ในโลกของการเทรด การทำความเข้าใจว่าฝั่งไหน (ผู้ซื้อหรือผู้ขาย) กำลังคุมตลาดอยู่ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจ Indicator จำนวนมากถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้ และหนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจและให้มุมมองที่แตกต่างออกไปคือ Total Power Indicator (TPI) ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจาก Indicator พื้นฐานอย่าง Bull Power และ Bear Power เพื่อให้เราเห็นภาพรวมของพลังในตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Concept และหลักการทำงานของ Total Power Indicator

TPI เป็น Indicator ประเภท Oscillator ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ข้อเสียของ Bull/Bear Power แบบดั้งเดิม ซึ่งมักให้สัญญาณระยะสั้นเกินไป หลักการของ TPI คือ:

1. นับจำนวนแท่งเทียน: Indicator จะมองย้อนกลับไปตามจำนวนแท่งเทียนที่กำหนด (ค่ามาตรฐานคือ 45 แท่ง)

2. วิเคราะห์พลังในแต่ละแท่ง: ในแต่ละแท่งที่มองย้อนกลับไปนั้น Indicator จะใช้ iBullsPower และ iBearsPower เพื่อตรวจสอบว่าแท่งนั้นเป็น "วันของกระทิง" (Bull Day) หรือ "วันของหมี" (Bear Day)

3. คำนวณและแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์: TPI จะนับจำนวนวันของกระทิงและหมีทั้งหมดในกรอบเวลาที่กำหนด แล้วแปลงออกมาเป็นค่าเปอร์เซ็นต์ (0-100) และแสดงผลออกมาเป็นเส้น 3 เส้นในหน้าต่างด้านล่างกราฟ:

   • เส้น Bull Power (สีเขียว): แสดงสัดส่วนพลังของฝั่งซื้อ (กระทิง)

   • เส้น Bear Power (สีแดง): แสดงสัดส่วนพลังของฝั่งขาย (หมี)

   • เส้น Total Power (สีเขียวทะเล): แสดงค่าผลต่าง "สมบูรณ์" (Absolute Difference) ระหว่างพลังของกระทิงและหมี บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของฝั่งที่คุมตลาดอยู่

ผลลัพธ์ที่ได้คือเส้น Oscillator ที่ต่อเนื่องและนุ่มนวล ทำให้เราเห็นภาพรวมของแนวโน้มพลังในระยะยาวได้ดีกว่า

สามารถใช้กับสินค้าและ Timeframe ใดได้บ้าง?

• สินค้าที่เหมาะสม: เนื่องจาก TPI วัดพลังจาก Price Action พื้นฐาน จึงสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสินค้าที่มีสภาพคล่องเพียงพอ เช่น Forex (คู่เงินต่างๆ), ทองคำ, น้ำมัน, ดัชนีหุ้น (S&P500, SET50) และ Cryptocurrency

• Timeframe ที่แนะนำ: TPI มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ได้ดีในหลาย Timeframe

  • Timeframe เล็ก (M5, M15, M30): เหมาะสำหรับสาย Scalping หรือ Day Trading สัญญาณจะเกิดขึ้นบ่อย แต่ก็อาจมีสัญญาณหลอก (False Signal) มากขึ้น

  • Timeframe ใหญ่ (H1, H4, D1): เหมาะสำหรับสาย Swing Trading สัญญาณจะเกิดน้อยลง แต่มีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นมาก

วิธีการติดตั้ง Indicator บนโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4)

1. ดาวน์โหลดไฟล์ Indicator TotalPowerIndicator.mq4 หรือ .ex4

2. เปิดโปรแกรม MT4 ไปที่เมนู File > Open Data Folder

3. เข้าไปที่โฟลเดอร์ MQL4 > Indicators

4. นำไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาไปวางไว้ในโฟลเดอร์ Indicators

5. ปิดและเปิดโปรแกรม MT4 ใหม่อีกครั้ง หรือคลิกขวาที่หน้าต่าง Navigator แล้วเลือก Refresh

6. ลาก Indicator "TotalPowerIndicator" จากหน้าต่าง Navigator มาใส่ในกราฟที่คุณต้องการใช้งาน

วิธีการใช้งานและกลยุทธ์การเทรด

1. การเข้าซื้อ (Entry Buy / Long Position)

• สัญญาณแบบ Crossover (สัญญาณแนวโน้ม):

  • เงื่อนไข: รอให้ เส้น Bull Power (สีเขียว) ตัดขึ้นเหนือเส้น Bear Power (สีแดง)

  • ความหมาย: เป็นสัญญาณว่าพลังของฝั่งซื้อเริ่มมีมากกว่าฝั่งขาย อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น

• สัญญาณแบบ Reversal (สัญญาณกลับตัว - แข็งแกร่งแต่เกิดไม่บ่อย):

  • เงื่อนไข: รอให้ เส้น Bear Power (สีแดง) วิ่งลงไปแตะระดับ 100

  • ความหมาย: เป็นสัญญาณว่าตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) อย่างรุนแรง และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวเป็นขาขึ้น

2. การเข้าขาย (Entry Sell / Short Position)

• สัญญาณแบบ Crossover (สัญญาณแนวโน้ม):

  • เงื่อนไข: รอให้ เส้น Bear Power (สีแดง) ตัดขึ้นเหนือเส้น Bull Power (สีเขียว)

  • ความหมาย: เป็นสัญญาณว่าพลังของฝั่งขายเริ่มมีอำนาจเหนือกว่าฝั่งซื้อ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง

• สัญญาณแบบ Reversal (สัญญาณกลับตัว - แข็งแกร่งแต่เกิดไม่บ่อย):

  • เงื่อนไข: รอให้ เส้น Bull Power (สีเขียว) วิ่งขึ้นไปแตะระดับ 100

  • ความหมาย: เป็นสัญญาณว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างรุนแรง และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวเป็นขาลง

การตั้งค่า Stop Loss (SL) และ Take Profit (TP)

TPI ไม่ได้ให้สัญญาณจุด SL/TP โดยตรง แต่เราสามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับหลักการอื่นได้ ดังนี้

• การตั้ง Stop Loss (SL):

  • สำหรับ Buy: ตั้ง SL ไว้ที่บริเวณ Swing Low ล่าสุด หรือใต้แนวรับที่สำคัญ

  • สำหรับ Sell: ตั้ง SL ไว้ที่บริเวณ Swing High ล่าสุด หรือเหนือแนวต้านที่สำคัญ

  • อาจใช้ Indicator อย่าง ATR (Average True Range) เพื่อช่วยกำหนดระยะ SL ที่เหมาะสมกับความผันผวนของตลาดในขณะนั้น

• การตั้ง Take Profit (TP):

  • ตั้งตาม Risk/Reward Ratio: กำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต้องการ เช่น 1:1.5 หรือ 1:2

  • ตั้งตามแนวรับ-แนวต้าน: ตั้ง TP ที่บริเวณแนวรับ-แนวต้านถัดไปที่สำคัญ

  • ใช้สัญญาณตรงข้ามเป็นจุดออก: ออกจากออเดอร์ Buy เมื่อเกิดสัญญาณ Crossover ฝั่ง Sell (เส้นสีแดงตัดขึ้นเหนือสีเขียว) และในทางกลับกัน

สรุป: Total Power Indicator เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการวิเคราะห์ "พลัง" ที่แท้จริงเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคา ช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นภาพรวมระยะยาวและหาจังหวะเข้าเทรดตามแนวโน้มหรือหาจุดกลับตัวที่แข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ควรใช้ TPI ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น การวิเคราะห์แนวรับ-แนวต้าน หรือเส้นแนวโน้ม เพื่อยืนยันสัญญาณและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

สามารถ Download Indicator ได้ที่ :

https://www.mql5.com/en/code/download/55518/totalpowerindicator.mq4