เว็บบอร์ดลงโพสต์ฟรี
ดูอันดับนักแข่ง ea
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

มาแชร์ ประสบการณ์เทรดและ Mind Set ของการเทรด Forex ของตัวเองที่ผ่านมา หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่าน

5 กระทู้
3 ผู้ใช้
9 Reactions
398 เข้าชม
thaiforex
(@thaiforex)
มนุษย์ที่เท่ห์ที่สุดในบอร์ด เพราะมีคนเดียว Admin
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
สาย long
สาย Short
กูรูของเว็บบอร์ด
ตลาดหมี
ตลาดหมีขาว
ตลาดกระทิง
โพสกะทู้ครบ 1000
กูรูเว็บบอร์ด
นักวิเคราะห์กราฟ
Rank F
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 911
หัวข้อเริ่มต้น  
สวัสดีครับ วันนี้ขอมาแชร์ ประสบการณ์เทรดและ Mind Set ของการเทรด Forex ของตัวเองที่ผ่านมา หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่าน
-------------------------------------------------------------------------
 
ประวัติผู้เขียน 
เริ่มลงทุนมาตั้งแต่ อายุ 20 โดยเริ่มจากตลาดหุ้นไทย อนุพันธ์ (TFEX) และ Forex ตามลำดับ ซึ่งถ้านับแค่ตลาด Forex น่าจะเทรดมาได้ประมาณ 3 ปี
ปัจจุบันผมอายุ 31 ปี และยังห่างไกลจากคำว่าประสบความสำเร็จในการเทรดแต่จากประสบการณ์ในโลกการลงทุนประมาณ 11 ปี หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกท่านที่ได้อ่าน
 
-------------------------------------------------------------------------
 
"สมรภูมิที่โดดเดี่ยว"
ก่อนจะเข้าเรื่อง ผมมี 1 คำถาม ที่อยากให้ทุกท่านช่วยกันตอบนะครับ "เป้าหมายสูงสุดหรือวัตถุประสงค์ในการเข้ามาเทรด Forex คืออะไร?" อาจจะลองตอบตัวเองหรือ มาแชร์ในคอมเม้นกันได้นะครับ
 
จากประสบการณ์และมุมมองความคิดของตัวผมเองที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องใด เรื่องนึง มันคือ การที่เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน
 
"ความฝันที่ปราศจากเป้าหมายที่ชัดเจน สุดท้ายก็เป็นแค่ความฝัน"
 
ผมจะยกตัวอย่างความฝันและเป้าหมายของตัวผมเองให้เป็นตัวอย่างโดยผมเริ่มต้นจากการเข้ามาเทรด Forex ด้วยความฝัน ความหวังว่า เราจะสามารถรวย มั่งคั่ง มีอิสระทางการเงิน เป็น Full Time Trader เหมือนคนอื่นๆ ที่เราเห็นได้ตาม Social ต่างๆ ต้องบอกว่าอาชีพอื่นก็สามารถรวยได้เหมือนกัน แต่มันต่างกันที่ความเร็ว และ อิสระภาพทางเวลา คุณสามารถทำธุรกิจ ทำงานเก็บเงินประหยัด ก็รวยได้ แต่คำถาม คือเมื่อไหร่ อาจจะใช้เวลา 20-30ปี สุขภาพร่างกายเราจะยังไหวไหม หรือจะอยู่ถึงเปล่า ก็ไม่สามารถบอกได้ เพราะฉะนั้นอะไรที่สามารถ พาเราไปถึงความฝันได้เร็ว ก็ต้องลองดู แถมทุกวันนี้ เรายังเห็น Influencer และ Coach ต่างๆ ออกมาโชความสำเร็จ กันมากมาย ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เรากระหายมากขึ้น ...และนี่คือจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ผมเข้ามาเทรด Forex
ในช่วงเริ่มต้น ก่อนเทรดจริง
 
