่เงินหลัก (EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY) และคู่เงินรองที่มีแนวโน้มชัดเจน
-
Commodities (สินค้าโภคภัณฑ์): ทองคำ (XAU/USD), น้ำมัน (WTI, Brent)
-
Indices (ดัชนี): S&P 500, NASDAQ, SET50
-
Cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซี): BTC, ETH และสกุลเงินอื่นๆ ที่มีสภาพคล่องสูง
ข้อแนะนำ: ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานในตลาดที่กำลัง Sideways หรือวิ่งในกรอบแคบๆ เพราะอาจเกิดสัญญาณหลอกได้ง่าย
Timeframe ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน
-
H1 (1 ชั่วโมง) และ H4 (4 ชั่วโมง): เป็น Timeframe ที่แนะนำที่สุด เหมาะสำหรับ Day Trade และ Swing Trade เนื่องจากให้สมดุลระหว่างความถี่ของสัญญาณและความน่าเชื่อถือ สัญญาณรบกวนจะน้อยกว่า Timeframe เล็ก
-
D1 (1 วัน): เหมาะสำหรับ Position Trading สัญญาณจะเกิดไม่บ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะเป็นสัญญาณของแนวโน้มใหญ่ที่มีนัยสำคัญ
-
M15, M30 (15, 30 นาที): สามารถใช้ได้ แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากสัญญาณรบกวน (Noise) เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
วิธีการติดตั้ง Indicator
-
ดาวน์โหลดไฟล์อินดิเคเตอร์ (นามสกุล
.mq4หรือ.ex4) -
เปิดโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4)
-
ไปที่เมนู
File>Open Data Folder -
เข้าไปที่โฟลเดอร์
MQL4>Indicators -
นำไฟล์อินดิเคเตอร์ที่ดาวน์โหลดมาไปวางไว้ในโฟลเดอร์นี้
-
กลับมาที่โปรแกรม MT4 ไปที่หน้าต่าง "Navigator" (หากไม่มีให้กด Ctrl+N)
-
คลิกขวาที่ "Indicators" แล้วเลือก
Refresh -
ค้นหาชื่ออินดิเคเตอร์ในลิสต์ ลากแล้วปล่อยลงบนกราฟที่ต้องการใช้งาน
วิธีการใช้งาน
การเข้าออเดอร์ Buy (Entry Buy)
-
เงื่อนไข: รอจนกระทั่ง ลูกศรสีฟ้า (DeepSkyBlue) ชี้ขึ้น ⬆️ ปรากฏขึ้นที่ ใต้แท่งเทียน
-
การเข้าออเดอร์: รอให้แท่งเทียนที่มีสัญญาณปิดสมบูรณ์ แล้วจึงเข้าออเดอร์ Buy ที่ ราคาเปิดของแท่งเทียนถัดไป
การเข้าออเดอร์ Sell (Entry Sell)
-
เงื่อนไข: รอจนกระทั่ง ลูกศรสีแดง (Tomato) ชี้ลง ⬇️ ปรากฏขึ้นที่ เหนือแท่งเทียน
-
การเข้าออเดอร์: รอให้แท่งเทียนที่มีสัญญาณปิดสมบูรณ์ แล้วจึงเข้าออเดอร์ Sell ที่ ราคาเปิดของแท่งเทียนถัดไป
การตั้งค่า Stop Loss (SL)
-
สำหรับออเดอร์ Buy: ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ จุดต่ำสุด (Low) ของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณ หรือที่ Swing Low ล่าสุด ก่อนหน้า
-
สำหรับออเดอร์ Sell: ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ จุดสูงสุด (High) ของแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณ หรือที่ Swing High ล่าสุด ก่อนหน้า
การตั้งค่า Take Profit (TP)
สามารถเลือกใช้ได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละคน:
-
Risk/Reward Ratio (R:R): ตั้ง TP ให้มีระยะห่างเป็น 1.5 หรือ 2 เท่าของระยะ Stop Loss (เช่น SL 50 pips, TP 100 pips)
-
แนวรับ/แนวต้านถัดไป: มองหาแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญในอดีต แล้วตั้ง TP ไว้ที่บริเวณนั้น
-
รอสัญญาณฝั่งตรงข้าม: ถือออเดอร์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเกิดลูกศรสัญญาณฝั่งตรงข้ามจึงปิดออเดอร์ (เหมาะสำหรับสภาวะตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน)
ข้อควรระวัง: ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้อินดิเคเตอร์นี้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เช่น โครงสร้างราคา, แนวรับ-แนวต้าน และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารความเสี่ยง (Money Management) ที่ดีเสมอ
สามารถ Download Indicator ได้ที่ :
https://www.mql5.com/en/code/download/47073/amazing_oscilator_1.0.mq4
ทิ้งคำตอบไว้
- 45 ฟอรัม
- 3,248 หัวข้อ
- 9,912 กระทู้
- 40 ออนไลน์
- 4,234 สมาชิก





