การวิเคราะห์ตลาดด้วยกราฟ Market Profile®: กลยุทธ์และการตีความพฤติกรรมตลาด
การวิเคราะห์ตลาดผ่านกราฟ Market Profile® เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่ผู้เทรดมืออาชีพใช้เพื่อทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมของตลาด การใช้กราฟนี้ทำให้สามารถเห็นภาพรวมของตลาดที่ช่วยในการตัดสินใจได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่าจะมีเครื่องมือและกลยุทธ์การเทรดที่หลากหลาย แต่ Market Profile® ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีความสำคัญและสามารถประยุกต์ใช้ในตลาดที่แตกต่างกันได้อย่างหลากหลาย กราฟ Market Profile® ถูกพัฒนาโดย Peter Steidlmayer ที่ Chicago Board of Trade (CBOT) และกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ตลาดในวันนี้
1. ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ Market Profile®
กราฟ Market Profile® เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการแสดงการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด โดยการใช้กรอบเวลาที่เรียกว่า "Time/Price Opportunities" (TPOs) ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาที่ราคาถูกซื้อขายในระดับต่างๆ TPOs จะเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมในตลาดที่แสดงให้เห็นถึงราคาและเวลาที่มีการเคลื่อนไหวของตลาดในแต่ละช่วงเวลา จากนั้นเราสามารถใช้กราฟนี้ในการมองหาความสมดุล (Balance) หรือความไม่สมดุล (Imbalance) ของตลาด ซึ่งจะช่วยให้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของการเทรดได้
กราฟ Market Profile® ใช้การแสดงผลข้อมูลทางการเงินในรูปแบบกราฟที่มีความยืดหยุ่น โดยจะมีการแสดงผลราคาที่มีการซื้อขายในช่วงเวลาต่างๆ ทำให้ผู้เทรดสามารถเห็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบที่ชัดเจนขึ้น โดยจะมีการแบ่งช่วงราคาออกเป็นพื้นที่ต่างๆ ที่เรียกว่า "Value Area" ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ราคาถูกซื้อขายมากที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ และ "Rejected Areas" ซึ่งคือพื้นที่ที่มีการซื้อขายน้อยและแสดงถึงราคาไม่สมดุลที่ถูกทดสอบแต่ไม่สามารถยืนยันได้
2. โครงสร้างการจัดระเบียบตลาด
ตลาดถูกจัดระเบียบโดยใช้แนวคิดที่เรียกว่า "Auction Framework" ซึ่งหมายถึงกรอบที่ตลาดจะเคลื่อนไหวไปข้างหน้าและย้อนกลับตามความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อราคาเคลื่อนไหวขึ้นมันจะดึงดูดการซื้อเพิ่มขึ้น และเมื่อราคาเคลื่อนไหวลงมันจะดึงดูดการขายเพิ่มขึ้น กระบวนการนี้จะช่วยสร้างกรอบราคาและพื้นที่ที่การซื้อขายเกิดขึ้นซ้ำๆ และส่งผลให้เกิดการต่อรองราคาในตลาด
ตลาดจะเคลื่อนไหวในลักษณะของการ "ประมูล" (Auction) โดยราคาเคลื่อนที่ขึ้นไปจนกว่าจะไม่มีผู้ซื้ออีกต่อไป จากนั้นราคาจะย้อนกลับลงไปจนไม่มีผู้ขายอีกต่อไป กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ และทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้สามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้ดียิ่งขึ้น การวิเคราะห์ในส่วนนี้ทำให้เราเห็นถึงพฤติกรรมของตลาดในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งสามารถช่วยในการตัดสินใจในระยะยาวได้อย่างแม่นยำ
3. การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เทรดระยะสั้นและระยะยาว
การแบ่งผู้เทรดออกเป็นสองกลุ่มหลัก ๆ คือ ผู้เทรดระยะสั้น (Day Time Frame Traders) และผู้เทรดระยะยาว (Other Time Frame Traders) เป็นสิ่งที่สำคัญในการเข้าใจถึงพฤติกรรมของตลาด โดยผู้เทรดระยะสั้นมักจะมองหาราคา "ที่ยุติธรรม" (Fair Price) ที่สามารถทำการซื้อขายได้ภายในวันเดียว ในขณะที่ผู้เทรดระยะยาวจะมองหามูลค่าที่ "ได้เปรียบ" (Advantageous Price) ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องทำการซื้อขายในวันนี้ แต่จะรอราคาในช่วงที่ได้เปรียบในระยะยาว
พฤติกรรมของผู้เทรดทั้งสองกลุ่มมีผลต่อการพัฒนาของตลาด โดยที่เมื่อผู้เทรดระยะยาวเข้ามามีบทบาทในการขยายช่วงราคา (Range Extension) มักจะทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเป็นระยะยาว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแนวโน้ม (Trend) หรือการเคลื่อนไหวที่ไม่สมดุลในตลาด ในขณะที่ผู้เทรดระยะสั้นจะมีบทบาทในการกำหนดกรอบของช่วงราคา (Initial Balance) และทำให้ตลาดเคลื่อนไหวในลักษณะการหมุนเวียน (Rotation) ระหว่างราคาที่มีการซื้อขายมากที่สุด
4. การพัฒนาและขยายช่วงราคาของตลาด
เมื่อพูดถึงการพัฒนาและขยายช่วงราคาในตลาด การขยายช่วงราคา (Range Extension) จะเกิดขึ้นเมื่อผู้เทรดระยะยาวเข้ามามีบทบาทในการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่ต้องการ หากผู้เทรดระยะยาวมีบทบาทมากขึ้น ก็จะส่งผลให้ราคามีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียวจนทำให้เกิดแนวโน้มที่มีการขยายช่วงราคา การขยายช่วงราคานี้ทำให้ผู้เทรดสามารถเห็นถึงความสมดุลและความไม่สมดุลของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หากไม่มีการขยายช่วงราคาหรือมีการขยายช่วงราคาน้อย การเคลื่อนไหวของตลาดจะเป็นการหมุนเวียนรอบ ๆ "Value Area" ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตลาดมีการซื้อขายมากที่สุด การหมุนเวียนนี้หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาภายในกรอบที่ตลาดได้กำหนดไว้ในช่วงเวลาแรก ๆ โดยไม่เกิดการขยายช่วงราคามากนัก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาด
5. การวิเคราะห์กิจกรรมในแต่ละช่วงเวลา
ในการวิเคราะห์กิจกรรมของตลาดในแต่ละช่วงเวลา ผู้เทรดจะสามารถระบุได้ว่าในช่วงเวลานั้นตลาดกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางใดและมีการขยายช่วงราคา (Range Extension) หรือไม่ การแบ่งกิจกรรมออกเป็นสามประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- Extremes: พื้นที่ที่ราคามีการเคลื่อนไหวสูงสุดและต่ำสุดในตลาด ซึ่งเกิดจากการแข่งขันระหว่างผู้เทรดระยะยาวและระยะสั้น
- Range Extension: การขยายช่วงราคาที่เกิดขึ้นเมื่อผู้เทรดระยะยาวเข้ามามีบทบาทในการเคลื่อนไหวของราคา
- Value Area: พื้นที่ที่ตลาดมีการซื้อขายมากที่สุด ซึ่งช่วยให้เห็นถึงมูลค่าที่ตลาดยอมรับ
การวิเคราะห์ในแต่ละส่วนนี้ช่วยให้ผู้เทรดสามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมของตลาดและผู้เทรดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจในการเทรดมีความแม่นยำมากขึ้น
6. การใช้ข้อมูลจาก Liquidity Data Bank® เพื่อการประเมินตลาด
การใช้ข้อมูลจาก Liquidity Data Bank® ช่วยให้ผู้เทรดสามารถประเมินความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของตลาดได้ โดยการใช้ข้อมูลการซื้อขาย (Volume) และการเคลื่อนไหวของตลาดที่สามารถบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือกิจกรรมในตลาด ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้เทรดสามารถระบุได้ว่าในขณะนั้นตลาดมีความแข็งแกร่งหรือไม่ และช่วยให้สามารถวางกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมได้
สรุป
การศึกษากราฟ Market Profile® เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์พฤติกรรมของตลาด การเข้าใจถึงโครงสร้างของตลาด การพัฒนาและขยายช่วงราคา รวมถึงการประเมินกิจกรรมในแต่ละช่วงเวลา จะช่วยให้ผู้เทรดสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นและสามารถพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาด การใช้กราฟ Market Profile® ในการวิเคราะห์ตลาดไม่เพียงแต่ช่วยในการทำความเข้าใจตลาดในระยะสั้น แต่ยังช่วยให้ผู้เทรดสามารถรับมือกับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถ Download เอกสารที่เกี่ยวข้องได้ที่ :
ทิ้งคำตอบไว้
- 44 ฟอรัม
- 1,438 หัวข้อ
- 4,074 กระทู้
- 15 ออนไลน์
- 1,467 สมาชิก