ผมได้ศึกษาทุกอย่าง ที่เป็นความรู้ที่เกี่ยวกับการเทรด Forex เยอะมาก ผมใช้เวลาเรียนรู้ ทุกอย่าง ตั้งแต่ตื่นเช้า จนเข้านอน แม้เวลาที่ไม่ว่าง อย่างน้อยก็จะ เปิดฟัง Podcast ที่เกี่ยวกับ การเทรด Forex เรียกว่า "เข้าเส้นเลย" เสพติดมาก ยิ่งฟัง ยิ่งรู้สึกมีความหวัง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่อง Youtube ที่เกี่ยวกับ Forex เรียกว่า ดูเกือบทุกช่อง เก็บครบแต่อาจจะไม่ได้ดูทุกวิดีโอสิ่งที่ได้คือเราจะได้เห็นถึงแนวคิดและเทคนิคของคนนั้นๆ ที่เอาออกมาแชร์ คุณจะเริ่มเห็นถึงความแตกต่างของเทคนิคและ Mind Set ที่แต่ละคนแชร์ออกมา ซึ่งผมบอกไม่ได้ว่าเทคนิคไหนดีที่สุด เพราะคนเรามีวิธีคิด มุมมองที่ไม่เหมือนกัน แต่พอจะรู้ว่าเทคนิคและ Mind Set แบบไหนที่เข้ากับ Life Style และ Mind Set ของตัวเองมากที่สุดก็จะเลือกฟังแนว ที่เราคิดว่าตรงจริตกับตัวเองมากที่สุด
 
-------------------------------------------------------------------------
 
เมื่อเริ่มเทรดจริง
ความรู้ตอนนั้นที่ผมได้ศึกษามาแล้ว ลองดูนะครับ สำหรับท่านที่พึ่งเข้ามาใหม่คุณเข้าใจกี่เรื่องจากที่ผมมี ซึ่งอันนี้เป็นความรู้ที่ผมศึกษาก่อนเข้าเทรด Forex 1 เดือนเต็มๆ เรียงลำดับเรื่องที่ผมศึกษาให้ตามนี้ครับ
1.พื้นฐานการเทรด Forex : ผมพิมใน youtube ว่า การเทรด Forex มือใหม่ Forex คืออะไร วิดีโอไหนขึ้นมาก็กดฟังไป ดูไปเรื่อยๆ 2-3 คลิปก็เข้าใจแล้ว
2.การเปิดบัญชีเทรด Forex และ วิธีการเลือก Broker ข้อควรระวัง
(Broker ดีจะช่วยลดปัญหาปวดหัวในการเทรดได้เยอะมาก)
3.การเลือกคู่เงินที่จะเทรด : เทรดคู่เงินไหนดี?
(คนส่วนใหญ่นิยมเทรดแต่ทอง แต่ยังมีคู่เงินอีกหลายๆ คู่ ซึ่งอาจจะเข้าเทคนิคที่คุณเรียนมา มากกว่าทองคำก็ได้ ซึ่งการวิ่งของทองมันเร็วและแรงก็จริง แต่ในตลาด Forex คุณสามารถชดเชยจุดนี้ได้ด้วย Lot Size เพราะฉะนั้น การวิ่งของราคา จะใกล้หรือไกล ไม่ใช่ปัญหา)
4.พื้นฐานการวิเคราะห์ทางเทคนิค: แท่งเทียน
5.การใช้คำสั่งซื้อขายต่าง Order Type : sell limit, buy limit sell stop, buy stop และอื่นๆ
6.ลองฝึกการออก order ด้วยบัญชี Demo เทรดเล่นๆ ฝึกใช้เครื่องมือ
7.เวลาในการเทรด ความสำคัญของแต่ละ Time Zone
8.กลยุทธ์การเทรดต่างๆ เช่น Trend Following , Swing Trade
9.การใช้ Indicator : MACD RSI EMA เป็นต้น
10.ปัจจัยพื้นฐาน และข่าวที่กระทบต่อคู่เงินนั้นๆ
11.Risk Management (การคำนวณ Lot Size / RRR เป็นต้น)
12.จิตวิทยาในการเทรด: เรื่องนี้ *** เอาไว้เลย ก่อนเทรด เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมฟังเยอะที่สุด และคิดว่าตัวเองเข้าใจแล้วเป็นอย่างดี
 
-------------------------------------------------------------------------
 
หลังจากมั่นใจระดับนึงว่าเรามีความรู้แล้ว ก็เริ่มเทรดจริง
ประสบการณ์ช่วงแรกๆ เรียกว่า โดนรับน้องกันเลยทีเดียว
ในตอนนั้นผมมีทุกอย่างเงินทุน ความรู้ ความตั้งใจ ยกเว้นเรื่องเดียวที่ไม่มี คือประสบการณ์ ซึ่งมันไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็น ความรู้ได้ทั้งหมด ไม่สามารถบอกคนอื่นๆ แล้วคนนั้นๆ ไปทำตามได้ 100% ผมเข้าใจแค่ว่า การเข้าใจเรื่องการวาง Stop Loss และมี Money Management ก็จะสามารถอยู่รอดในตลาดนี้ได้ ซึ่งมันไม่ผิดและก็ไม่ถูกสะทีเดียว ช่วงเดือนแรกๆ ที่เทรดผมมี SL ทุกไม้ คำนวณ Risk Management ออก lot Size 1% มีจุด TP มีแผนทุกอย่าง จดบันทึกการเทรดอย่างดี มีทั้ง Excel และ power point cap รูปกราฟ ณ จุดเข้าและออก
ในตอนนั้นผมคิดว่านี้แหละคือเส้นทางสู่ Trader มืออาชีพ...
 
-----------------------------------------------------
เพื่อไม่ให้ยาวเกินไปเดี๋ยวมาต่อในกระทู้ข้างล่างครับ 

   
อ้างอิง
thaiforex
(@thaiforex)
มนุษย์ที่เท่ห์ที่สุดในบอร์ด เพราะมีคนเดียว Admin
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
สาย long
สาย Short
กูรูของเว็บบอร์ด
ตลาดหมี
ตลาดหมีขาว
ตลาดกระทิง
โพสกะทู้ครบ 1000
กูรูเว็บบอร์ด
นักวิเคราะห์กราฟ
Rank F
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 911
หัวข้อเริ่มต้น  
เพื่อไม่ให้ยืดยาวเกินไป ผมขอสรุปสิ่งที่ผมเจอในช่วงการเทรดทั้งหมดให้ฟังแบบสั้นๆ ในสถานการณ์ที่ ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ในด้านของจิตใจ
 
1. "ความโลภ"
สิ่งที่เกิดขึ้น: พอตตัวเองเทรดกำไรทีละ 1%-2% ได้ๆ เสียๆ พอตไม่โตสักที แล้วเมื่อไหร่จะรวย ...ในระหว่างที่นั่งท้อใจ วิดีโอจาก TikTok Youtube ก็เด้งใส่หน้า ...!!!โอ้โห คนนั้นกำไรเป็นแสนเป็นล้าน ใน 1 วัน ใน 1 ชั่วโมง รถซูเปอร์คาร์ก็มี รถหรูก็เพียบ บ้านหรูมาก เทรดไป เที่ยวไป ชิลๆ เทรดง่ายๆ กำไรไม่รู้จบ การเทรดง่ายนิดเดียว เต็มไปหมด
 
ผลที่ตามมา: จากที่พอร์ตเราถึงแม้จะโตช้าหรือไม่ค่อยโต แต่ก็ไม่เสียเยอะ ตอนนี้กลายเป็น รถไฟเหาะเลยครับ จากกำไรขาดทุนหลักสิบ หลัก ร้อย usd ตอนนี้เงินในพอต วิ่งเป็นหลักพัน หลักหมื่น usd ได้เยอะ เสียเยอะ วนไปวนมาตอนได้เยอะก็อยากได้อีก ตอนเสียเยอะก็อยากเอาคืน ซ้ำไป ซ้ำมา แผนที่วางไว้ต้องโยนทิ้ง บันทึกจดไม่ได้แล้ว ปกติ วันนึง เปิดแค่ 1-2 order มันพอจดได้ แต่ตอนนี้เปิดเป็น Barcode เลย 20 order ต่อวัน จากที่เทรด 0.01 กระโดดไป 1 lot จนไปถึง 10 lot ลองคิดตามดูนะครับ ทองคำ 10lot กับ 0.01lot จำนวนเงินมันต่างกันขนาดไหน เทรดไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุดพัก คืนไหนมีข่าว ปู่ออกมาพูดที ตาค้างเลย ปกตินอนไม่เกิน 5 ทุ่ม วันไหนมีข่าว มี order ค้างแทบไม่ได้นอน จะเอามือถือไว้ใกล้ๆ ที่นอน และสดุ้งตื่นมา เปิดดูพอร์ตตลอด
 
