ไม่มีกลยุทธ์การเทรดใดที่ให้ผลกำไรหรือทำให้ชนะได้มากที่สุดที่ทุกคนสามารถใช้ได้แบบครอบจักรวาลหรอก เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาวะตลาด ความเชี่ยวชาญของเทรดเดอร์ และการยอมรับความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์จำนวนมากค้นพบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ที่เทรดตามแนวโน้ม ด้วยการเข้าสู่การเทรดตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์จะเพิ่มความน่าจะเป็นของสถานะที่ทำกำไรได้ การผสมผสานกลยุทธ์การติดตามแนวโน้มเข้ากับเทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการควบคุมผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ไม่มีกลยุทธ์ CFD เดียวที่รับประกันว่าทำกำไรได้มากที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาวะตลาด, สินทรัพย์ที่เทรด, ความเสี่ยงที่รับได้ และประสบการณ์ของผู้เทรดเอง

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมและมีโอกาสทำกำไรสูงหากใช้ได้อย่างเหมาะสม ได้แก่:

• Scalping (สแคปปิ้ง): เปิด/ปิดสถานะอย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไรเล็กน้อยจากความผันผวนของราคาจำนวนมากครั้ง
• Day Trading (เดย์เทรดดิ้ง): เปิด/ปิดสถานะภายในวันเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมข้ามคืนและลดความเสี่ยงจากข่าวสารช่วงปิดตลาด
• Swing Trading (สวิงเทรดดิ้ง): ถือสถานะนานขึ้น (หลายวันถึงหลายสัปดาห์) เพื่อจับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง
• Trend Following (ตามแนวโน้ม): เข้าสู่สถานะตามทิศทางของแนวโน้มราคาที่ชัดเจน
• News Trading (เทรดตามข่าว): เข้าสถานะเพื่อตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะส่งผลต่อราคา

ข้อสำคัญ: ไม่ว่าจะเลือกกลยุทธ์ใด การทำความเข้าใจตลาด, การบริหารความเสี่ยงที่ดี, การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และการมีวินัยในการเทรด เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

เทรดระยะกลาง (Medium Term Trading): กลยุทธ์ที่นิยมมากที่สุด ในการทำกำไรจาก Forex