ตอนนี้ราคาทองคำค่อยๆ ขยับขึ้นมาใกล้ 3,300 ดอลลาร์ แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนัก เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯทำสถิติสูงสุดใหม่ไปแล้วเมื่อวันจันทร์ นักลงทุนยังคงชอบเสี่ยงกับหุ้นมากกว่า

สิ่งสำคัญที่ทุกคนจับตาดูตอนนี้คือ "ร่างกฎหมายภาษี" ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผ่านวุฒิสภามาแบบฉิวเฉียดเมื่อสุดสัปดาห์ ร่างกฎหมายนี้จะมีการลดภาษีครั้งใหญ่ แต่ก็แลกมาด้วยการลดงบประมาณ Medicaid และโครงการพลังงานสีเขียว ซึ่งทำให้หลายคนกังวลว่าหนี้ของสหรัฐฯ จะพุ่งกระฉูด และอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในระยะยาว นี่แหละที่ทำให้ทองคำดูน่าสนใจขึ้นมาในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากเรื่องการเมืองแล้ว สัปดาห์นี้ยังมีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่จะออกมากระทบตลาดด้วย

• วันพุธ รายงานการจ้างงานภาคเอกชน ADP (ADP Employment Change) ถ้าตัวเลขออกมาไม่ดี ก็อาจหนุนให้คนแห่ซื้อทอง
• วันพฤหัสบดี รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ซึ่งปกติจะออกวันศุกร์ แต่สัปดาห์นี้เลื่อนมาเร็วขึ้นเพราะอเมริกาหยุดวันชาติ (Independence Day)
• วันศุกร์นี้ ถ้า NFP ออกมาต่ำกว่าคาด และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับทองคำ

แนวโน้มการวิเคราะห์

ดูกราฟทางเทคนิคแล้ว ตอนนี้ทองคำกำลังเผชิญกับแรงต้านที่สำคัญ และมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจจะปรับตัวลงได้อีก

• แนวต้านสำคัญ

  • 3,292 
  • 3,320 
  • 3,350 

• แนวรับสำคัญ

  • 3,228 
  • 3,168 

คำเตือนนักลงทุน

จับตาข่าวสำคัญช่วงนี้ตลาดผันผวนมาก เพราะมีทั้งเรื่องการเมือง (ร่างกฎหมายภาษีของทรัมป์) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ (NFP) ที่จะออกมา ข่าวพวกนี้มีผลต่อราคาทองและดอลลาร์โดยตรง ถ้าหลุดแนวรับสำคัญหากราคาทองคำปิดต่ำกว่า 3,228 ดอลลาร์ เป็นไปได้สูงว่าราคาทองจะไหลลงไปหา 3,168 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่านั้นได้อีก ถ้าจะกลับขึ้น ทองจะต้องดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 3,292 ดอลลาร์ ให้ได้ก่อน ถึงจะพอมีหวังกลับมาเป็นบวกในระยะสั้น เงินเฟ้อกับดอกเบี้ย ถ้าข่าวเรื่องเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาดอีก อาจทำให้ Fed ลังเลที่จะลดดอกเบี้ย ซึ่งจะกดดันราคาทองเอาไว้ เพราะทองไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย ดอลลาร์อ่อน ทองน่าสนใจ ถ้าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากนโยบายการคลังหรือการเงิน ทองคำก็จะน่าสนใจขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