...สิ่งที่จะหยุดเหตุการณ์เหล่านี้ได้มีอย่างเดียวครับ คือ พอร์ตแตก ตอนศึกษาหลายท่านก็เตือน ในหลายๆ ช่องก็เตือน ว่าอย่า Overtrade ต้องมี SL คือเรารู้ทุกอย่าง แต่ก็นั้นแหละครับ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ต้องเจอเอง
 
-------------------------------------------------------------------------
 
2. "ความกลัว"
สิ่งที่เกิดขึ้น: คนเรามักจะกลัวอยู่ 2 อย่างครับ คือสิ่งใหม่ที่ตัวเองยังไม่เคยเจอ หรือไม่รู้มาก่อน กับ สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำๆ จนไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
เหตุการณ์แรก : การตั้ง Stop Loss สิ่งที่คุณเรียนมาคือ Stop Loss และ Lot Size ที่ออกสำคัญมาก เพราะมันเป็นตัวกำหนดว่า พอร์ตของคุณจะเสี่ยงเท่าไหร่จะแตกในกี่วัน แต่ถ้าคุณเจอแบบนี้ละจะทำอย่างไร
ผม มี stop loss ทุก order และบ่อยครั้งที่ราคาลงมาโดน Stop Loss แล้วกลับตัวไปทางที่ผมตั้งไว้ใน ตอนแรก ถ้าโดนแค่ 1-2ครั้ง คงยังไม่เป็นไร แต่ถ้าโดน บ่อยๆ แล้วราคาแถมวิ่งไปไกลด้วย เป็นคุณจะทำอย่างไรครับ
แน่นอน Stop Loss อย่าเอาไว้เลย ซึ่งทุกวันนี้ก็มีหลายระบบ หลายเทคนิคที่ไม่มี Stop Loss เช่น Martingale , Hedging , Grid เป็นต้น
 
ส่วนตัวได้ลองใช้หลายระบบแล้วแบบไม่ SL คือมันดีจริง กำไรเยอะ Balance โตตลอดวางแต่ TP ทุน 100usd ปั้นไป 3000USD ใช้เวลา 1 เดือน win rate สูงมาก 80-90% แต่มันจะมีจังหวะนึงที่ ราคาวิ่งไปในทิศเดียว แล้วพอร์ตคุณยังไงก็จะแตก ซึ่งผมทำแบบนี้ ประมาณ 3-4 รอบได้ ปั้นจาก 100usd ไป 1000 ไป 3000 ไป 4000usd บ้าง แต่สุดท้าย ก็แตกอยู่ดี คือไม่ได้ถอนเลย เพราะยิ่ง Balance เยอะ lot ก็ใหญ่ตามเพื่อเร่งกำไร กลยุทธ์นี้ดีมากตอนตลาด Side Way ไม่ว่าจะ รูปแบบไหนเทรดได้หมด จะแพ้แค่รูปแบบเดียวคือ ตลาดขึ้นหรือลงเป็นเส้นตรงในทิศทางเดียว เป็นระยะที่ไกลและนาน ไม่มี Swing เลย กลยุทธ์ที่ไม่มี SL ส่วนใหญ่จะแพ้ กันตรงนี้ เพราะว่า เน้น TP สั้น และ SL ไม่จำกัด ถ้าไม่มี SL คุณต้องเน้นไปที่ Money Management แทน
 
ผมพอร์ตแตกมาแล้วตั้งแต่เทรดน่าจะ เกิน 20 ครั้งได้ ทำให้เกิดความกลัวใน การเทรดทุกครั้งที่เสียหายหนักมักจะอยากแก้แค้นเอาคืน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด จุดที่หยุดได้ก็ต่อเมื่อพอตแตกไปแล้ว ถึงจะตั้งสติทบทวนได้ ผิดพลาดบ่อยจน กลัวการเทรดไปเลย บางครั้งหยุดเป็นอาทิตย์ เป็นเดือนแล้วก็วนลูปกลับมาก็พังอยู่ดี กลัวการแพ้ กลัวการออก order ไม่มั่นใจรอจุดที่เป็นแนวรับแนวต้าน ตีเส้นไว้ รอตั้งนานพอราคามาถึงจริงก็ไม่กล้าเข้า กลัวมันทะลุ ตั้ง SL ก็กลัวโดนเกี่ยว พอร์ตแตกไม่พอ เงินเก็บก็เกลี้ยง ช่วงนี้คือ ช่วงที่สภาพจิตใจตกต่ำที่สุดของการเป็น Trader...
 
-----------------------------------------------------
 
3."ความประมาท"
ในการเทรด Forex ต่อให้คุณ ควบคุมความโลภ ขจัดความกลัวได้แล้ว เทรดได้กำไรเยอะแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายเมื่อคุณมีความมั่นใจที่สูงเกินไป(EGO) หยุดพัฒนาหยุดเรียนรู้ ทั้งด้านความรู้และด้านจิตใจเมื่อไหร่ คุณจะกลับเข้าสู่ลูปแห่งหายนะได้อีกไม่รู้จบ ผมขอบอกเลยว่าการเทรดได้กำไรมันไม่ยากเลยทุกจุดที่คุณเห็น ทุกราคาที่คุณเข้า มันมีโอกาสถูก 50/50 เสมอ แต่สิ่งที่ยาก คือหลังจากคุณเข้า Order ไปแล้วต่างหากที่คือของจริง มันมีอะไรให้ตัดสินใจ เยอะแยะไปหมด เช่น จะเลื่อน SL กันหน้าทุนดีไหม หรือจะขยับ SL ออกห่างไหม ราคาใกล้ถึง TP แล้วควรปิดเลยหรือรอดี ถ้าไม่ถึง TP ทำอย่างไร การเทรดไม่ใช่แค่เข้า order แล้วจบ มันยังมีอะไรตามมาอีกมากมายหลังคุณ วาง order เสร็จ บางท่านอาจจะบอกว่า ก็ ตั้ง SL/TP แล้วปิดจอไม่ต้อง ดูไปทำอย่างอื่น คำถามคือทำได้จริงไหมครับ Trader ไม่ดูกราฟ ไม่ดู Order ที่เข้าไว้ได้จริงๆ หรอ บางท่านอาจจะทำได้ ผมก็ทำได้นะเล่น 0.01 lot order เดียว คือไม่ต้องดูเลย
เงินมันวิ่งช้ามาก ไม่รู้จะเฝ้าทำไม จากคนเคย เล่น 1-10 lot มาก่อนแค่ลด lot size ลงแล้วทำให้การเทรดมันน่าเบื่อ คุณถึงจะเลิกจ้องกราฟเลิกตามข่าวได้
 
สิ่งที่สำคัญในการเทรดคือ ไม่ใช่แค่กำไรที่ได้ในวันนี้ แต่มันคือประสบการณ์ ความต่อเนื่อง การทำซ้ำ ถ้าคุณได้กำไรวันนี้เลย 1 แสนบาทแล้วออกมาโชว์ ว่าคุณสำเร็จแล้ว คุณจะติดกับดับของความประมาท เพราะคิดไปเองว่ามันจะ เกิดขึ้นกับคุณอีกแน่ หายนะจะกลับมาแน่นอน แต่ถ้าคุณ ทำกำไรได้ 1 แสนบาท ติดต่อกัน 6 เดือน 1ปี 3ปี 10 ปี นี้แหละ Trader ตัวจริง
 
"หากปราศจากความต่อเนื่อง หมายความว่า คุณยังทำไม่สำเร็จอย่างแท้จริง"
 
-------------------------------------------------------------------------
 
ต่อกระทู้ล่าง
 

   
thanongsuk12 and Fxken reacted
ตอบอ้างอิง
thaiforex
(@thaiforex)
มนุษย์ที่เท่ห์ที่สุดในบอร์ด เพราะมีคนเดียว Admin
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
สาย long
สาย Short
กูรูของเว็บบอร์ด
ตลาดหมี
ตลาดหมีขาว
ตลาดกระทิง
โพสกะทู้ครบ 1000
กูรูเว็บบอร์ด
นักวิเคราะห์กราฟ
Rank F
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 911
หัวข้อเริ่มต้น  
สุดท้ายนี้
 
ขอสรุปแนวทางที่ผมค้นพบและหลักการต่างๆ ขอแนะนำจากประสบการณ์ของตัวเองที่ผ่านมานะครับ ออกมาเป็น 3 ข้อดังนี้ครับ
 
1.หากคุณเป็นมือใหม่ที่พึ่งเข้ามาเทรด แนะนำว่า ให้ศึกษาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องสนว่า Coach ไหนดี ช่องไหนดีที่สุด เรียนมันทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวสับสน เพราะต่อให้คุณเรียนที่เดียว ตอนมาเทรดก็สับสนอยู่ดีว่า เอ๊ะ! ทำไมกราฟจริงไม่เหมือนที่เรียน เพราะฉะนั้นศึกษาให้ลึก ให้เยอะ ให้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้ ผมไม่มีตัวเลขบอกหรอกครับ ว่าเท่าไหร่ ถึงเรียกว่าเยอะ คุณแค่ลงมือศึกษาอย่างจริงจัง อย่าทำเล่นๆ ก็พอ เพราะตลาดนี้ไม่ใช่ที่สำหรับเด็กเล่น หลายคนหวังมาเอาเงินค่าขนม ค่ากาแฟ ค่าข้าว สุดท้ายเติมไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เงินที่เติมไปทั้งหมด อาจจะกินกาแฟได้ยันชาติหน้าแล้วถ้าไม่เอามาเทรด
 
-------------------------------------------------------------------------
 
2.ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
ความฝัน (Dream) กับ เป้าหมาย (Goal) มันต่างกัน ความฝันคือแรงบันดาลใจ ความปรารถนาที่อยากจะเป็น เช่น อยากรวย อยากเป็น Full Time Trader แต่ยังขาดความชัดเจนและการวางแผนแบบเป็นรูปธรรม
ส่วนเป้าหมาย นั้นคือ ความฝันที่ถูกแปลงออกมาเป็นแผนการที่ชัดเจนมีการกำหนดขั้นตอนและวิธีการวัดผลความสามารถได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างของผมเอง: ความฝันคือ Full Time Trader เพราะฉะนั้น เป้าหมายใหญ่ที่ผมตั้งไว้ในการที่จะเป็น Full Time Trader คือมีรายได้ จากการเทรด 7 หลักขึ้นไป เป็นอย่างน้อยติดต่อกัน 2 ปี เป้าหมายบางทีมันใหญ่เกินตัวกว่าจะถึงเราอาจจะท้อก่อนได้ เพราะฉะนั้นซอยย่อยเป้าหมายให้เล็กลง แล้วทำเป้าหมายเล็กๆ นั้นให้สำเร็จไปทีละนิด
 
อันนี้เป็นตัวอย่างนะครับ
เป้าหมายที่ 1 : ปีแรก ทำรายได้จากเทรด อย่างน้อย 1 ล้านบาท
1.1 : ต่อเดือน อย่างน้อย 1 แสนบาท
1.2 : ต่อวัน อย่างน้อย 5,000 บาท 20 วัน ก็ได้แล้ว
1.3 : เทรดต่อวัน จะไม่ให้ขาดทุนเกิน 5% ถ้าเกิน 5% แล้วหยุด เริ่มใหม่พรุ่งนี้ ประยุกต์จากกฎของกองทุน
 
ความฝันเราชัดเจน
เป้าหมายเราชัดเจน
แผนการเทรดเราชัดเจน
เหลือแค่ลงมือทำ อย่างมีวินัยตามแผนที่วางไว้
 
ปล. ผมเคยวางแผนเทรดวันละ 10% ได้ติดต่อกันประมาณ 19 วัน วันที่ 20 สุดท้ายแตกเพราะตอนกำไร 10%ได้แล้วหยุด พอทำได้ แต่ขาดทุน 5% หยุดไม่ได้ ต้องเอาคืน
วิธีแก้ 1 เรื่องวินัย Mind Set แก้ยากสุด ถ้าทำไม่ได้ แก้ที่แผน เช่น 10% อาจจะเยอะไป ถ้าลดลงเหลือสัก 5% หรือ 1% ต่อวันอาจจะทำได้ต่อเนื่องได้เป็นปีเลยก็ได้
 
