Liquidity คืออะไร มีผลกับเทรดเดอร์อย่างไร
Liquidity หรือสภาพคล่อง หมายถึงความสามารถในการซื้อขายสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ทำให้ราคาของสินทรัพย์นั้นเปลี่ยนแปลงมากนัก ในตลาดการเงินหรือการเทรด Forex สภาพคล่องมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเทรดเดอร์และนักลงทุน และนี่คือเหตุผลที่ทำไมเทรดเดอร์ต้องรู้เกี่ยวกับสภาพคล่องไปดูกัน
ความหมายของสภาพคล่อง
1. ตลาดมีสภาพคล่องสูง: หมายถึงตลาดที่มีการซื้อขายมากและสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ได้โดยไม่ทำให้ราคาผันผวนมาก ตัวอย่างเช่น ตลาด Forex มีสภาพคล่องสูงมากเนื่องจากมีผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากและปริมาณการซื้อขายที่สูง ตัวอย่างคู่เงินที่มี สภาพคล่องที่สูง ได้แก่ EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น) GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ) USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส) AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)
2. ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ: หมายถึงตลาดที่มีการซื้อขายน้อย การซื้อหรือขายสินทรัพย์ในตลาดนี้อาจทำให้ราคาผันผวนมาก ตัวอย่างเช่น หุ้นของบริษัทขนาดเล็กที่มีการซื้อขายน้อยอาจมีสภาพคล่องต่ำ ตัวอย่างคู่เงินที่มี สภาพคล่องที่ต่ำ ได้แก่ USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี) USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์ แอฟริกาใต้)
USD/RUB (ดอลลาร์สหรัฐ/รูเบิล รัสเซีย) USD/SGD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ สิงคโปร์) USD/HKD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ ฮ่องกง)
### tip. สาเหตุที่คู่เงินเหล่านี้มีสภาพคล่องต่ำ:
- การเข้าถึงตลาดจำกัด: ตลาดของประเทศเหล่านี้อาจไม่มีการเข้าถึงตลาดโลกอย่างเต็มที่หรือมีข้อจำกัดทางการค้า
- การควบคุมจากรัฐบาล: บางประเทศมีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเข้มงวด ซึ่งจำกัดการซื้อขายในตลาดโลก
- เศรษฐกิจขนาดเล็กหรือผันผวน: เศรษฐกิจที่มีขนาดเล็กหรือมีความผันผวนสูงมักจะไม่ดึงดูดนักลงทุนระยะยาวมากนัก
- ความไม่แน่นอนทางการเมือง: ประเทศที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงมักจะมีสภาพคล่องต่ำในคู่เงินของพวกเขา
### เหตุผลที่เทรดเดอร์ต้องรู้เกี่ยวกับสภาพคล่อง
1. ความเสี่ยงในการเข้าและออกจากตลาด: สภาพคล่องสูงช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากตลาดได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถขายสินทรัพย์ในราคาที่ต้องการ สภาพคล่องต่ำอาจทำให้เทรดเดอร์ติดอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถขายได้ในราคาที่ต้องการหรือเกิดความสูญเสียมาก
2. การตั้งราคาที่ถูกต้อง: ในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง ราคาสินทรัพย์จะมีความเสถียรและสะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริงได้มากกว่า ในขณะที่ตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ ราคาสินทรัพย์อาจผันผวนมากและอาจไม่สะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริง
3. ต้นทุนการเทรดต่ำ: ในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง สเปรด (spread) ระหว่างราคาเสนอซื้อ (bid) และราคาเสนอขาย (ask) จะต่ำ ทำให้ต้นทุนการเทรดต่ำลง ในขณะที่ตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ สเปรดอาจกว้างขึ้น ทำให้ต้นทุนการเทรดสูงขึ้น
4. ความสามารถในการวิเคราะห์และคาดการณ์: ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงมักจะมีข้อมูลและสถิติที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้ดีขึ้น
**สรุป**: การเข้าใจสภาพคล่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ เพราะมันช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในตลาดการเงิน
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับ
ทิ้งคำตอบไว้
- 39 ฟอรัม
- 1,028 หัวข้อ
- 3,201 กระทู้
- 46 ออนไลน์
- 1,406 สมาชิก