ราคาทองคำตอนนี้เหมือนกำลัง กั๊ก หรือ ทรงตัว อยู่ใกล้ ๆ ระดับ $4,000 โดนบีบให้อยู่ในกรอบราคา $3,900 - $4,050

สาเหตุหลัก

1. Fed ยังเข้ม แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดดอกเบี้ยไป 25-bps (0.25%) แต่ส่งสัญญาณว่า น่าจะไม่ลดเพิ่มแล้วในปีนี้ ท่าทีที่ แข็งกร้าวนี้ทำให้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นตัวจำกัดไม่ให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปได้ง่าย ๆ

2. จีนเปลี่ยนกฎ กระทรวงการคลังจีนลดการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อขายทองคำในตลาดสำคัญของจีนจาก 13% เหลือ 6% ซึ่งทำให้นักลงทุนในจีนผิดหวังและ กระทบต่อความเชื่อมั่น ในตลาดทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

3. ความเสี่ยงลดลงชั่วคราว การที่สหรัฐฯ กับจีนตกลงพักรบทางการค้า 1 ปี ทำให้ความตึงเครียดลดลง ความต้องการ สินทรัพย์ปลอดภัย อย่างทองคำเลยลดตามไปด้วย

4. ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ดี ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต เดือน ต.ค. ลดลงเหลือ 48.7 ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

แต่...ยังมีแรงหนุนระยะยาว ถึงแม้จะมีปัจจัยกดดันอยู่บ้าง แต่แนวโน้มใหญ่ของทองคำยังคงเป็น ขาขึ้น (Uptrend) เพราะยังมีความต้องการจากสถาบันการเงิน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่ยังคงสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาวอยู่

แนวรับและแนวต้าน

แนวรับ

• 3,996 

• 3,962 

• 3,900

• 3,850 

• 3,800 

แนวต้าน

• 4,026 

• 4,050 

• 4,100 

• 4,150

• 4,200 

คำเตือนนักลงทุน

โปรดระลึกไว้เสมอว่า ตลาดทองคำกำลังขาดทิศทางที่ชัดเจนและเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ดังนั้น หากคุณตัดสินใจเข้าซื้อหรือขายในช่วงเวลานี้ ควร ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากราคาสามารถผันผวนและเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความคืบหน้าของการเจรจาทางการค้า หรือ การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ Fed อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาทันที และอย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น การตั้งจุดตัดขาดทุน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้