-------------------------------------------------------------------------
 
3.พอร์ตแตก เสียหายหนัก ทำอย่างไร
วิธีที่ผมจัดการคือหยุดเทรด จริงๆก็ไม่ได้อยากหยุดแต่เงินหมด 😭
สิ่งที่ผมตกผลึกจากการพอร์ตแตกหลายๆ ครั้ง แล้วยังทำให้ผมมีกำลังใจเทรดต่อ คือ Mind Set ชุดความคิดที่ว่า เราเปรียบเสมือนนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำการทดลองอยู่ คือผมพอร์ตแตกแต่ผมไม่ได้ล้มเหลว ผมแค่รู้วิธีที่เทรดแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพิ่มอีกหนึ่งวิธี ซึ่งเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมใส่เงินทีละ 100usd แล้วลองเทคนิค ท่าเทรด ที่ได้จากที่ต่างๆ คิดเองบ้าง ดูจากคนอื่นแล้วมาปรับประยุกต์บ้าง เหมือนกำลังทำการทดลองอะไรบางอย่าง ผู้คนมักจะไม่ได้สนใจหรือจำสิ่งที่คุณล้มเหลวหรอก แต่เขาจะจดจำความสำเร็จของคุณได้
นักกีฬากว่าจะเป็น แชมป์ แพ้มาไม่รู้กี่ครั้ง แต่มีใครจำได้ไหม ว่าเขาแพ้ยังไงแพ้มาเท่าไหร่ ไม่มี เพราะตอนที่คุณแพ้ไม่มีใครสนใจคุณหรอก มีก็แค่ตัวคุณเท่านั้นที่รู้ ว่าจะหยุด หรือไปต่อ ก็มีแค่คุณคนเดียวที่ตัดสินใจ แต่พวกเขาจะจำคุณได้แน่นอนก็ตอนที่คุณเป็นแชมป์แล้ว
 
เพราะฉะนั้นลุยกันต่อไป จนกว่าจะถึงเป้าหมายครับ
 
อย่าชินกับการพอร์ตแตกบ่อยๆ อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ อย่าเติมเงินโดยไร้สาเหตุ คุณไม่ได้กำลังลงทุนในหุ้น คุณเป็น Trader ถ้าเน้นเติม ไม่เน้นปั้นพอร์ตแล้วถอนให้ได้ มองภาพไม่ออกจริงๆ ว่าจะอยู่ในตลาดได้อีกนานเท่าไหร่ อย่าเทรด อย่าลงทุน โดยที่ไม่เรียนรู้อะไรเลย
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือ... ขออภัยที่แรง เพราะการดึงสติบางครั้งต้องใช้ยาแรง
 
-------------------------------------------------------------------------
 
สุดท้านนี้ขอฝากข้อคิดแนะนำมือใหม่หรือคนที่ยังเทรดเสียบ่อยๆ อยู่นะครับ ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้ แนะนำให้ศึกษาเทคนิคก่อนอันดับแรก เทคนิคอะไรก็ได้ หยิบมาใช้เลย ทดลองไปครับ อยู่กับมันให้นานพอ จากที่ผมลองมาหลายเทคนิค หลาย Indicator กล้าการันตีได้ 1 อย่าง ในตลาด Forex ไม่มีเทคนิคที่ Low Risk High Return หรือ Win Rate 100% และได้เงินง่ายๆ เยอะๆ ในระยะยาว มันทำได้ยากมากหรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเลิกเสียเวลาตามหาได้เลยครับ เพราะ Low Risk High Return มันเกิดจากประสบการณ์ล้วนๆ ลองผิด ลองถูก ผิดให้เยอะ ถูกให้เยอะ แล้วเรียนรู้ไปกับมัน จะจดบันทึก จะอะไรก็ได้ ขอแค่จำให้ได้ ว่าคุณพอร์ตแตกเพราะอะไร แล้วอย่าไปทำซ้ำแบบเดิม ไม่งั้นพอตคุณก็จะแตกวนอยู่แบบนั้น
 
"มีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่จะทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง!"
 
ถ้าออกจากลูปไม่ได้ ก็วนลูป เติม เทรด แตก ไปจนกว่าจะพอใจครับ เพราะผมก็เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน ไม่มีใครเปลี่ยนคุณได้นอกจากตัวคุณเอง เมื่อคุณเทรดไปสักพัก Mind Set คุณจะเริ่มมาเอง ถ้ายังไม่เคยเทรดเลย แล้วไปฟังแต่ Mind Set ก็อาจจะได้แค่ฟัง แต่ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่ถ้าเคยเทรดมาแล้ว เคยประสบพบเจอเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผมเล่ามา เวลาคุณกลับไปฟังพวก Mind Set หรือ จิตวิทยาการเทรดต่างๆ คุณจะรู้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีเงินทุนแค่ไหน ก็ไม่ควรใช้เงินเยอะในการเริ่มต้น เน้นประสบการณ์ ซึ่งตัวประสบการณ์นี้แหละ ที่จะเป็นตัวทำเงินให้คุณ มี 100usd ปั้นไป หมื่นเหรียญ แสนเหรียญ ก็ทำได้ ถ้าคุณมีประสบการณ์ และความรู้ที่เพียงพอ แต่หากคุณขาดความรู้และประสบการณ์ มีเงินทุนเท่าไหร่ ก็ไม่เหลือ เทคนิคต่างๆ จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ คุณเข้าใจมันจริงๆ แล้วเท่านั้น อย่าให้เงินที่หมดไป โดยที่คุณไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้ว มันยังเสียเวลาชีวิตตัวคุณเองด้วย เพราะฉะนั้นถ้าจะล้ม ต้องล้มไปข้างหน้า อย่างน้อยมันจะได้ใกล้เป้าหมายขึ้นมาอีกนิดนึงก็ยังดี
 
