ถ้าเทรดแล้วรู้สึกว่า ราคาไม่ไปไหน แต่เราเผลอเข้า Buy/Sell แล้วโดนกิน SL ซ้ำๆ อาจถึงเวลาที่ต้องลองเปลี่ยนมุมมอง เพราะจริงๆ แล้ว การไม่ไปไหนของราคา นี่แหละ คือโอกาสสำหรับเทรดเดอร์สาย Range Trading

Range Trading คืออะไร?

Range Trading หรือการเทรดใน “กรอบราคา” เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเข้าเทรดเมื่อราคา “แกว่งตัวไปมา” ระหว่างแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) โดยไม่สามารถเบรคออกไปทางใดทางหนึ่ง

เหมาะกับช่วงตลาด Sideway เช่น ช่วงเช้า (ก่อนตลาดยุโรปเปิด) ช่วงตลาดไม่มีข่าวสำคัญ คู่เงินที่มี Volume ต่ำ

Range Trading System โครงสร้างของระบบ

กลยุทธ์นี้ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน

1. วาดกรอบราคา (Range Zone)

• ใช้ High/Low ล่าสุดในกรอบเวลา H1 หรือ H4

• วาดเส้นแนวรับและแนวต้านให้ชัดเจน

• ยิ่งกรอบชัดเจน โอกาสเทรดสำเร็จยิ่งสูง

2. หาจังหวะเข้าเทรด

เมื่อราคา “แตะกรอบ”

• แตะแนวต้าน หาโอกาส Sell

• แตะแนวรับ หาโอกาส Buy

ต้องมีสัญญาณยืนยัน เช่น

• Pin Bar

• Engulfing

• RSI Overbought/Oversold

3. วาง SL และ TP อย่างมีระบบ

• SL: วางเหนือแนวต้าน หรือใต้แนวรับเล็กน้อย (กันหลอกเบรค)

• TP: ตั้งที่อีกฝั่งของกรอบ หรือใช้ Risk:Reward อย่างน้อย 1:2

จุดแข็งของกลยุทธ์นี้

• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

• เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่

• ไม่ต้องลุ้นเบรคเอาท์ เพราะเราเทรด “ในกรอบ”

• สามารถเทรดได้หลายรอบในวันเดียว (Scalp หรือ Swing ก็ได้)

ข้อควรระวัง

• อย่าเทรดสวนเทรนด์หลัก ถ้าราคาเริ่มมีแนวโน้ม

• ระวังการหลอกเบรค (False Breakout)

• อย่ารีบเข้าออเดอร์ ถ้ายังไม่มีแท่งเทียนยืนยัน

เทคนิคเสริม

• ใช้ Indicator อย่าง Bollinger Bands หรือ RSI ช่วยกรองจังหวะ

• ควรดูหลาย Timeframe ประกอบ เช่น H1 + M15

• หมั่นบันทึกผลการเทรด เพื่อวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์

หากคุณเบื่อการไล่เทรนด์ เบื่อโดนหลอกเบรค หรือเทรดช่วงตลาดนิ่งๆ แล้วมองไม่ออกจะเข้ายังไง Range Trading System คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม! เพียงคุณมองเห็น กรอบ และมีวินัยในการเทรด กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณทำกำไรในตลาดที่หลายคนมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง

อยากดูภาพประกอบ พร้อมกราฟจริงจากตัวอย่างการใช้งาน?
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่นี่เลย
👉 Range Trading System – กลยุทธ์เทรดในกรอบราคาแบบง่ายๆ