เว็บบอร์ดลงโพสต์ฟรี
ดูอันดับนักแข่ง ea
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

เจาะลึก Deviation Trend Profile: อินดิเคเตอร์จับเทรนด์พร้อมกลยุทธ์ตั้ง TP/SL

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
1 Reactions
15 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank F
เข้าร่วม: 11 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 304
หัวข้อเริ่มต้น  

ในโลกของการเทรด การเข้าใจ "แนวโน้ม" และ "พฤติกรรมของราคา" คือหัวใจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Indicator ที่น่าสนใจตัวหนึ่งชื่อว่า "Deviation Trend Profile" ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการศึกษาและเรียนรู้ ช่วยให้เราเห็นภาพแนวโน้ม, ความแข็งแกร่ง และจังหวะการเข้า-ออกออเดอร์ได้อย่างเป็นระบบ

บทความนี้จะอธิบายทุกอย่างที่คุณต้องรู้ ตั้งแต่แนวคิดหลัก, วิธีการติดตั้ง ไปจนถึงกลยุทธ์การใช้งานอย่างละเอียด

 

แนวคิดหลัก (Core Concept) ของ Indicator

 

Deviation Trend Profile เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เชิงสถิติที่รวม 3 แนวคิดทรงพลังเข้าไว้ด้วยกัน:

  1. การระบุแนวโน้มด้วยความชัน (Trend Detection via SMA Slope): หัวใจหลักคือการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMA) ไม่ใช่แค่เพื่อดูว่าราคอยู่เหนือหรือใต้เส้น แต่เป็นการวัด "ความชัน" ของเส้น SMA โดยตรงเพื่อระบุการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงที่มีนัยสำคัญ

  2. กรอบความผันผวนทางสถิติ (Standard Deviation Zones): อินดิเคเตอร์จะสร้างกรอบราคาที่ระดับ ±1, ±2, และ ±3 รอบเส้น SMA โดยใช้ค่า ATR (Average True Range) ในการคำนวณ ทำให้กรอบราคานี้ยืดหยุ่นไปตามความผันผวนของตลาดในขณะนั้น โซนเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนขอบเขตทางสถิติที่ราคาควรจะเคลื่อนไหวอยู่ภายใน

  3. โปรไฟล์การกระจายตัวของราคา (Trend Distribution Histogram): นี่คือจุดเด่นที่สุด! อินดิเคเตอร์จะสร้างกราฟแท่ง (Histogram) เพื่อบันทึกว่า "ราคาปิด" ในแต่ละแท่งเทียนนั้นเกิดขึ้นที่โซนใดบ่อยที่สุดในช่วงที่เกิดแนวโน้มนั้นๆ ทำให้เราสามารถ "อ่านนิสัย" ของแนวโน้มได้ เช่น

    • แนวโน้มแข็งแกร่ง: ราคาจะวิ่งไปปิดที่โซนรอบนอก (±2, ±3) บ่อยครั้ง

    • แนวโน้มอ่อนกำลัง: ราคาจะเริ่มหดตัวกลับมาปิดใกล้เส้น SMA ตรงกลาง

 

วิธีการติดตั้ง Indicator บน TradingView

 

คุณสามารถเพิ่ม Indicator ตัวนี้ลงบนกราฟใน TradingView ของคุณได้ง่ายๆ ผ่าน Community Scripts ดังนี้:

  1. เปิดโปรแกรม TradingView และไปที่หน้ากราฟ (Chart) ของสินทรัพย์ที่สนใจ

  2. คลิกที่ปุ่ม "Indicators" ที่แถบเครื่องมือด้านบน

  3. ในหน้าต่างที่เด้งขึ้นมา ให้เลือกแท็บ "Community Scripts"

  4. ในช่องค้นหา พิมพ์ชื่อ Indicator: Deviation Trend Profile หรือชื่อผู้สร้าง BigBeluga

  5. เมื่อเจอแล้ว ให้คลิกที่ชื่อ Indicator หนึ่งครั้งเพื่อเพิ่มลงบนกราฟของคุณ

(ตัวอย่างภาพประกอบ)

 

วิธีการใช้งานและกลยุทธ์การเทรด

 

 

สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy)

 

  • สัญญาณหลัก: มองหา จุดวงกลมสีน้ำเงิน (🔵) ปรากฏขึ้นใต้แท่งเทียน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

  • การยืนยันสัญญาณ:

