ถอดรหัสความแข็งแกร่งแนวโน้มด้วย "Deviation Trend Profile"
ในโลกของการเทรด การเข้าใจ "แนวโน้ม" หรือ Trend ถือเป็นหัวใจสำคัญ แต่บ่อยครั้งเราไม่เพียงแค่ต้องรู้ว่าตลาดกำลังขึ้นหรือลง แต่ยังต้องรู้ว่าแนวโน้มนั้น "แข็งแกร่ง" แค่ไหน หรือ "ใกล้จะหมดแรง" แล้วหรือยัง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Indicator ทดลองที่ชื่อว่า Deviation Trend Profile [BigBeluga] ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดเห็นภาพเหล่านี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Concept: แนวคิดเบื้องหลังของ Indicator
Deviation Trend Profile ไม่ได้เป็นเพียงเส้นค่าเฉลี่ยธรรมดา แต่เป็นการผสมผสาน 3 แนวคิดทางสถิติเข้าด้วยกันเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมราคาอย่างลึกซึ้ง:
-
การตรวจจับแนวโน้ม (Trend Detection): ใช้ความชัน (Slope) ของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMA) เป็นตัวกำหนดการเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ เมื่อเส้นเริ่มมีความชันขึ้นหรือลงอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะถือเป็นการเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่
-
โซนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Deviation Zones): สร้างกรอบทางสถิติรอบเส้น SMA โดยใช้ค่า ATR (Average True Range) ในการคำนวณโซนราคาที่เรียกว่าโซนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ณ ระดับ ±1, ±2, และ ±3 โซนเหล่านี้จะบอกเราว่าราคาในปัจจุบันวิ่งห่างจากค่าเฉลี่ยมากน้อยแค่ไหน
-
โปรไฟล์การกระจายตัว (Distribution Profile): นี่คือหัวใจสำคัญของ Indicator นี้ โดยจะแสดงกราฟแท่ง (Histogram) ด้านล่าง เพื่อบอกว่าในช่วงที่แนวโน้มดำเนินอยู่ "ราคาส่วนใหญ่มักจะไปปิดที่โซนไหน" เช่น หากเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แท่ง Histogram ในโซน +2 และ +3 ก็จะสูงขึ้น เป็นต้น
วิธีการติดตั้ง Indicator บน TradingView
คุณสามารถเพิ่ม Indicator นี้ลงบนกราฟของคุณใน TradingView ได้ง่ายๆ ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
-
เปิดโปรแกรม TradingView และไปที่หน้ากราฟ (Chart) ที่คุณต้องการ
-
คลิกที่แท็บ "Indicators" ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ
-
ในช่องค้นหา ให้พิมพ์ชื่อ:
Deviation Trend Profile [BigBeluga]
-
คลิกที่ชื่อ Indicator ที่ปรากฏขึ้นในผลการค้นหา
-
Indicator จะถูกเพิ่มเข้ามาในกราฟของคุณโดยอัตโนมัติ พร้อมใช้งาน
วิธีการใช้งาน: จุดเข้าซื้อ-ขาย และการตั้ง TP/SL
สัญญาณเข้าซื้อ (Entry Buy 🔵)
-
สัญญาณหลัก: รอจนกว่า จุดวงกลมสีน้ำเงิน (🔵) จะปรากฏขึ้นใต้แท่งเทียน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า "แนวโน้มขาขึ้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"
-
การยืนยันความแข็งแกร่ง: หลังจากเห็นจุดสีน้ำเงิน ให้สังเกต Histogram ด้านล่าง หากแท่งกราฟในโซนบวก (โดยเฉพาะ +2 และ +3) เริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าแรงซื้อมีเข้ามาสนับสนุนและเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
-
จุดเข้าซื้อ: สามารถพิจารณาเข้าซื้อ (Buy/Long) เมื่อสัญญาณทั้งสองข้อยืนยันตรงกัน
สัญญาณเข้าขาย (Entry Sell 🔴)
-
สัญญาณหลัก: รอจนกว่า จุดวงกลมสีแดง (🔴) จะปรากฏขึ้นเหนือแท่งเทียน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า "แนวโน้มขาลงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"
-
การยืนยันความแข็งแกร่ง: หลังจากเห็นจุดสีแดง ให้สังเกต Histogram ด้านล่าง หากแท่งกราฟในโซนลบ (โดยเฉพาะ -2 และ -3) เริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าแรงขายกำลังครอบงำตลาดและเป็นแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง
-
จุดเข้าขาย: สามารถพิจารณาเข้าขาย (Sell/Short) เมื่อสัญญาณทั้งสองข้อยืนยันตรงกัน
การตั้งจุดทำกำไร (Take Profit - TP)
คุณสามารถใช้ข้อมูลจาก Indicator เพื่อหาจังหวะปิดทำกำไรได้ 2 รูปแบบ:
-
สัญญาณแนวโน้มอ่อนตัว: เมื่อคุณอยู่ในสถานะ Buy และเห็นว่าแท่ง Histogram เริ่มหดตัวจากโซน +2/+3 กลับมากระจุกตัวอยู่ตรงกลางใกล้เส้น SMA นั่นเป็นสัญญาณว่า "แรงซื้อเริ่มแผ่ว" หรือ "แนวโน้มกำลังจะหมดแรง" ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในการพิจารณาปิดทำกำไร
-
สัญญาณกลับตัว: ปิดสถานะทันทีเมื่อมี สัญญาณตรงข้าม เกิดขึ้น เช่น หากคุณถือสถานะ Buy อยู่ แล้วมีจุดสีแดง (🔴) ปรากฏขึ้น ก็ควรปิดทำกำไรทันที
การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)
การวาง Stop Loss เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจำกัดความเสี่ยง โดยมีหลักการดังนี้:
-
สำหรับสถานะ Buy (Long 🔵): ควรตั้ง Stop Loss ไว้ที่บริเวณ ใต้เส้น SMA หรือสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อย อาจตั้งไว้ใต้โซนเบี่ยงเบน -1 เพราะหากราคาหลุดลงไปต่ำกว่านั้น อาจหมายความว่าแนวโน้มขาขึ้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
-
สำหรับสถานะ Sell (Short 🔴): ควรตั้ง Stop Loss ไว้ที่บริเวณ เหนือเส้น SMA หรือเหนือโซนเบี่ยงเบน +1 เพื่อป้องกันในกรณีที่ราคาวกกลับขึ้นไปแรงจนเปลี่ยนทิศทาง
สรุป: Deviation Trend Profile เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มมุมมองในการเทรดได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะการประเมิน "คุณภาพ" ของแนวโน้ม ทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะถือต่อไป, ปิดทำกำไร, หรืออยู่เฉยๆ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ Indicator นี้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ที่ดีเสมอ
ทิ้งคำตอบไว้
- 42 ฟอรัม
- 2,462 หัวข้อ
- 7,182 กระทู้
- 119 ออนไลน์
- 2,775 สมาชิก