ในโลกของ TradingView มีอินดิเคเตอร์มากมาย แต่หนึ่งในตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้แนวทาง Smart Money Concepts (SMC) และ ICT ก็คือ "ICT Concepts [LuxAlgo]" บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงแก่นของอินดิเคเตอร์ตัวนี้ ตั้งแต่วิธีคิด วิธีการติดตั้ง ไปจนถึงการประยุกต์ใช้เพื่อหาจุดเข้าซื้อ-ขาย พร้อมการตั้ง Stop Loss และ Take Profit อย่างเป็นระบบ

Concept หลักของ ICT คืออะไร?

ICT ย่อมาจาก "The Inner Circle Trader" เป็นชื่อของเทรดเดอร์และนักการศึกษาที่นำเสนอแนวคิดการเทรดโดยอิงตามการเคลื่อนไหวของ "Smart Money" หรือผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด เช่น สถาบันการเงิน, ธนาคาร, กองทุนต่างๆ

แนวคิดหลักของ ICT เชื่อว่าตลาดไม่ได้เคลื่อนที่แบบสุ่ม แต่ถูกขับเคลื่อนโดยการ "ล่าสภาพคล่อง" (Liquidity Hunt) ของรายใหญ่เพื่อเข้าทำออเดอร์ขนาดมหาศาลของตนเอง อินดิเคเตอร์ ICT Concepts [LuxAlgo] ได้รวบรวมเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ร่องรอยเหล่านี้มาไว้ในที่เดียว ได้แก่:

• Market Structure (MSS & BOS): การบอกโครงสร้างตลาดว่ากำลังอยู่ในเทรนด์ไหนผ่านการเกิด Market Structure Shift (MSS) ซึ่งเป็นสัญญาณการเปลี่ยนเทรนด์ และ Break Of Structure (BOS) ที่เป็นการยืนยันการไปต่อในเทรนด์เดิม

• Order Blocks (OB): โซนราคาที่คาดว่ารายใหญ่เคยเข้าทำออเดอร์ ทำให้โซนนี้กลายเป็นแนวรับ-แนวต้านที่แข็งแกร่งเมื่อราคาวกกลับมาทดสอบ

• Imbalances (FVG): หรือ Fair Value Gaps (FVG) คือ "ช่องว่างของราคา" ที่เกิดจากการเคลื่อนที่อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งราคามีแนวโน้มสูงที่จะกลับมา "เติมเต็ม" (Fill) ช่องว่างนี้

• Liquidity (Buyside & Sellside): โซนราคาที่คาดว่ามีคำสั่ง Stop Loss หรือ Pending Order ของเทรดเดอร์รายย่อยสะสมอยู่ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ Smart Money จะผลักดันราคาไปถึงเพื่อจับคู่กับออเดอร์ของตนเอง

• Killzones: ช่วงเวลาพิเศษของตลาด (Asian, London, New York) ที่มักจะเกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ

วิธีการติดตั้ง Indicator บน TradingView

การติดตั้งนั้นง่ายและตรงไปตรงมา สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ได้เลย:

1. เปิดเว็บไซต์ TradingView และไปยังหน้ากราฟ (Chart) ของสินทรัพย์ที่คุณสนใจ

2. คลิกที่เมนู "Indicators" ที่แถบเครื่องมือด้านบน

3. ในช่องค้นหา พิมพ์คำว่า "ICT Concepts LuxAlgo"

4. คุณจะเห็นอินดิเคเตอร์ชื่อ "ICT Concepts [LuxAlgo]" ปรากฏขึ้นมา ให้คลิกที่ชื่อนั้นหนึ่งครั้ง

5. อินดิเคเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในกราฟของคุณโดยอัตโนมัติ

6. คุณสามารถกดที่ไอคอนรูปฟันเฟือง (Settings) ของอินดิเคเตอร์เพื่อปรับแต่งค่าต่างๆ เช่น สี, การเปิด/ปิดฟีเจอร์ที่ต้องการได้ตามใจชอบ

วิธีการใช้งาน: หาจุดเข้า (Entry), ตั้ง TP และ SL

ข้อควรจำ: อินดิเคเตอร์นี้เป็น "เครื่องมือช่วยวิเคราะห์" ไม่ใช่ระบบเทรดอัตโนมัติ การตัดสินใจสุดท้ายต้องมาจากความเข้าใจในภาพรวมของตลาด (Market Context) ตัวอย่างต่อไปนี้คือสถานการณ์จำลองเพื่อเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้

ตัวอย่างสถานการณ์เข้าซื้อ (Entry Buy)

เราจะมองหาสัญญาณที่บ่งบอกว่าราคากำลังจะกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น

1. มองหาสัญญาณเริ่มต้น (Catalyst): ราคาวิ่งลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมเพื่อ "กวาดสภาพคล่อง" หรือที่เรียกว่า Sweep on Sellside Liquidity ($SSL) ซึ่งเป็นเหมือนการที่รายใหญ่เข้าเก็บออเดอร์ซื้อจาก Stop Loss ของรายย่อย

2. มองหาสัญญาณยืนยัน (Confirmation): หลังจากกวาดสภาพคล่องแล้ว ราคาเกิดการกลับตัวขึ้นอย่างรุนแรงจนสามารถทำลายโครงสร้างขาลงได้ เกิดเป็นสัญญาณ Market Structure Shift (MSS) ไปทางฝั่งขาขึ้น

3. หาจุดเข้าซื้อ (Entry Zone): หลังจากเกิด MSS แล้ว เราจะไม่ไล่ราคา แต่จะรอให้ราคาย่อตัวกลับลงมาทดสอบใน "โซนสำคัญ" ซึ่งได้แก่:

   • Bullish Order Block (+OB): โซนออเดอร์บล็อกฝั่งซื้อที่เกิดขึ้นก่อนการพุ่งทะลุ

   • Fair Value Gap (FVG): ช่องว่างราคาที่เกิดขึ้นตอนที่ราคาวิ่งขึ้นไปทำ MSS

4. การตั้ง Stop Loss (SL): ควรตั้งไว้ใต้จุดที่ปลอดภัยที่สุด คือ ใต้จุดต่ำสุด (Swing Low) ที่เกิดก่อนสัญญาณ MSS หรือใต้โซน Order Block/FVG ที่เราเข้าเล็กน้อย เพื่อป้องกันกรณีที่การวิเคราะห์ผิดพลาด

5. การตั้ง Take Profit (TP): เป้าหมายแรกของการทำกำไรคือ "สภาพคล่องฝั่งตรงข้าม" ดังนั้น เราจะตั้ง TP ไว้ที่บริเวณ Buyside Liquidity ($BSL) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือโซน Bearish Order Block (-OB) ที่อยู่สูงขึ้นไป

ตัวอย่างสถานการณ์เข้าขาย (Entry Sell)

เราจะมองหาสัญญาณที่บ่งบอกว่าราคากำลังจะกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง (ตรงข้ามกับฝั่ง Buy)

1. มองหาสัญญาณเริ่มต้น (Catalyst): ราคาวิ่งขึ้นไปสูงกว่าจุดสูงสุดเดิมเพื่อกวาดสภาพคล่อง Sweep on Buyside Liquidity ($BSL)

2. มองหาสัญญาณยืนยัน (Confirmation): ราคาเกิดการกลับตัวลงอย่างรุนแรงจนทำลายโครงสร้างขาขึ้น เกิดเป็นสัญญาณ Market Structure Shift (MSS) ไปทางฝั่งขาลง

3. หาจุดเข้าขาย (Entry Zone): รอให้ราคาย่อตัวกลับขึ้นไปทดสอบใน "โซนสำคัญ" ซึ่งได้แก่:

   • Bearish Order Block (-OB): โซนออเดอร์บล็อกฝั่งขายที่เกิดขึ้นก่อนการทุบลงมา

   • Fair Value Gap (FVG): ช่องว่างราคาที่เกิดขึ้นตอนที่ราคาทุบลงมาทำ MSS

4. การตั้ง Stop Loss (SL): ตั้งไว้ เหนือจุดสูงสุด (Swing High) ที่เกิดก่อนสัญญาณ MSS หรือเหนือโซน Order Block/FVG ที่เราเข้าเล็กน้อย

5. การตั้ง Take Profit (TP): เป้าหมายคือ Sellside Liquidity ($SSL) ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือโซน Bullish Order Block (+OB) ที่อยู่ต่ำลงไป

บทสรุป

อินดิเคเตอร์ ICT Concepts [LuxAlgo] เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการวิเคราะห์ตลาดในมุมมองของ Smart Money มันช่วยให้เราเห็นภาพโครงสร้างตลาด, โซนสำคัญ, และสภาพคล่องได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกฝนและทำความเข้าใจใน "พฤติกรรมราคา" ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือนี้ และต้องไม่ลืมว่าการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) คือหัวใจของการเทรดที่ยั่งยืนเสมอ