    1. เส้น SMA เปลี่ยนเป็นสีที่แสดงถึงขาขึ้น (เช่น สีเขียวหรือน้ำเงิน) และมีความชันเป็นบวก

    2. กราฟ Histogram เริ่มแสดงให้เห็นว่าราคาปิดบ่อยครั้งขึ้นในโซนบวกด้านบน (โซน +1, +2)

  • จุดเข้า (Entry): เข้าออเดอร์ Buy หลังจากแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณสีน้ำเงินปิดสมบูรณ์

 

สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell)

 

  • สัญญาณหลัก: มองหา จุดวงกลมสีแดง (🔴) ปรากฏขึ้นเหนือแท่งเทียน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

  • การยืนยันสัญญาณ:

    1. เส้น SMA เปลี่ยนเป็นสีที่แสดงถึงขาลง (เช่น สีแดง) และมีความชันเป็นลบ

    2. กราฟ Histogram เริ่มแสดงให้เห็นว่าราคาปิดบ่อยครั้งขึ้นในโซนลบด้านล่าง (โซน -1, -2)

  • จุดเข้า (Entry): เข้าออเดอร์ Sell หลังจากแท่งเทียนที่เกิดสัญญาณสีแดงปิดสมบูรณ์


 

การตั้งเป้าหมายทำกำไร (Take Profit - TP) และจุดตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)

 

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราสามารถใช้โซนค่าเบี่ยงเบนเป็นแนวทางในการตั้ง TP และ SL ได้อย่างมีหลักการ

 

การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)

 

  • สำหรับฝั่ง Buy:

    • วิธีที่ 1 (ปลอดภัย): ตั้ง SL ไว้ที่ Swing Low ล่าสุด ก่อนเกิดสัญญาณจุดสีน้ำเงิน

    • วิธีที่ 2 (ตามระบบ): ตั้ง SL ไว้ใต้ เส้นค่าเบี่ยงเบน -1 หรือ -2 เพื่อให้ราคามีพื้นที่ในการแกว่งตัว หรือตั้งไว้ใต้เส้น SMA เล็กน้อย

  • สำหรับฝั่ง Sell:

    • วิธีที่ 1 (ปลอดภัย): ตั้ง SL ไว้ที่ Swing High ล่าสุด ก่อนเกิดสัญญาณจุดสีแดง

    • วิธีที่ 2 (ตามระบบ): ตั้ง SL ไว้เหนือ เส้นค่าเบี่ยงเบน +1 หรือ +2 หรือเหนือเส้น SMA เล็กน้อย

 

การตั้งเป้าหมายทำกำไร (Take Profit - TP)

 

  • วิธีที่ 1 (ตั้งเป้าตามโซน): ใช้โซนค่าเบี่ยงเบนเป็นเป้าหมายหลัก

    • ฝั่ง Buy: ตั้ง TP ที่แนวเส้น +2 (เป้าหมายแรก) และ +3 (เป้าหมายถัดไป)

    • ฝั่ง Sell: ตั้ง TP ที่แนวเส้น -2 (เป้าหมายแรก) และ -3 (เป้าหมายถัดไป)

  • วิธีที่ 2 (ดูจากแรงของแนวโน้ม): สังเกตจากกราฟ Histogram

    • เมื่อราคาวิ่งไปไกลในโซน ±2 หรือ ±3 แล้วกราฟเริ่ม "หดตัวกลับเข้าหาศูนย์" อย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือสัญญาณว่า "แรงของแนวโน้มเริ่มหมด" ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในการพิจารณาปิดทำกำไร

  • วิธีที่ 3 (ใช้ Risk:Reward Ratio): กำหนดอัตราส่วนกำไรต่อความเสี่ยงที่ชัดเจน เช่น 1:1.5 หรือ 1:2 จากระยะ SL ของคุณ

 

บทสรุป

 

Deviation Trend Profile เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการช่วยให้เรา "เห็นภาพ" ของแนวโน้มได้ลึกซึ้งกว่าแค่การมองด้วยตาเปล่า จุดแข็งของมันคือการแสดงความแข็งแกร่ง การอ่อนตัว และการให้สัญญาณเข้าเทรดที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องมือใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้ Indicator นี้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่นๆ เช่น แนวรับ-แนวต้าน, รูปแบบราคา หรือเครื่องมือยืนยันอื่นๆ และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) อย่างเคร่งครัดเสมอ

 


   
Love.me.me1 reacted
อ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: