coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

TRIX Indicator คืออะไร? สอนวิธีใช้หาจุดเข้า-ออก พร้อมตั้งค่า TP/SL

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
181 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 508
หัวข้อเริ่มต้น  

ในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีเครื่องมือ (Indicator) มากมายที่ช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์โมเมนตัมและทิศทางของตลาดได้ และหนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจแต่หลายคนอาจมองข้ามไปคือ TRIX บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ TRIX Indicator อย่างละเอียด ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานไปจนถึงการนำไปประยุกต์ใช้จริง


 

แนวคิดและหลักการของ TRIX Indicator

 

TRIX (Triple Exponentially Smoothed Moving Average) คือ อินดิเคเตอร์ประเภท Momentum Oscillator ที่คิดค้นโดย Jack Hutson ในช่วงต้นทศวรรษ 1980s หัวใจหลักของ TRIX คือการนำเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบ Exponential (EMA) มาทำการปรับให้เรียบ (Smooth) ถึง 3 ชั้น เพื่อกรองสัญญาณรบกวน (Noise) หรือความผันผวนระยะสั้นๆ ออกไป ทำให้ได้เส้นสัญญาณที่ราบเรียบและสะท้อนโมเมนตัมของแนวโน้มหลักได้เป็นอย่างดี

หลักการคำนวณ 4 ขั้นตอน:

  1. EMA เส้นแรก: คำนวณหาค่า EMA ของราคาปิด (โดยทั่วไปใช้ 18 แท่งเทียน)

  2. EMA เส้นที่สอง: นำค่า EMA ที่ได้จากข้อแรก มาคำนวณ EMA ซ้ำอีกครั้ง

  3. EMA เส้นที่สาม: นำค่า EMA ที่ได้จากข้อสอง มาคำนวณ EMA เป็นครั้งที่สาม ทำให้ได้เส้นที่เรียบมาก

  4. TRIX: คำนวณหา "อัตราการเปลี่ยนแปลง" ของ EMA เส้นที่สามจากแท่งก่อนหน้า เพื่อแสดงเป็นค่าโมเมนตัม

นอกจากเส้น TRIX แล้ว ยังมี เส้นสัญญาณ (Signal Line) ซึ่งเป็นเส้น EMA ของ TRIX อีกทีหนึ่ง (โดยทั่วไปใช้ 9 แท่งเทียน) เพื่อใช้เป็นจุดตัดในการหาจังหวะเข้า-ออก


 

วิธีการติดตั้ง Indicator บนแพลตฟอร์มเทรด

 

การเพิ่ม TRIX ลงบนกราฟนั้นทำได้ง่ายในแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ เช่น TradingView หรือ MT4/MT5

  1. ไปที่เมนู Indicators (ตัวชี้วัด)

  2. ในช่องค้นหา พิมพ์คำว่า "TRIX"

  3. คลิกเลือก "TRIX" เพื่อเพิ่มลงบนกราฟของคุณ

  4. โดยทั่วไป อินดิเคเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาที่ส่วนล่างของกราฟ พร้อมค่ามาตรฐาน (TRIX Period = 18, Signal Period = 9) ซึ่งคุณสามารถปรับเปลี่ยนค่าได้ตามความเหมาะสมกับไทม์เฟรมและสินทรัพย์ที่เทรด


 

วิธีการใช้งาน TRIX เพื่อหาจุดเข้าเทรด

 

TRIX สามารถสร้างสัญญาณเทรดได้ 2 รูปแบบหลัก คือ Crossovers (การตัดกัน) และ Divergence (สัญญาณขัดแย้ง)

 

1. สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy)

 

มองหาสัญญาณเหล่านี้เพื่อเปิดสถานะ Long (ซื้อ):

  • Bullish Divergence: เป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น เกิดขึ้นเมื่อ ราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ (Lower Low) แต่เส้น TRIX กลับยกตัวขึ้นทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น (Higher Low) สัญญาณนี้บ่งชี้ว่าแรงขายเริ่มอ่อนกำลังลง และมีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นในไม่ช้า

  • ตัดเส้นศูนย์ (Zero Line Crossover): เมื่อเส้น TRIX ตัดขึ้นเหนือเส้นศูนย์ (Zero Line) เป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แต่สัญญาณนี้จะค่อนข้างช้า มักใช้เป็นการยืนยันเพิ่มเติมมากกว่าเป็นสัญญาณเข้าหลัก

(ตัวอย่างภาพสมมติเพื่อการอธิบาย)

 

2. สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell)

 

มองหาสัญญาณเหล่านี้เพื่อเปิดสถานะ Short (ขาย):

  • Bearish Divergence: สัญญาณเตือนการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง เกิดขึ้นเมื่อ ราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) แต่เส้น TRIX กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง (Lower High) สัญญาณนี้บ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลัง และราคาอาจกลับตัวลงในไม่ช้า

  • ตัดเส้นศูนย์ (Zero Line Crossover): เมื่อเส้น TRIX ตัดลงต่ำกว่าเส้นศูนย์ เป็นการยืนยันแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง แต่เช่นเดียวกับฝั่งซื้อ สัญญาณนี้จะค่อนข้างช้า


 

การตั้งจุดทำกำไร (Take Profit - TP) และตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)

 

ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่แม่นยำ 100% การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

 

การตั้ง Stop Loss (SL)

 

  • สำหรับคำสั่งซื้อ (Buy Entry): ควรตั้ง SL ไว้ที่ จุดต่ำสุดล่าสุด (Swing Low) ก่อนเกิดสัญญาณเข้าซื้อ หรือใต้แนวรับที่สำคัญ

  • สำหรับคำสั่งขาย (Sell Entry): ควรตั้ง SL ไว้ที่ จุดสูงสุดล่าสุด (Swing High) ก่อนเกิดสัญญาณเข้าขาย หรือเหนือแนวต้านที่สำคัญ

การตั้ง SL ตามโครงสร้างราคา (Price Structure) เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

การตั้ง Take Profit (TP)

 

  • ใช้สัญญาณตรงข้าม: วิธีที่ง่ายที่สุดคือการปิดออเดอร์เมื่อเกิดสัญญาณตรงกันข้าม เช่น เข้าซื้อด้วย Golden Cross และปิดทำกำไรเมื่อเกิด Dead Cross

  • ใช้แนวรับ-แนวต้าน: ตั้ง TP ที่บริเวณแนวต้านถัดไป (สำหรับออเดอร์ซื้อ) หรือแนวรับถัดไป (สำหรับออเดอร์ขาย) วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถวางแผนอัตราส่วนกำไรต่อความเสี่ยง (Risk:Reward Ratio) ได้ดีขึ้น

  • ใช้อัตราส่วน Risk:Reward (R:R Ratio): ตั้งเป้าหมายกำไรตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น 1:1.5 หรือ 1:2 ของระยะ Stop Loss

 

สรุป

 

TRIX เป็นอินดิเคเตอร์โมเมนตัมที่ทรงพลังและใช้งานได้หลากหลาย ด้วยคุณสมบัติของเส้นที่ราบเรียบ ทำให้ช่วยกรองสัญญาณหลอกได้ดี อย่างไรก็ตาม ข้อควรจำคือ TRIX มีการตอบสนองที่ช้ากว่า (Lag) อินดิเคเตอร์อื่นบางตัว ดังนั้นจึงควรใช้ ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เช่น การดูโครงสร้างราคา, เส้นแนวโน้ม, หรือแนวรับ-แนวต้าน เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการเทรด และที่สำคัญที่สุดคือการมีวินัยในการจัดการความเสี่ยงเสมอ



   
อ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: