coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

เจาะลึก Optimized Linear Regression: อินดิเคเตอร์จับเทรนด์ขั้นสูง พร้อมค่า Slope และ Intercept

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
209 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 508
หัวข้อเริ่มต้น  

ในโลกของการเทรดทางเทคนิค การหาเครื่องมือที่สามารถจับทิศทางของแนวโน้มได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วคือหัวใจสำคัญ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอินดิเคเตอร์ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี นั่นคือ Optimized Linear Regression Value หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Time Series Forecast (TSF) ซึ่งไม่เพียงแต่จะบอกแนวโน้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่อินดิเคเตอร์ตัวอื่นไม่มี


แนวคิดของ Indicator 💡

อินดิเคเตอร์ตัวนี้ทำงานโดยการสร้างเส้นแนวโน้ม Linear Regression (การถดถอยเชิงเส้น) จากข้อมูลราคาย้อนหลังตามจำนวนแท่งเทียนที่กำหนด (Period) แต่แทนที่จะวาดเส้นแนวโน้มทั้งเส้น มันจะพล็อตเฉพาะ "จุดสิ้นสุด" ของเส้นแนวโน้มนั้น ณ แท่งเทียนปัจจุบัน ทำให้ได้เส้นที่เรียบและเคลื่อนไหวไปตามแนวโน้มของราคา

จุดเด่นที่แตกต่าง:

ในอดีต มีการใช้วิธีคำนวณแบบย่อ คือ (3 * LWMA) - (2 * SMA) ซึ่งแม้จะรวดเร็ว แต่ไม่สามารถบอกค่าสำคัญอื่นๆ ได้ แต่อินดิเคเตอร์ตัวนี้ถูกเขียนขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพสูงในแบบ "Loop-less" (ไม่ต้องวนลูปคำนวณซ้ำทั้งหมด) แต่ยังสามารถคำนวณค่าสำคัญออกมาได้ด้วย นั่นคือ:

  • Slope (ความชัน): บอกถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม ว่าชันขึ้นหรือลงรุนแรงเพียงใด

  • Intercept (จุดตัดแกน): บอกถึงค่าเริ่มต้นของเส้นแนวโน้ม

ค่าเหล่านี้ทำให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์แนวโน้มได้ลึกซึ้งกว่าเดิม


สามารถใช้กับสินค้าอะไรได้บ้าง? 📊

อินดิเคเตอร์นี้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสินทรัพย์ที่มีข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขาย เช่น:

  • ตลาด Forex: คู่เงินทุกสกุล เช่น EUR/USD, GBP/JPY, USD/JPY

  • สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities): ทองคำ (Gold), น้ำมัน (Oil)

  • ดัชนี (Indices): S&P500, NASDAQ, SET50

  • คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency): Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH)


Timeframe ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ⏰

ความเหมาะสมของ Timeframe ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของแต่ละคน:

  • Day Trade/Scalping (M5, M15, M30): ให้สัญญาณที่รวดเร็วและบ่อย แต่ก็อาจมีสัญญาณรบกวน (Noise) สูง เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ตัดสินใจเร็วและเฝ้าหน้าจอตลอด

  • Swing Trade (H1, H4): เป็น Timeframe ที่ได้รับความนิยมและสมดุลที่สุด ให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือ แนวโน้มชัดเจน และมีเวลาในการตัดสินใจมากขึ้น

  • Position Trade (D1, W1): เหมาะสำหรับการเทรดระยะยาว มองภาพรวมของแนวโน้มใหญ่ สัญญาณจะมีความแม่นยำสูงมาก แต่เกิดขึ้นไม่บ่อย

คำแนะนำ: สำหรับผู้เริ่มต้นหรือต้องการแนวทางที่สมดุล แนะนำให้เริ่มที่ H1 และ H4


วิธีการติดตั้ง Indicator

 

  1. ดาวน์โหลดไฟล์อินดิเคเตอร์ (นามสกุล .mq4 หรือ .ex4)

  2. เปิดโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4)

  3. ไปที่เมนู File -> Open Data Folder

  4. เข้าไปที่โฟลเดอร์ MQL4 -> Indicators

  5. นำไฟล์อินดิเคเตอร์ที่ดาวน์โหลดมาไปวางในโฟลเดอร์นี้

  6. กลับมาที่โปรแกรม MT4 ที่หน้าต่าง "Navigator" ให้คลิกขวาที่ "Indicators" แล้วเลือก Refresh

  7. ลากอินดิเคเตอร์จากหน้าต่าง Navigator มาวางบนกราฟที่ต้องการใช้งาน


วิธีตั้งค่าพารามิเตอร์ (Inputs)

 

เมื่อติดตั้งบนกราฟ จะมีหน้าต่างตั้งค่าพารามิเตอร์ 2 ตัวหลัก คือ:

  • inpPeriod (ค่าเริ่มต้น = 25)

    • ความหมาย: คือจำนวนแท่งเทียนย้อนหลังที่จะนำมาใช้ในการคำนวณเส้น Linear Regression

    • การปรับค่า:

      • ค่าน้อย (เช่น 14): เส้นจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของราคามากขึ้น ให้สัญญาณเร็วขึ้น แต่ก็อาจมีสัญญาณหลอกเยอะขึ้น

      • ค่ามาก (เช่น 50): เส้นจะเรียบขึ้น ช้าลง ช่วยกรองสัญญาณรบกวนได้ดี เหมาะกับการมองแนวโน้มระยะกลางถึงยาว

  • inpPrice (ค่าเริ่มต้น = PRICE_CLOSE)

    • ความหมาย: คือประเภทของราคาที่จะนำมาใช้ในการคำนวณ

    • การปรับค่า: โดยทั่วไปนิยมใช้ PRICE_CLOSE (ราคาปิด) เพราะเป็นราคาที่ตลาดให้ความสำคัญที่สุด แต่สามารถเปลี่ยนเป็นราคาอื่นได้ เช่น PRICE_MEDIAN ((High+Low)/2) เพื่อลดความผันผวนระหว่างวัน


วิธีการใช้งาน (Entry, TP, SL)

หัวใจของการใช้งานคือการสังเกต "สี" ของเส้นอินดิเคเตอร์ ซึ่งเปลี่ยนไปตามทิศทาง (Slope) ของมัน

 

เงื่อนไขฝั่ง Buy (Long Entry)

 

  1. สัญญาณหลัก: รอให้เส้นอินดิเคเตอร์เปลี่ยนสีจาก สีส้ม (ขาลง) 🟧 เป็น สีเขียว (ขาขึ้น) 🟩

  2. สัญญาณยืนยัน: รอให้ แท่งราคาปิดสูงกว่า เส้นอินดิเคเตอร์สีเขียว เพื่อยืนยันว่ามีแรงซื้อเข้ามาจริง

  3. จุดเข้า: เข้าออเดอร์ Buy ณ ราคาปิดของแท่งเทียนที่ยืนยันสัญญาณ

 

เงื่อนไขฝั่ง Sell (Short Entry)

 

  1. สัญญาณหลัก: รอให้เส้นอินดิเคเตอร์เปลี่ยนสีจาก สีเขียว (ขาขึ้น) 🟩 เป็น สีส้ม (ขาลง) 🟧

  2. สัญญาณยืนยัน: รอให้ แท่งราคาปิดต่ำกว่า เส้นอินดิเคเตอร์สีส้ม เพื่อยืนยันว่ามีแรงขายเข้ามาจริง

  3. จุดเข้า: เข้าออเดอร์ Sell ณ ราคาปิดของแท่งเทียนที่ยืนยันสัญญาณ

 

การตั้งจุดทำกำไร (Take Profit - TP)

 

  • วิธีที่ 1 (ตามสัญญาณ): ถือออเดอร์ไปเรื่อยๆ จนกว่าอินดิเคเตอร์จะเปลี่ยนเป็นสีตรงข้าม (เช่น ถือ Buy จนกว่าเส้นจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม)

  • วิธีที่ 2 (ตามแนวรับ-แนวต้าน): ตั้ง TP ที่บริเวณแนวต้านสำคัญถัดไป (สำหรับฝั่ง Buy) หรือแนวรับสำคัญถัดไป (สำหรับฝั่ง Sell)

  • วิธีที่ 3 (Risk:Reward): กำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่แน่นอน เช่น 1:1.5 หรือ 1:2

 

การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss - SL)

 

  • วิธีที่ 1 (ตาม Swing): เป็นวิธีที่ปลอดภัยและนิยมที่สุด

    • ฝั่ง Buy: ตั้ง SL ไว้ที่ใต้จุดต่ำสุดของ Swing Low ล่าสุด

    • ฝั่ง Sell: ตั้ง SL ไว้ที่เหนือจุดสูงสุดของ Swing High ล่าสุด

  • วิธีที่ 2 (ตามระยะ): ตั้ง SL โดยใช้จำนวนจุดที่คำนวณจากค่า ATR (Average True Range) เพื่อให้สอดคล้องกับความผันผวนของตลาดในขณะนั้น

 

สามารถ Download Indicator ได้ที่ :

https://www.mql5.com/en/code/download/50492/linear_regression_value.mq5



   
อ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: