เทคนิค BBMA: กลยุทธ์การเทรดที่ผสาน Bollinger Bands และ Moving Averages
BBMA คืออะไร?
เทคนิค BBMA (Bollinger Bands + Moving Averages) เป็นระบบการเทรดที่ใช้การผสมผสานของ Bollinger Bands (BB) และ Moving Averages (MA) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและจุดเข้าออกที่แม่นยำในตลาด Forex ระบบนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Oma Ally ผ่านการทดลองและทดสอบมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่ต้องการใช้แนวรับ-แนวต้านแบบไดนามิก
องค์ประกอบหลักของระบบ BBMA
BBMA มีองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์ทิศทางตลาด ได้แก่:
- Extreme – บ่งบอกจุดที่ราคามีแนวโน้มจะกลับตัว
- MHV (Market Lost Volume) – สัญญาณที่บ่งบอกว่าตลาดกำลังอ่อนแรง
- Re-Entry – จุดเข้าเทรดใหม่หลังจากแนวโน้มเกิดขึ้นชัดเจน
พื้นฐานของ Bollinger Bands และ Moving Averages
1. Bollinger Bands (BB)
Bollinger Bands เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ถูกคิดค้นโดย John Bollinger ในปี 1980 ประกอบด้วยเส้น 3 เส้น ได้แก่:
- Top BB (เส้นบน) – ใช้เป็นแนวต้าน
- Mid BB (เส้นกลาง) – ใช้เป็นแนวต้านหรือนแนวรับ
- Low BB (เส้นล่าง) – ใช้เป็นแนวรับ
2. Moving Averages (MA)
Moving Average เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้เฉลี่ยค่าราคาย้อนหลังตามช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งสามารถช่วยระบุแนวโน้มของราคาได้
- ถ้าราคาอยู่เหนือ MA → มีแนวโน้มขาขึ้น
- ถ้าราคาอยู่ต่ำกว่า MA → มีแนวโน้มขาลง
- MA สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านที่เคลื่อนที่ไปตามราคา
การตั้งค่า Indicator BBMA ใน MetaTrader 4 (MT4)
1. การตั้งค่า Bollinger Bands (BB)
- ไปที่ Insert > Indicators > Trend > Bollinger Bands
- ตั้งค่าตามนี้:
- Period: 20
- Deviation: 2.0
- Apply to: Close
- Color: เลือกสีที่มองเห็นได้ชัด
- กด OK เพื่อบันทึกการตั้งค่า
2. การตั้งค่า Moving Averages (MA)
ต้องเพิ่ม 2 ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ คือ MA 5 และ MA 10
- ไปที่ Insert > Indicators > Trend > Moving Average
- ตั้งค่า MA 5
- Period: 5
- MA Method: Smoothed
- Apply to: High
- ทำซ้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่ม MA 10
- Period: 10
- MA Method: Smoothed
- Apply to: Low
รูปแบบการเข้าเทรดในระบบ BBMA
1. Extreme
Extreme คือจุดที่ราคาทะลุออกจาก Bollinger Bands มากเกินไป และ MA เคลื่อนออกไปจาก BB ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับตัวของราคา
- Extreme Sell – MA 5/10 High ออกจาก Top BB → ราคามีแนวโน้มลง
- Extreme Buy – MA 5/10 Low ออกจาก Low BB → ราคามีแนวโน้มขึ้น
2. Market Lost Volume (MHV)
MHV เป็นสัญญาณที่แสดงว่าตลาดกำลังอ่อนแรงและมีแนวโน้มจะกลับตัว
3. Re-Entry
Re-Entry คือการรอให้ราคาเด้งกลับมาแตะเส้น MA หลังจากเกิดแนวโน้ม เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดใหม่
แนวทางการตั้ง TP (Take Profit) และ SL (Stop Loss)
1. การตั้งค่า Take Profit (TP)
- TP 1: ตั้งไว้ที่ Mid BB (เส้นกลาง) เป็นเป้าหมายแรก
- TP 2: ตั้งไว้ที่ ฝั่งตรงข้ามของ BB (เช่น เทรด Buy → ตั้ง TP ที่ Top BB, เทรด Sell → ตั้ง TP ที่ Low BB)
- TP 3: หากแนวโน้มยังแข็งแรง สามารถถือออเดอร์ไปจนกว่า BB จะเริ่ม หดตัว (BB Horizontal)
2. การตั้งค่า Stop Loss (SL)
- SL 1: ตั้ง SL ที่ Low BB (สำหรับ Buy) หรือ Top BB (สำหรับ Sell)
- SL 2: ใช้ MA5/10 เป็นแนวรับแนวต้าน หากราคา Break Out SL ให้ตัดขาดทุน
- SL 3: กำหนด SL ไว้ ต่ำกว่าจุดเข้า 15-30 Pips (ขึ้นอยู่กับ Timeframe)
Timeframe ไหนดีที่สุดสำหรับ BBMA?
1. Scalping (เทรดเร็ว)
- Timeframe ที่ใช้: M15, M30
- เป้าหมาย: เทรดระยะสั้น กินกำไรทีละ 10-30 Pips
- SL: 10-20 Pips
- TP: 20-40 Pips
- เหมาะกับ: เทรดเดอร์ที่ชอบเทรดเร็ว จบไว
2. Swing Trading (เทรดยาวขึ้น)
- Timeframe ที่ใช้: H1, H4
- เป้าหมาย: จับแนวโน้มใหญ่ขึ้น เก็บกำไร 50-200 Pips
- SL: 30-50 Pips
- TP: 100-300 Pips
- เหมาะกับ: เทรดเดอร์ที่ชอบถือออเดอร์ข้ามวัน
3. Long-Term (เทรดระยะยาว)
- Timeframe ที่ใช้: D1, W1
- เป้าหมาย: จับแนวโน้มหลักของตลาด
- SL: 50-150 Pips
- TP: 300-1000 Pips
- เหมาะกับ: เทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดแบบลงทุนนาน
สรุป
- BBMA ใช้ได้กับทุก Timeframe แต่แนะนำ H1 หรือ H4 สำหรับ Swing Trading
- TP/SL ควรใช้ร่วมกับ Bollinger Bands และ Moving Averages เพื่อความแม่นยำ
- Scalping ใช้ M15 หรือ M30 ส่วน Long-term ใช้ D1 หรือ W1
- ควรใช้ SL ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด
สามารถ Download E-Document ฉบับละเอียดได้ที่ : https://drive.google.com/file/d/1RFdTEAS5e1hVZPozINgzTig3aXb-0K0N/view?usp=drive_link
ทิ้งคำตอบไว้
- 41 ฟอรัม
- 1,317 หัวข้อ
- 3,706 กระทู้
- 18 ออนไลน์
- 1,444 สมาชิก