ผลกระทบต่อทองคำ

• ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการค้าโลกที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการภาษี โดยเฉพาะการขึ้นภาษีจีนอย่างมาก จะกระตุ้นให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ
• ความผันผวนในระยะสั้น อาจมีความผันผวนในราคาทองคำในช่วงแรกของการประกาศนโยบาย เนื่องจากตลาดจะพยายามประเมินผลกระทบที่แท้จริง
• ปัจจัยหนุนเพิ่มเติม หากประเทศอื่นๆ ตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะยิ่งเพิ่มความกังวลและหนุนราคาทองคำให้สูงขึ้น

ผลกระทบต่อตลาดหุ้น

• ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง การขึ้นภาษีจีนอย่างรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน และอาจลุกลามไปยังเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความกังวลต่อการเติบโตของบริษัทต่างๆ และผลกำไร
• หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากจีนเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของสินค้าเหล่านี้ การขึ้นภาษีจะเพิ่มต้นทุนและลดความสามารถในการแข่งขัน
• ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลง ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง และอาจนำไปสู่การเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
• หุ้นในประเทศที่ไม่ถูกขึ้นภาษีอาจได้รับผลกระทบจำกัด อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ก็จะส่งผลกระทบต่อทุกตลาดในที่สุด
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เองก็อาจปรับตัวลง แม้ว่าจะมีมาตรการเว้นภาษีให้กับบางประเทศ แต่การขึ้นภาษีจีนอย่างมาก และความเสี่ยงของการตอบโต้จากจีน ย่อมส่งผลเสียต่อบริษัทอเมริกันที่ทำธุรกิจกับจีน หรือนำเข้าสินค้าจากจีน

ผลกระทบต่อการเงินโลก

• ความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มสูงขึ้น การขึ้นภาษีจีนอย่างมากถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งทางการค้า ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้จากจีน และประเทศอื่นๆ
• เงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น การขึ้นภาษีจะส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น ซึ่งอาจผลักดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่นำเข้าสินค้าจากจีน
• การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก การค้า และการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว
• ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจะเพิ่มความผันผวนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
• แรงกดดันต่อธนาคารกลาง ธนาคารกลางทั่วโลกอาจเผชิญกับแรงกดดันในการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อรับมือกับผลกระทบจากนโยบายการค้า เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน

นโยบาย "ทรัมป์ ประกาศเว้นภาษี เป็นเวลา 90 วัน ให้กับประเทศต่างๆ ที่ไม่ตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยมาตรการภาษี แต่ขึ้นภาษีจีน เพิ่มเป็น 125%" จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตลาดหุ้นและการเงินโลก โดยจะเพิ่มความตึงเครียดทางการค้า กดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่ราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของจีนและประเทศอื่นๆ รวมถึงรายละเอียดและระยะเวลาของมาตรการต่างๆ

ข้อควรระวัง การวิเคราะห์นี้เป็นไปตามข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงในนโยบายหรือสถานการณ์โลกอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันได้ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