***ปล.นั่งสมาธิไม่ได้ช่วยให้คุณเทรดดีขึ้น หรือสงบลง หากจิตใจคุณยังว้าวุ่นอยู่นั่งสมาธินานแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ ผมลองมาแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความคิดและจิตใจของคุณเอง คุณกำหนดเองทั้งหมด ตลาด Forex มันก็ดำเนินไปตามทางของมัน คาดเดาไม่ได้ เพราะบางครั้งการไปอาบน้ำให้สดชื่นอาจจะได้ผลมากกว่า
 
หากจิตใจคุณนิ่งแล้ว การนั่งสมาธิจะช่วยเพิ่มสติและสมาธิให้กับคุณเป็นอย่างมาก และทำให้การตัดสินใจและการเทรดของคุณรอบคอบมากยิ่งขึ้น
 
“สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” การมี Coach มีคนสอนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมีวิจารณญาณ อย่าหลง อย่าเชื่อ อะไรง่ายๆ ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์พบเจอกับตัวเอง
 
อย่าสนใจแต่คนอื่น เน้น Focus ที่เป้าหมายของตัวเองก็พอครับ เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด และมันไม่ได้เดินเป็นวงกลม ช่วงเวลามันผ่านไปแล้วผ่านไปเลย ย้อนอดีตไม่ได้ แต่เงินที่หมดไป ตราบใดที่เรายังไม่ตายก็ยังมีโอกาสอยู่เสมอ
"เราจะยอมแพ้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่ใช่วันนี้" ถ่องไว้ครับ
 
-------------------------------------------------------------------------
 
การเทรดเปรียบเสมือนการเดินทาง หากคุณต้องการไปสักสถานที่นึง
แล้วเป้าหมายคุณชัดเจน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วคุณก็จะไปถึง บางคนถึงเร็ว บางคนถึงช้า ซึ่งมันเกิดจากวิธีการ วิธีคิด และมุมมองของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะรีบเพื่อไปทำธุระก็เลือกนั่งเครื่องบินไป ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง บางคนอาจจะชอบนั่งรถชมวิว แวะเที่ยวระหว่างทาง ก็ชิลไปอีกแบบ บางคนอาจจะชอบเดิน สุดท้ายทุกคนที่มีเป้าหมายชัดเจนจะสามารถถึงที่หมายได้เหมือนกัน แต่ประสบการณ์ที่ได้รับย่อมแตกต่างกัน ความลำบาก เหตุการณ์ที่เจอก็ย่อมแตกต่างกัน
 
-------------------------------------------------------------------------
 
หวังว่าจะมีประโยชน์ และคุ้มค่ากับเวลาของทุกท่าน
หากผิดพลาดประการใด หรือความคิดบางอย่างของผมไม่ถูกต้อง ก็มาแชร์กันได้เลยนะครับ
ขอบคุณคุณ Chonlatid Thaothong
No Risk , No Reward

   
thanongsuk12 and Fxken reacted
ตอบอ้างอิง
TibitoBlink
(@tibitoblink)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
โพสกะทู้ครบ 1000
Rank E
เข้าร่วม: 12 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 883
 

@thaiforex  เยี่ยมเลย ขอบคุณค่ะ


   
thaiforex reacted
ตอบอ้างอิง
Fxken
(@fxken)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rookie
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 116
 

ยาวมากๆ ขอบคุณครับ


   
thaiforex reacted
ตอบอ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: