สรุปสาระจากหนังสือ Amazing Forex System
เอกสารนี้อธิบายระบบการเทรด Forex ที่เรียกว่า "Amazing Forex System" ซึ่งพัฒนาโดย Robert Borowski ในปี 2004 ระบบนี้อ้างว่าสามารถสร้างรายได้ตั้งแต่ 200 ถึง 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่านั้น โดยใช้เวลาทำงานเพียงวันละไม่ถึง 10 นาที และมีความเสี่ยงน้อยแต่มีโอกาสทำกำไรสูง กลยุทธ์หลักของระบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน เช่น การตีเส้นแนวโน้ม (Trendlines), การใช้อินดิเคเตอร์ (Indicators) หรือ Fibonacci แต่เป็นเพียงการทำตามขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน ระบบนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex ไปจนถึงเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้ว
คำเตือนทางกฎหมายและความเสี่ยง
ผู้เขียนได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้คำแนะนำด้านการลงทุนหรือการเงิน การเทรด Forex มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน และมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้ใช้งานต้องยอมรับความรับผิดชอบทั้งหมดต่อการกระทำ, การเทรด, กำไร หรือขาดทุนของตนเอง
แนวคิดหลักของระบบ
หัวใจของกลยุทธ์นี้คือการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็วในช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญ หรือที่เรียกว่า "Fundamental Announcements" โดยปกติแล้ว เมื่อมีการประกาศข่าวเหล่านี้ ราคาของคู่สกุลเงินมักจะ "กระโดด" (JUMP) ขึ้นหรือลงอย่างรุนแรงประมาณ 30-60 pips หรืออาจมากถึง 100 pips ภายในไม่กี่นาที กลยุทธ์นี้คือการดักจับการเคลื่อนไหวของราคาดังกล่าว โดยการตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Entry Orders) ทั้งสองทิศทาง (ทั้งซื้อและขาย) ก่อนที่ข่าวจะประกาศเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไปในทิศทางใด เทรดเดอร์ก็จะสามารถทำกำไรได้
ความรู้พื้นฐานที่จำเป็น
-
คู่สกุลเงิน (Currency Pairs): การเทรด Forex คือการซื้อขายสกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง โดยส่วนใหญ่มักจะเทรดเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY เป็นต้น
-
Pip (Price Interest Point): คือหน่วยที่เล็กที่สุดของการเปลี่ยนแปลงราคา สำหรับบัญชีเทรดปกติ (Standard Lot) 1 pip จะมีมูลค่าประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐ
-
บัญชี Mini และ Standard: บัญชี Standard ต้องใช้เงินประกัน (Margin) ประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อควบคุม Lot ขนาด 100,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีทุนน้อย สามารถเปิดบัญชี Mini ซึ่งใช้เงินเริ่มต้นเพียง 300 ดอลลาร์ โดยที่ 1 pip จะมีมูลค่าประมาณ 1 ดอลลาร์
-
การบริหารความเสี่ยง (Equity Management): ไม่ควรเสี่ยงเกิน 2% ของเงินทุนในบัญชีต่อการเทรดหนึ่งครั้ง สำหรับบัญชี Mini ที่มีขนาดเล็ก อาจยืดหยุ่นให้เสี่ยงได้ถึง 5%
-
สิ่งที่ต้องมี:
-
บัญชีเทรดจริง (Live Account)
-
บัญชีทดลอง (Demo Account) เพื่อฝึกฝน
-
โปรแกรมดูกราฟ (Charts) ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีให้ใช้ฟรี
-
กลยุทธ์การเทรดโดยละเอียด
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบปฏิทินข่าว (Fundamental Announcement Calendar) ค้นหาเว็บไซต์ที่เผยแพร่ปฏิทินข่าวเศรษฐกิจ (มีลิงก์ให้ในส่วน "Resources" ของเว็บไซต์ผู้เขียน) เพื่อดูว่าในแต่ละวันมีประกาศข่าวสำคัญของประเทศใดบ้าง และเวลาใด
ขั้นตอนที่ 2: ระบุข่าวและเวลาที่น่าสนใจ
-
มองหาช่วงเวลาที่มีการประกาศข่าวหลายรายการพร้อมกันจากประเทศเดียวกัน เพราะจะทำให้ตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น
-
แปลงเวลาประกาศข่าวซึ่งส่วนใหญ่อ้างอิงตามเวลา GMT (Greenwich Mean Time) ให้เป็นเวลาท้องถิ่นของตนเอง
ขั้นตอนที่ 3: การเตรียมตัว (15 นาทีก่อนข่าวออก)
-
ประมาณ 15 นาทีก่อนเวลาประกาศข่าว ควรเตรียมพร้อมหน้าคอมพิวเตอร์
-
เปิดกราฟแท่งเทียน (Candlestick) แบบ 1 นาที ของคู่สกุลเงินที่ต้องการเทรด (เช่น EUR/USD, GBP/USD)
-
เปิดโปรแกรมเทรดของโบรกเกอร์และเตรียมพร้อมที่จะส่งคำสั่ง
ขั้นตอนที่ 4: การวางคำสั่ง (1 นาทีก่อนข่าวออก)
-
ณ เวลา 1 นาทีก่อนข่าวประกาศ (เช่น 8:29 น. สำหรับข่าวที่ประกาศตอน 8:30 น.) ให้ดูที่ราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) ของแท่งเทียนปัจจุบัน (8:29 น.) และแท่งเทียก่อนหน้า (8:28 น.)
-
คำนวณจุดเข้า:
-
จุดเข้าซื้อ (Buy Entry): นำ "ราคาสูงสุด" ที่หาได้จากข้อ 1 มาบวกเพิ่ม 10 pips
-
จุดเข้าขาย (Sell Entry): นำ "ราคาต่ำสุด" ที่หาได้จากข้อ 1 มาลบออก 10 pips
-
-
ตั้งคำสั่ง Entry Orders 2 คำสั่ง:
-
ตั้งคำสั่ง Buy Stop ที่ "จุดเข้าซื้อ" ที่คำนวณไว้
-
ตั้งคำสั่ง Sell Stop ที่ "จุดเข้าขาย" ที่คำนวณไว้
-
-
ตั้ง Stop Loss (สำคัญมาก):
-
สำหรับคำสั่ง Buy ให้ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ระดับ "ราคาสูงสุด" เดิม (เท่ากับขาดทุน 10 pips)
-
สำหรับคำสั่ง Sell ให้ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ระดับ "ราคาต่ำสุด" เดิม (เท่ากับขาดทุน 10 pips)
-
ห้ามเทรดโดยไม่มี Stop Loss เด็ดขาด
-
-
ตั้ง Take Profit (ไม่บังคับ): สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำให้ตั้งเป้าหมายทำกำไร (Limit) ที่ 20 pips สำหรับทั้งสองคำสั่ง
ขั้นตอนที่ 5: การจัดการหลังข่าวออก
-
ภายใน 5 นาทีหลังข่าวออก ควรมีคำสั่งใดคำสั่งหนึ่งทำงาน
-
ทันทีที่คำสั่งหนึ่งทำงาน ให้ยกเลิกอีกคำสั่งที่เหลืออยู่ทันที
-
หากตั้ง Take Profit ไว้ที่ 20 pips เมื่อราคาไปถึงเป้าหมาย การเทรดก็จะปิดโดยอัตโนมัติพร้อมกำไรประมาณ 200 ดอลลาร์ (สำหรับการเทรด 1 standard lot)
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและวิธีรับมือ
-
Whiplash (การสะบัดของราคา): บางครั้งราคาสะบัดไปทางหนึ่งเพื่อเกี่ยวคำสั่งของเราให้ทำงาน แล้วชน Stop Loss (ขาดทุน 10 pips) จากนั้นจึงวิ่งไปอีกทางหนึ่งอย่างรุนแรง หากเกิดเหตุการณ์นี้ คำสั่งที่สองมักจะทำงานและทำกำไรได้ ซึ่งสามารถนำมาหักลบกับการขาดทุนครั้งแรกได้
-
Duds (ข่าวไม่ออกผล): บางครั้งตลาดก็ไม่ตอบสนองต่อข่าว หากผ่านไป 3 นาทีแล้วราคายังไม่เคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ ให้ถือว่าเป็น "Dud" และให้ยกเลิกคำสั่งที่ตั้งค้างไว้ทั้งหมด
ข่าวประกาศที่สำคัญ (Key Announcements)
ข่าวที่มีแนวโน้มทำให้เกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงที่สุด ได้แก่:
-
สำคัญที่สุด: รายงานการจ้างงาน (Unemployment Reports), อัตราดอกเบี้ย (Interest Rates)
-
สำคัญรองลงมา: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), อัตราเงินเฟ้อ (Inflation), ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)
-
ควรจับตาดู: ปริมาณเงินในระบบ (M2), งบประมาณแผ่นดิน (Treasury Budget), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI), ยอดค้าปลีก (Retail Sales) และดุลการค้า (International Trade)
เทคนิคและคำแนะนำเพิ่มเติม
-
เทคนิค "At Work": หากไม่สามารถอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ได้ ให้ใช้วิธีโทรศัพท์หาโบรกเกอร์เพื่อตั้งคำสั่ง โดยอาจต้องเพิ่มระยะห่างจาก High/Low เป็น 15 pips เพื่อความปลอดภัย
-
เทคนิค "Gone Surfing" (ปล่อยกำไร): หากมีเวลาเฝ้าหน้าจอ ไม่ต้องตั้ง Limit แต่ให้ใช้วิธีเลื่อน Stop Loss ตามกำไรไปเรื่อยๆ (Trailing Stop) เพื่อทำกำไรให้ได้มากที่สุด
-
Market Overlap: ช่วงเวลาที่ตลาดหลักสองแห่งเปิดทับซ้อนกัน (เช่น ตลาดยุโรปและอเมริกา เวลา 8:00-12:00 น. EST) เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดเพราะมีความผันผวนสูง
-
ห้ามถือออเดอร์ข้ามสัปดาห์: ห้าม ถือสถานะเปิดทิ้งไว้ในช่วงสุดสัปดาห์ (วันเสาร์-อาทิตย์) โดยเด็ดขาด เพราะเมื่อตลาดเปิดในวันจันทร์อาจเกิด "Gap" (การกระโดดของราคา) ซึ่งอาจทำให้ Stop Loss ไม่ทำงานและส่งผลให้ขาดทุนอย่างหนักได้ ควรปิดทุกสถานะภายในเที่ยงวันศุกร์ (ตามเวลา EST)
-
การฝึกฝน: ผู้เขียนเน้นย้ำอย่างยิ่งว่า ต้องฝึกฝนด้วยบัญชี Demo จนกว่าจะเข้าใจและทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ (อย่างน้อย 5-10 ครั้งที่ชนะ) ก่อนที่จะใช้เงินจริงในการเทรด
สามารถ Download PDF File ได้ที่ :
ทิ้งคำตอบไว้
- 44 ฟอรัม
- 2,922 หัวข้อ
- 8,348 กระทู้
- 17 ออนไลน์
- 3,876 สมาชิก