ซื้อขาย CFD อย่างมีกลยุทธ์: สร้างสัญญาณของคุณเองและเทรดอย่างมีวินัย
ตลาด Contracts for Difference (CFD) นำเสนอโอกาสในการซื้อขายสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, หรือสกุลเงินดิจิทัล โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ แต่เป็นการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคา บทความนี้จะสรุปแก่นแท้จากหนังสือ "Buy Signals Sell Signals" ของ Steve Burns และนำมาปรับใช้กับตลาด CFD เพื่อให้คุณสามารถสร้างระบบการซื้อขายที่มีวินัยและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
หัวใจสำคัญ: เทรดด้วยสัญญาณราคา ไม่ใช่อารมณ์หรือการคาดเดา
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ การเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้มาจากการทำนายอนาคต, การตามข่าวลือ, หรือการใช้อารมณ์ตัดสินใจ (เช่น ความกลัวที่จะพลาด หรือความโลภ) แต่มาจากการ ตอบสนอง ต่อการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นจริงบนกราฟ หรือที่เรียกว่า Price Action
- ทำไมต้อง Price Action? เพราะราคาสะท้อนข้อมูลทั้งหมดที่ตลาดรับรู้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐาน, ข่าวสาร, หรือความคาดหวังของนักลงทุน การสังเกตพฤติกรรมราคาจึงเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดในการจับแนวโน้มและจุดกลับตัว
- หลีกเลี่ยงอารมณ์: ความกลัวและความโลภเป็นศัตรูตัวฉกาจของนักเทรด การมีระบบการซื้อขายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลและมีวินัย
สร้างระบบการเทรด CFD ของคุณเอง: คำแนะนำทีละขั้นตอน
การสร้างระบบเทรดที่เป็นของคุณเองนั้นสำคัญมาก เพราะคุณจะเข้าใจตรรกะเบื้องหลังและมีความมั่นใจในการปฏิบัติตาม
1. เลือกประเภทตลาด CFD ที่คุณสนใจ: CFD มีสินทรัพย์ให้เลือกหลากหลาย เช่น:
- CFD หุ้น: เช่น Apple, Google
- CFD ดัชนี: เช่น S&P 500, DAX
- CFD สินค้าโภคภัณฑ์: เช่น ทองคำ, น้ำมัน
- CFD คู่สกุลเงิน (Forex): เช่น EUR/USD, GBP/JPY
- CFD คริปโตเคอร์เรนซี: เช่น Bitcoin, Ethereum
การเลือกสินทรัพย์ที่คุณคุ้นเคยและเข้าใจความเคลื่อนไหวของตลาดนั้นๆ จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้ดีขึ้น
2. กำหนดกรอบเวลา (Timeframe): ระบบเทรดตามแนวโน้มมักจะใช้กราฟที่แสดงข้อมูลในระยะกลางถึงระยะยาว เช่น:
- กราฟรายวัน (Daily Chart): เหมาะสำหรับการจับแนวโน้มที่กินเวลานานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
- กราฟรายสัปดาห์ (Weekly Chart): เหมาะสำหรับแนวโน้มที่กินเวลานานหลายเดือนถึงหลายปี
3. กำหนดสัญญาณซื้อ (Buy Signal) และสัญญาณขาย (Sell Signal): นี่คือกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนที่จะบอกคุณว่าเมื่อไหร่ควรเข้าหรือออกจากการเทรด สัญญาณเหล่านี้ควรจะง่ายและไม่ซับซ้อน ผู้เขียนแนะนำระบบที่ใช้การ "ทะลุจุดสูงสุด/ต่ำสุดใหม่" (New High/New Low Breakout) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
ตัวอย่างระบบง่ายๆ ที่ใช้ได้กับ CFD (ตามแนวทางของหนังสือ):
-
ระบบ 100/50-day Breakout (สำหรับตลาดขาขึ้น/ซื้อ):
- สัญญาณซื้อ (Buy Signal): เมื่อราคาปิดของ CFD นั้นๆ ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 100 วันที่ผ่านมา (New 100-day high)
- เหตุผล: แสดงว่าแรงซื้อแข็งแกร่งและราคาอยู่ในช่วงขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
- สัญญาณขาย (Sell Signal) / จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss): เมื่อราคาปิดของ CFD นั้นๆ ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 50 วันที่ผ่านมา (New 50-day low)
- เหตุผล: แสดงว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจสิ้นสุดลง หรือเป็นการปรับฐานที่ลึกพอที่จะพิจารณาตัดขาดทุนเพื่อรักษากำไร
- สัญญาณซื้อ (Buy Signal): เมื่อราคาปิดของ CFD นั้นๆ ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 100 วันที่ผ่านมา (New 100-day high)
-
ระบบ 100/50-day Breakout (สำหรับตลาดขาลง/ขายชอร์ต):
- สัญญาณขายชอร์ต (Sell Short Signal): เมื่อราคาปิดของ CFD นั้นๆ ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 100 วันที่ผ่านมา (New 100-day low)
- เหตุผล: แสดงว่าแรงขายแข็งแกร่งและราคาอยู่ในช่วงขาลงที่แข็งแกร่ง
- สัญญาณซื้อคืน (Buy to Cover Signal) / จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss): เมื่อราคาปิดของ CFD นั้นๆ ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 50 วันที่ผ่านมา (New 50-day high)
- เหตุผล: แสดงว่าแนวโน้มขาลงอาจสิ้นสุดลง หรือเป็นการปรับฐานขึ้นที่ลึกพอที่จะพิจารณาปิดสถานะ Short
- สัญญาณขายชอร์ต (Sell Short Signal): เมื่อราคาปิดของ CFD นั้นๆ ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 100 วันที่ผ่านมา (New 100-day low)
4. การบริหารจัดการเงินทุน (Money Management) และขนาดการลงทุน (Position Sizing) – สิ่งที่สำคัญที่สุดในตลาด CFD
นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ระบบนี้ทำงานได้จริงและช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาดได้นานพอที่จะทำกำไรก้อนใหญ่ การซื้อขาย CFD มีอัตราทด (Leverage) ซึ่งเพิ่มทั้งโอกาสทำกำไรและขาดทุน ดังนั้นการบริหารขนาดการลงทุนจึงสำคัญยิ่งกว่าตลาดหุ้นปกติ
- กำหนดขนาด Position Size ให้ "เล็กมากๆ": ผู้เขียนเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่ระบบ "เทรดใหญ่เพื่อรวยเร็ว" แต่เป็นการเติบโตของเงินทุนในระยะยาวผ่านการกระจายความเสี่ยง
- คำแนะนำ: คุณควรเสี่ยงเงินลงทุนในแต่ละครั้งที่เปิดสถานะ CFD เพียง 0.2% ถึงสูงสุด 2% ของเงินทุนทั้งหมด ที่คุณใช้เทรด
- ตัวอย่าง: หากคุณมีเงินทุนในบัญชี CFD จำนวน $10,000 และคุณต้องการเสี่ยง 1% ต่อการเทรด ($100)
- คุณต้องการเปิดสถานะ CFD หุ้น Tesla (TSLA) ซึ่งราคาปัจจุบันอยู่ที่ $180 และคุณได้กำหนดจุดหยุดขาดทุนไว้ที่ $170 (ขาดทุน $10 ต่อหุ้น)
- จำนวนหุ้น CFD ที่คุณสามารถซื้อได้: (เงินที่ยอมเสี่ยง / ผลต่างราคาต่อหุ้นที่ยอมขาดทุน) = $100 / $10 = 10 หุ้น CFD
- นี่หมายความว่าคุณจะซื้อ TSLA เพียง 10 หุ้น CFD ซึ่งมีมูลค่ารวมเพียง $1,800 เท่านั้น (ก่อนใช้ Leverage) และหากราคาลงไปถึงจุดหยุดขาดทุน คุณจะขาดทุนเพียง $100 ซึ่งเท่ากับ 1% ของเงินทุนของคุณ
- ตัวอย่าง: หากคุณมีเงินทุนในบัญชี CFD จำนวน $10,000 และคุณต้องการเสี่ยง 1% ต่อการเทรด ($100)
- ประโยชน์ของ Position Size ที่เล็ก:
- จำกัดการขาดทุน: เมื่อแนวโน้มพลิกกลับ คุณจะขาดทุนเพียงเล็กน้อย
- อยู่รอดในตลาด: คุณสามารถทำการเทรดได้หลายครั้ง แม้จะเจอช่วงที่ตลาดผันผวนหรือไม่เอื้ออำนวย
- กระจายความเสี่ยง: การใช้ Position Size ที่เล็กทำให้คุณสามารถเปิดสถานะ CFD ในสินทรัพย์หลายประเภทพร้อมกัน (เช่น หุ้น, ดัชนี, ทองคำ) ซึ่งลดความเสี่ยงโดยรวมและเพิ่มโอกาสในการจับแนวโน้มที่แข็งแกร่งในตลาดใดตลาดหนึ่ง
5. การ Backtest (ทดสอบย้อนหลัง) และปรับปรุง: ก่อนนำระบบไปใช้จริง ควรนำกฎที่คุณสร้างขึ้นไปทดสอบกับข้อมูลราคาในอดีต (Backtest) เพื่อดูว่าระบบของคุณมีประสิทธิภาพแค่ไหน หากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ ให้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขและทดสอบใหม่ ทำซ้ำจนกว่าจะได้ระบบที่น่าพอใจและเหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณ
6. วินัยเป็นกุญแจสำคัญ: เมื่อคุณมีระบบที่ชัดเจนและทดสอบแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำตามกฎเหล่านั้นอย่างเคร่งครัด ไม่เปลี่ยนแปลงกฎกลางคันเพราะอารมณ์, ข่าวสาร, หรือความเห็นของคนอื่น การเทรดตามระบบเชิงกลจะช่วยลดอคติทางอารมณ์และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว
สรุปและคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับตลาด CFD
การซื้อขาย CFD ด้วยแนวคิดจาก "Buy Signals Sell Signals" คือการเน้นที่ การตามแนวโน้ม และ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด ผ่านการใช้ Position Size ที่เล็กมากๆ:
- พัฒนาระบบของคุณ: เริ่มต้นด้วยกฎง่ายๆ อย่าง 100/50-day Breakout แล้วปรับให้เหมาะสมกับสินทรัพย์ CFD ที่คุณสนใจและกรอบเวลาที่คุณเลือก
- ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินทุน: นี่คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและทำกำไรในตลาด CFD กำหนด Position Size ที่เล็ก (0.2% - 2% ของเงินทุนต่อการเทรด) และไม่ละเมิดกฎนี้
- กระจายความเสี่ยง: อย่าเทรดเพียงสินทรัพย์เดียว ใช้ Position Size ที่เล็กเพื่อให้คุณสามารถเปิดสถานะใน CFD ที่แตกต่างกันได้หลายชนิด เพื่อเพิ่มโอกาสในการจับแนวโน้มที่ทำกำไร
- มีวินัย: เมื่อมีระบบแล้ว ให้ทำตามอย่างเคร่งครัด อารมณ์จะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของคุณ
- เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง: ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ การเรียนรู้และปรับปรุงระบบของคุณเป็นสิ่งจำเป็น
ด้วยการสร้างระบบการซื้อขายที่ชัดเจน การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีวินัย และการยึดมั่นในกฎเกณฑ์ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด CFD ได้อย่างยั่งยืน
การเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็น ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่มีอย่างต่อเนี่องค่ะ
ทิ้งคำตอบไว้
- 42 ฟอรัม
- 2,159 หัวข้อ
- 6,158 กระทู้
- 9 ออนไลน์
- 2,269 สมาชิก