📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 14/11/2024 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $2,557.22

- ทองปิดลบ $19.80 บอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็งฉุดตลาดต่อเนื่อง แนวโน้มราคาทองคำในปัจจุบันมีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้:

1.การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ: ดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ทำให้ทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์มีราคาสูงขึ้นในสายตาของผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ส่งผลให้นักลงทุนหันไปสนใจสินทรัพย์อื่นที่น่าสนใจกว่า

2.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งสูง ทำให้การถือทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยมีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สูงขึ้น จึงไม่จูงใจให้เกิดการลงทุนในทองคำมากนัก

3.ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI): ตัวเลข CPI ล่าสุดที่สอดคล้องกับคาดการณ์ สะท้อนว่าภาวะเงินเฟ้ออาจถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งลดความต้องการถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ

4.การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด: แม้ว่าความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมจะเพิ่มขึ้นหลังการเปิดเผยดัชนี CPI แต่ความกังวลว่านโยบายการคลังของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นอาจทำให้เฟดชะลอการผ่อนคลายทางการเงินในอนาคต ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ราคาทองคำลดลง

5.การติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติม: การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิด หากข้อมูลเหล่านี้สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ก็อาจส่งผลให้เฟดไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย ส่งผลลบต่อทองคำ

สรุปภาพรวม: ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น และความคาดการณ์ต่อการปรับดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 34.97
ดัชนีดอลลาร์: 106.642

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.465

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$67.90 /บาร์เรล

- แนวโน้มราคาน้ำมันในขณะนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ยังมีปัจจัยที่อาจกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นลง โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1.แรงซื้อชดเชยการขายชอร์ต (Short Covering): นักลงทุนซื้อคืนสัญญาน้ำมันเพื่อปิดสถานะชอร์ตหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงมาถึงระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ แรงซื้อดังกล่าวช่วยดึงราคาน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้นได้เล็กน้อย

2.การปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันของโอเปก: กลุ่มโอเปกได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกทั้งปีนี้และปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ซึ่งส่งผลให้ความต้องการน้ำมันโลกชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันอาจถูกกดดันในระยะยาว

3.การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ: ดัชนีดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้น 0.43% ทำให้น้ำมันซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง ส่งผลลบต่อราคาน้ำมัน

4.สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ: สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 777,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน แสดงให้เห็นถึงการบริโภคน้ำมันที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ที่จะเปิดเผยในวันนี้อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาด โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล

สรุปภาพรวม: ราคาน้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อยจากแรงซื้อชดเชยการขายชอร์ตและการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันจากการปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกโดยโอเปกและการแข็งค่าของดอลลาร์อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกกดดันในระยะยาว

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

14.10

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 868.52 (วันนี้กองทุนมีขายออก 2.01 ตัน🔽)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,548 , $2,530 $2,509
แนวต้านสำคัญ: $2,585 , $2,604 , $2,626

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:
- ข่าว PPI

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:

- ⭐⭐⭐ 20.30 น. -จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
- ⭐⭐⭐ 20.30 น. - ชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) ( ต.ค.)
- ⭐⭐⭐ 23.00 น. - สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
#ราคาทองคำ #อัตราแลกเปลี่ยน #ตลาดการเงิน #เทรดทองคำ

เครดิตเจอโรมพาเทรด