นหนังสือ "12 Simple Technical Indicators that Really Work" มาร์ค ลาร์สัน ได้ยกให้อินดิเคเตอร์ Price Rate of Change (PRC) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูงถึง 90% เมื่อใช้งานอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ MACD เขาย้ำว่าความสำเร็จของ PRC ไม่ได้อยู่ที่ความซับซ้อน แต่อยู่ที่ "สูตรลับ" ในการตั้งค่าและวินัยในการรอสัญญาณที่ถูกต้อง

บทความนี้จะเจาะลึกถึงแก่นของ PRC ตามแนวทางของมาร์ค ลาร์สัน และที่สำคัญที่สุดคือการแนะนำวิธีประยุกต์ใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วใน MT4 และ MT5 เพื่อสร้างกลยุทธ์แบบเดียวกับ PRC ขึ้นมาใช้งาน

Part 1: หัวใจของ PRC - "สูตรลับ" จากมาร์ค ลาร์สัน

ผู้เขียนระบุว่าการจะดึงประสิทธิภาพของ PRC ออกมาได้นั้น ต้องปฏิบัติตามกฎ 2 ข้ออย่างเคร่งครัด:

1. พารามิเตอร์ 21 วัน: ส่วนผสมลับที่ต้องใช้ ลาร์สันชี้ชัดว่าพารามิเตอร์ที่เขาพบว่าทำงานได้ดีที่สุดคือ 21 วัน ซึ่งอินดิเคเตอร์นี้จะคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาโดยเทียบราคาปิดปัจจุบันกับราคาปิดเมื่อ 21 วันที่แล้ว

2. สัญญาณยืนยัน "คู่" (The Dual Confirmation) นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดของกลยุทธ์ สัญญาณซื้อขายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ทั้งเส้นราคา (Price) และเส้น PRC ตัดผ่านระดับ 50% ในทิศทางเดียวกัน

• สัญญาณซื้อ (Bullish Signal): เกิดขึ้นเมื่อ ราคา ปรับตัวขึ้น และในขณะเดียวกัน เส้น PRC ก็ต้องตัดขึ้น "เหนือ" ระดับ 50% ด้วย
• สัญญาณขาย (Bearish Signal): เกิดขึ้นเมื่อ ราคา ปรับตัวลง และในขณะเดียวกัน เส้น PRC ก็ต้องตัดลง "ต่ำกว่า" ระดับ 50% ด้วย
   

เทคนิคเสริม: เพื่อให้ได้สัญญาณเตือนที่เร็วยิ่งขึ้น ลาร์สันแนะนำให้เพิ่ม PRC อีกหนึ่งเส้นโดยใช้ พารามิเตอร์ 15 วัน เข้ามาในกราฟด้วย เนื่องจากเส้นที่สั้นกว่าจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าและให้สัญญาณล่วงหน้าได้

Part 2: วิธีประยุกต์ใช้ PRC ใน MT4 และ MT5 (เมื่อหาไม่เจอ)

เป็นเรื่องจริงที่คุณหาอินดิเคเตอร์ที่ชื่อ "Price Rate of Change" หรือ "PRC" แบบตรงๆ ในโปรแกรม MT4 และ MT5 ไม่เจอ เพราะมันไม่ใช่อินดิเคเตอร์มาตรฐาน แต่ไม่ต้องกังวลครับ แนวคิดและหลักการคำนวณของ PRC นั้น เหมือนกันกับอินดิเคเตอร์มาตรฐานที่มีอยู่แล้วใน MT4/MT5 ที่ชื่อว่า "Momentum"

เราสามารถใช้อินดิเคเตอร์ Momentum เพื่อสร้างกลยุทธ์แบบเดียวกับ PRC ของมาร์ค ลาร์สัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนการตั้งค่าและประยุกต์ใช้ Momentum แทน PRC:

1. การเรียกใช้งานอินดิเคเตอร์

• ในโปรแกรม MT4 หรือ MT5 ไปที่หน้าต่าง Navigator
• มองหาหมวด Indicators > Oscillators
• ลากอินดิเคเตอร์ที่ชื่อว่า "Momentum" เข้ามาใส่ในกราฟ

2. การตั้งค่าพารามิเตอร์ (Parameters)

• เมื่อหน้าต่างตั้งค่าปรากฏขึ้น ในแท็บ Parameters
• ตั้งค่า Period เป็น 21 (นี่คือพารามิเตอร์หลักตามสูตรของลาร์สัน)
   
   
• (ทางเลือก) หากต้องการสัญญาณเตือนล่วงหน้า ให้ลาก Momentum เข้ามาอีกครั้งและตั้งค่า Period เป็น 15
   

3. การตั้งค่าระดับอ้างอิง (Levels) - (สำคัญมาก!)

• ในหน้าต่างตั้งค่าเดิม ให้ไปที่แท็บ Levels
• อินดิเคเตอร์ Momentum ของ MT4/MT5 จะมีเส้นกึ่งกลางอยู่ที่ระดับ 100 (ไม่ใช่ 50 เหมือนในหนังสือ)
• ให้กดปุ่ม Add แล้วพิมพ์เลข 100 เข้าไป นี่จะเป็นเส้นกึ่งกลาง (Center Line) ของเราเพื่อใช้เทียบกับระดับ 50% ที่ลาร์สันกล่าวถึง

4. การตีความสัญญาณ (Interpreting the Signal) เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว ให้ใช้กฎของลาร์สัน แต่เปลี่ยนระดับอ้างอิงจาก 50 เป็น 100

• สัญญาณซื้อ (Bullish): รอจนกระทั่ง ราคา ปรับตัวสูงขึ้น และเส้น Momentum (21) ตัดขึ้น "เหนือ" ระดับ 100
• สัญญาณขาย (Bearish): รอจนกระทั่ง ราคา ปรับตัวลดลง และเส้น Momentum (21) ตัดลง "ต่ำกว่า" ระดับ 100
• ใช้เส้น Momentum (15) เป็นตัวช่วยมองหาทิศทางล่วงหน้า

บทสรุป

แม้ว่าเราจะหาอินดิเคเตอร์ที่ชื่อ PRC โดยตรงใน MT4 และ MT5 ไม่ได้ แต่เราสามารถใช้อินดิเคเตอร์ Momentum ที่มีอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้แทนได้อย่างสมบูรณ์แบบ หัวใจสำคัญยังคงเหมือนเดิมคือ การใช้พารามิเตอร์ 21 วัน และการรอสัญญาณยืนยัน "คู่" ที่ทั้งราคาและอินดิเคเตอร์ต้องเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเทียบกับเส้นกึ่งกลาง (ระดับ 100) วินัยและความอดทนในการรอสัญญาณที่สมบูรณ์แบบคือสิ่งที่มาร์ค ลาร์สันย้ำว่า เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของกลยุทธ์นี้