บทนำ

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายต่อวันสูงถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นักเทรดมักใช้ซอฟต์แวร์อัตโนมัติหรือ Expert Advisor (EA) ซึ่งช่วยให้สามารถวิเคราะห์และบริหารจัดการคำสั่งซื้อขายได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้ เราจะศึกษาและวิเคราะห์โค้ด  ที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการซื้อขายใน MT4 โดยเน้นไปที่จำนวนออเดอร์, ปริมาณ Lots, และกำไรของออเดอร์ทั้งฝั่งซื้อและฝั่งขาย

พื้นฐานของ MetaTrader 4 และ Expert Advisor (EA)

MetaTrader 4 (MT4) เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาด Forex มีเครื่องมือที่สามารถช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์ตลาดและใช้กลยุทธ์อัตโนมัติผ่าน Expert Advisor (EA) ซึ่งเป็นสคริปต์ที่พัฒนาโดยใช้ภาษา MQL4 (MetaQuotes Language 4) EA สามารถใช้เพื่อวิเคราะห์กราฟราคา เปิดหรือปิดคำสั่งซื้อขาย และติดตามข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพอร์ตโฟลิโอของผู้ใช้

ส่วนที่ 1: โครงสร้างของ Expert Advisor (EA) ใน MQL4

1.1 องค์ประกอบหลักของ EA

EA ใน MT4 มีโครงสร้างพื้นฐานที่ประกอบด้วยฟังก์ชันหลักดังต่อไปนี้:

• OnInit() – ฟังก์ชันที่ทำงานเมื่อ EA ถูกเรียกใช้งานครั้งแรก
• OnDeinit() – ฟังก์ชันที่ทำงานเมื่อ EA ถูกปิด
• OnTick() – ฟังก์ชันที่ทำงานทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด

//+------------------------------------------------------------------+
//| Expert initialization function                                   |
//+------------------------------------------------------------------+
int OnInit()
  {
   Print("Total Buy Orders: ", CountBuyOrders());
   Print("Total Sell Orders: ", CountSellOrders());
   Print("Total Buy Lots: ", SumBuyLots());
   Print("Total Sell Lots: ", SumSellLots());
   Print("Total Buy Profits: ", SumBuyProfits());
   Print("Total Sell Profits: ", SumSellProfits());
   
   return(INIT_SUCCEEDED);
  }

ฟังก์ชัน OnInit() ถูกเรียกใช้เมื่อ EA ถูกติดตั้งลงบนกราฟ โดยจะดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อขายทั้งหมดในบัญชีของผู้ใช้

ส่วนที่ 2: ฟังก์ชันการคำนวณสถิติต่างๆ ของออเดอร์

2.1 การนับจำนวนคำสั่งซื้อขาย

int CountBuyOrders()
  {
   int count = 0;
   for(int i = OrdersTotal() - 1; i >= 0; i--)
     {
      if(OrderSelect(i, SELECT_BY_POS, MODE_TRADES) && OrderType() == OP_BUY)
         count++;
     }
   return count;
  }

ฟังก์ชัน CountBuyOrders() ใช้เพื่อวนลูปผ่านออเดอร์ทั้งหมดในบัญชี และตรวจสอบว่ามีออเดอร์ที่เป็นประเภทซื้อ (OP_BUY) กี่รายการ

2.2 การคำนวณปริมาณ Lots ของคำสั่งซื้อและขาย

double SumBuyLots()
  {
   double lots = 0.0;
   for(int i = OrdersTotal() - 1; i >= 0; i--)
     {
      if(OrderSelect(i, SELECT_BY_POS, MODE_TRADES) && OrderType() == OP_BUY)
         lots += OrderLots();
     }
   return lots;
  }

ฟังก์ชัน SumBuyLots() ใช้เพื่อรวมปริมาณ Lots ของคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เปิดอยู่

ส่วนที่ 3: การแสดงผลและการวิเคราะห์ข้อมูล

3.1 ตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จาก EA

Total Buy Orders: 3
Total Sell Orders: 2
Total Buy Lots: 2.5
Total Sell Lots: 1.8
Total Buy Profits: 150.50
Total Sell Profits: -45.20

จากผลลัพธ์ข้างต้นสามารถสังเกตได้ว่า:

• มีคำสั่งซื้อ (Buy) จำนวน 3 รายการ และคำสั่งขาย (Sell) จำนวน 2 รายการ
• ปริมาณ Lots ของคำสั่งซื้อรวมเป็น 2.5 และคำสั่งขายรวมเป็น 1.8
• กำไรจากคำสั่งซื้อรวมเป็น $150.50 ส่วนคำสั่งขายขาดทุน $45.20

ส่วนที่ 4: การพัฒนาเพิ่มเติมสำหรับ EA

4.1 การเพิ่มการแจ้งเตือนเมื่อถึงจุดทำกำไร

void CheckProfitAlerts()
{
   double totalProfit = SumBuyProfits() + SumSellProfits();
   if(totalProfit >= 100)
      Alert("คุณทำกำไรได้มากกว่า 100 ดอลลาร์แล้ว!");
}

สรุป

บทความนี้ได้วิเคราะห์โค้ด OrderStats.mq4 ซึ่งเป็น EA ที่ใช้ใน MT4 เพื่อรวบรวมและแสดงข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่ การใช้งาน EA ในการติดตามสถานะการซื้อขายช่วยให้การวิเคราะห์พอร์ตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดข้อผิดพลาดจากการคำนวณด้วยตนเอง แม้ว่า EA นี้จะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ก็สามารถนำไปพัฒนาต่อเพื่อให้เหมาะกับกลยุทธ์การซื้อขายของนักลงทุนแต่ละรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางสำหรับอนาคต

• ปรับปรุงให้ EA สามารถแสดงผลข้อมูลบนกราฟแทนที่จะเป็นเพียงข้อความใน Terminal
• เพิ่มระบบแจ้งเตือนเมื่อตลาดมีความผันผวนสูง
• พัฒนาให้สามารถเปิด/ปิดคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนด