coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
ถอดรหัสอินดิเคเตอร์...
 
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

ถอดรหัสอินดิเคเตอร์ CCI Momentum: เปลี่ยน CCI ธรรมดาให้เป็นเครื่องมือทำกำไรขั้นสูง

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
76 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 508
หัวข้อเริ่มต้น  

นักเทรดหลายท่านคงคุ้นเคยกับอินดิเคเตอร์ยอดนิยมอย่าง Commodity Channel Index (CCI) ที่ใช้ในการวัดโมเมนตัมและระบุโซน Overbought/Oversold แต่จุดอ่อนของ CCI แบบดั้งเดิมคือความผันผวนสูงและอาจส่งสัญญาณหลอก (False Signal) ได้บ่อยครั้ง
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับอินดิเคเตอร์ที่พัฒนาต่อยอดขึ้นมา ซึ่งเราจะขอเรียกว่า "CCI Momentum" มันถูกออกแบบมาเพื่อกรองสัญญาณรบกวนและแสดงผลโมเมนตัมของ CCI ในรูปแบบที่ราบรื่นและตีความได้ง่ายขึ้น เปลี่ยนเครื่องมือธรรมดาให้กลายเป็นระบบเทรดที่ทรงพลัง

 

หลักการและแนวคิด (Concept)

หัวใจของ CCI Momentum ไม่ได้อยู่ที่ค่า CCI เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ "โมเมนตัมของระยะห่าง" ระหว่างค่า CCI กับระดับสำคัญต่างๆ (Overbought, Oversold, Neutral) จากนั้นนำค่าที่ได้ไปคำนวณด้วย Exponential Moving Average (EMA) เพื่อทำให้เส้นสัญญาณมีความราบรื่น

อินดิเคเตอร์นี้ประกอบด้วยเส้นสัญญาณ 5 เส้น:

  1. เส้น CCI หลัก (สีแดง): คือค่า CCI แบบมาตรฐานตามที่เรารู้จักกันดี

  2. เส้นสีฟ้า (2 เส้น): คำนวณจาก EMA ของระยะห่างระหว่างค่า CCI กับโซน Overbought (150) และ Oversold (-150) เส้นนี้จะบอกถึง "โมเมนตัมที่ต่อเนื่อง" เมื่อราคาเข้าไปอยู่ในโซนซื้อมากหรือขายมากเกินไปอย่างชัดเจน

  3. เส้นสีเหลือง (2 เส้น): คำนวณจาก EMA ของระยะห่างระหว่างค่า CCI กับโซน Neutral (90 และ -90) เส้นนี้ทำหน้าที่เป็นตัววัด "แรงส่งของโมเมนตัม" ในช่วงที่ราคากำลังจะเริ่มแข็งแกร่งหรืออ่อนตัวลง

สรุปง่ายๆ คือ แทนที่จะดูแค่ CCI ตัดระดับ 100 หรือ -100 เรากำลังดู "ความแรงและความต่อเนื่อง" ของการเคลื่อนที่นั้นๆ ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและแม่นยำกว่าเดิม

 

สามารถใช้กับสินค้าอะไรได้บ้าง?

CCI Momentum เป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator ที่วัดโมเมนตัม จึงสามารถประยุกต์ใช้ได้กับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายซึ่งมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน (Trending) และมีความผันผวนพอสมควร เช่น:

  • ตลาด Forex: คู่เงินหลักและคู่เงินรอง เช่น EUR/USD, GBP/JPY, AUD/USD

  • สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities): ทองคำ (XAU/USD), น้ำมัน (WTI, Brent)

  • ดัชนี (Indices): S&P500, NASDAQ, SET50

  • คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency): Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH)

 

Timeframe ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน

  • Day Trading (M15, M30, H1): เหมาะสำหรับนักเทรดรายวัน สัญญาณจะเกิดขึ้นบ่อย แต่ต้องตัดสินใจเร็วและบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม

  • Swing Trading (H4, D1): เป็น Timeframe ที่แนะนำและเหมาะสมที่สุดสำหรับอินดิเคเตอร์ประเภทนี้ สัญญาณจะมีความน่าเชื่อถือสูงขึ้น มีเวลาวิเคราะห์และวางแผนการเทรดได้มากขึ้น

  • Position Trading (W1): สามารถใช้ได้ แต่สัญญาณจะเกิดน้อยมาก เหมาะสำหรับนักเทรดระยะยาวที่ถือออเดอร์เป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน

 

วิธีการติดตั้ง Indicator

  1. ดาวน์โหลดไฟล์อินดิเคเตอร์ .mq4 หรือ .ex4

  2. เปิดโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4)

  3. ไปที่เมนู File > Open Data Folder

  4. เข้าไปที่โฟลเดอร์ MQL4 > Indicators

  5. นำไฟล์อินดิเคเตอร์ที่ดาวน์โหลดมาไปวางในโฟลเดอร์นี้

  6. กลับมาที่โปรแกรม MT4 คลิกขวาที่หน้าต่าง Navigator แล้วเลือก Refresh หรือปิดแล้วเปิดโปรแกรมใหม่

  7. ลากชื่ออินดิเคเตอร์จากหน้าต่าง Navigator มาวางบนกราฟที่ต้องการใช้งาน

 

วิธีการใช้งาน (Entry, TP, SL)

เราสามารถใช้การตัดกันของ "เส้นสีเหลือง" และ "เส้นสีฟ้า" เป็นสัญญาณหลักในการเข้าเทรด

 

เงื่อนไขเข้า Buy (Long Entry)

  1. มองหาจังหวะ: รอให้กลุ่มเส้นสัญญาณทั้งหมดเคลื่อนตัวลงมาอยู่ในแดนล่าง (ต่ำกว่าระดับ 0) ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในช่วงขายหรือพักตัว

  2. สัญญาณเข้าซื้อ: สัญญาณจะแข็งแกร่งขึ้นหากเส้น CCI (สีแดง) กำลังวกตัวขึ้นจากโซน Oversold

การตั้งค่า TP/SL สำหรับ Buy:

  • Take Profit (TP):

    • วิธีที่ 1: ตั้ง TP ที่แนวต้านสำคัญถัดไป

    • วิธีที่ 2: ใช้ Risk:Reward Ratio เช่น 1:1.5 หรือ 1:2

    • วิธีที่ 3: ปิดออเดอร์เมื่อเกิดสัญญาณ Sell ตรงกันข้าม

  • Stop Loss (SL): ตั้ง SL ไว้ที่ใต้จุด Swing Low ล่าสุดก่อนเกิดสัญญาณ

 

 

เงื่อนไขเข้า Sell (Short Entry)

  1. มองหาจังหวะ: รอให้กลุ่มเส้นสัญญาณทั้งหมดเคลื่อนตัวขึ้นไปอยู่ในแดนบน (สูงกว่าระดับ 0) ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในช่วงซื้อหรือร้อนแรงเกินไป

  2. สัญญาณเข้าขาย: สัญญาณจะแข็งแกร่งขึ้นหากเส้น CCI (สีแดง) กำลังวกตัวลงจากโซน Overbought

การตั้งค่า TP/SL สำหรับ Sell:

  • Take Profit (TP):

    • วิธีที่ 1: ตั้ง TP ที่แนวรับสำคัญถัดไป

    • วิธีที่ 2: ใช้ Risk:Reward Ratio เช่น 1:1.5 หรือ 1:2

    • วิธีที่ 3: ปิดออเดอร์เมื่อเกิดสัญญาณ Buy ตรงกันข้าม

  • Stop Loss (SL): ตั้ง SL ไว้ที่เหนือจุด Swing High ล่าสุดก่อนเกิดสัญญาณ

 

ข้อควรจำ: ไม่มีอินดิเคเตอร์ใดที่แม่นยำ 100% ควรใช้ CCI Momentum ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยอื่น เช่น โครงสร้างราคา, แนวรับ-แนวต้าน, และที่สำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการความเสี่ยง (Money Management) อย่างเคร่งครัดเสมอ

 

สามารถ Download Indicator ได้ที่ :

https://www.mql5.com/en/code/download/49576/cci_with_channels.mq4



   
อ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: