coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

คู่มือ Swing Trading ฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่: เทรดสบายๆ ไม่ต้องเฝ้าจอ

2 กระทู้
2 ผู้ใช้
2 Reactions
127 เข้าชม
James Albert
(@james-albert)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
โพสกะทู้ครบ 1000
ผู้มีส่วนร่วมสูงสุด
Rank E
เข้าร่วม: 1 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 504
หัวข้อเริ่มต้น  

สำหรับผู้ที่สนใจในการเทรดแต่มีเวลาจำกัดหรืองานประจำที่ต้องรับผิดชอบ การเทรดแบบ Swing Trading อาจเป็นคำตอบที่ลงตัวที่สุด บทความนี้จะสรุปเนื้อหาและกลยุทธ์การเทรดแบบ Swing อย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการสร้างผลกำไรจากตลาดหุ้นโดยไม่ต้องเครียดกับการเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวัน

 

ทำไมต้อง Swing Trading?

 

Swing Trading คือกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการถือครองสถานะ (Position) เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 2-3 วันไปจนถึงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน เพื่อทำกำไรจาก "วงสวิง" หรือการแกว่งตัวของราคาหุ้น ซึ่งมีข้อดีที่น่าสนใจหลายประการเมื่อเทียบกับการเทรดรายวัน (Day Trading)

ข้อดี:

  • ใช้เวลาน้อยลง: ไม่จำเป็นต้องตัดสินใจซื้อขายอย่างรวดเร็วและเฝ้ากราฟตลอดเวลา เหมาะสำหรับคนทำงานประจำ

  • ความเครียดต่ำกว่า: สภาพแวดล้อมการเทรดไม่กดดันเท่า Day Trading ทำให้มีเวลาไตร่ตรองและตัดสินใจมากขึ้น

  • เงินทุนเริ่มต้นน้อยกว่า: ไม่ติดกฎ Pattern Day Trader (PDT) ทำให้เริ่มต้นได้ด้วยเงินทุนที่ไม่สูงมาก

  • ความเสี่ยงจำกัด: โอกาสที่จะขาดทุนอย่างหนักภายในวันเดียวนั้นน้อยกว่ามาก

ข้อเสีย:

  • พอร์ตเติบโตช้ากว่า: โดยธรรมชาติแล้ว ผลตอบแทนอาจไม่รวดเร็วเท่าการเทรดรายวันที่ทำกำไรได้หลายรอบในวันเดียว

  • จังหวะการเทรดช้า: ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของราคาที่ช้าลง โดยอาศัยการวิเคราะห์จากกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์เป็นหลัก

 

แก่นหลักของการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับ Swing Trading

 

ความสำเร็จใน Swing Trading ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แม่นยำ โดยมีเครื่องมือและแนวคิดสำคัญดังนี้

1. กรอบเวลา (Timeframe) ที่เหมาะสม นักเทรดแบบ Swing จะใช้ กราฟรายวัน (Daily Chart) เป็นหลักในการวิเคราะห์ภาพรวมและหาจังหวะเข้าเทรด อาจใช้กราฟรายสัปดาห์ (Weekly Chart) เพื่อดูแนวโน้มระยะยาว และใช้กราฟราย 15 นาที หรือ 5 นาที เพื่อหาจุดเข้าซื้อขายที่แม่นยำยิ่งขึ้นเท่านั้น

2. แนวคิดอุปสงค์และอุปทาน (Supply & Demand)

  • แนวรับ (Support / Demand Zone): คือโซนราคาที่เคยมีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมาก ทำให้ราคาหุ้นดีดตัวกลับขึ้นไป เป็นจุดที่น่าสนใจในการพิจารณา "เข้าซื้อ"

  • แนวต้าน (Resistance / Supply Zone): คือโซนราคาที่เคยมีแรงขายออกมาอย่างหนัก ทำให้ราคาไม่สามารถผ่านไปได้ เป็นจุดที่น่าสนใจในการพิจารณา "ขายทำกำไร"

3. อินดิเคเตอร์ (Indicators) ที่จำเป็น กลยุทธ์สำหรับผู้เริ่มต้นไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เพียงใช้อินดิเคเตอร์พื้นฐาน 3 ตัวนี้ก็เพียงพอ

  • 8 EMA (Exponential Moving Average): เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ให้ความสำคัญกับราคาล่าสุด ใช้เป็นตัวชี้วัดโมเมนตัมระยะสั้น หากราคายืนเหนือเส้น 8 EMA ได้อย่างต่อเนื่อง แสดงว่าหุ้นมีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

  • 200 SMA (Simple Moving Average): เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายในระยะยาว ใช้กำหนดทิศทางหลักของหุ้น หุ้นที่น่าสนใจสำหรับ Swing Trading ควรมีราคาเคลื่อนไหวอยู่ "เหนือ" เส้น 200 SMA ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว

  • Volume (ปริมาณการซื้อขาย): ใช้ยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม การทะลุแนวต้านที่มาพร้อมกับวอลุ่มที่สูงกว่าปกติ จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของการทะลุนั้นๆ

 

รู้จักรูปแบบกราฟ (Chart Patterns) ทำกำไร

 

  • รูปแบบการทะลุ (Breakout Pattern): เกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุผ่านแนวต้านสำคัญขึ้นไปได้ โดยเฉพาะแนวต้านที่เคยทดสอบมาแล้ว 2-3 ครั้ง การทะลุแนวต้านที่แข็งแกร่งมักนำไปสู่การปรับตัวขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่อง

  • รูปแบบการหลุด (Breakdown Pattern): ตรงกันข้ามกับ Breakout คือการที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญลงมา เป็นสัญญาณขายหรือโอกาสในการทำกำไรฝั่งขาย (Short)

  • รูปแบบการพักตัว/สะสมกำลัง (Consolidation Pattern): คือช่วงที่หุ้นเคลื่อนไหวในกรอบราคาแคบๆ การพักตัวนี้มักจะนำไปสู่การระเบิดของราคา ไม่ว่าจะทะลุขึ้น (Breakout) หรือหลุดลง (Breakdown) อย่างรุนแรง


 

กลยุทธ์ Swing Trading 3 ขั้นตอน (Technical Breakout Strategy)

 

นี่คือกลยุทธ์ที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้เริ่มต้น

ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาหุ้นที่น่าสนใจ (Stock Scanning) ใช้เครื่องมือสแกนหุ้น (Stock Scanner) ในช่วงบ่าย (หลัง 12:00 น. เวลาตะวันออก) โดยตั้งเงื่อนไขดังนี้:

  • มูลค่าตลาด (Market Cap): มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ (หุ้นขนาดใหญ่)

  • ราคาหุ้น: มากกว่า 1 ดอลลาร์

  • ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย: มากกว่า 500,000 หุ้นต่อวัน

  • การเปลี่ยนแปลงราคาในวันนั้น: ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 3% เพื่อหาหุ้นที่มีโมเมนตัม

ขั้นตอนที่ 2: วิเคราะห์ทางเทคนิคและหารูปแบบ นำหุ้นที่ได้จากการสแกนมาวิเคราะห์ต่อบนกราฟรายวัน:

  1. ตรวจสอบเส้น 200 SMA: ราคาหุ้นต้องอยู่ "เหนือ" เส้น 200 SMA

  2. ตรวจสอบเส้น 8 EMA: หุ้นควรมีแนวโน้มเคลื่อนไหวเกาะไปตามเส้น 8 EMA หรือหากมีการหลุดลงมา ก็ควรมีประวัติที่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้น 8 EMA ได้อย่างรวดเร็ว

  3. มองหา Pattern: มองหารูปแบบ Breakout หรือ Consolidation ที่กำลังจะเกิดขึ้น

หากหุ้นยังไม่เข้าเงื่อนไขในวันนั้น ให้เก็บไว้ใน รายการเฝ้าดู (Watchlist) เพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมในวันถัดไป

ขั้นตอนที่ 3: การเข้า-ออก (Execution)

  • จุดเข้า (Entry): จุดเข้าที่ดีที่สุดคือ "ใกล้เส้น 8 EMA ให้มากที่สุด" หลังจากที่หุ้นยืนยันการทะลุแนวต้านแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าที่จุดต่ำสุดเป๊ะๆ แต่ให้แน่ใจว่าได้เข้าในจังหวะที่แนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่ง

  • จุดออก (Exit) / ทำกำไร:

    • ขายบางส่วน: เมื่อราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง อาจพิจารณาขายทำกำไรออกไปก่อน 1/4 หรือ 1/3 ของสถานะ

    • ปล่อยกำไรวิ่งต่อ (Let Profit Run): สำหรับส่วนที่เหลือ ให้ถือต่อไปตราบใดที่ราคายังคงยืนอยู่เหนือเส้น 8 EMA

  • จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): จุดตัดขาดทุนที่ชัดเจนที่สุดคือ "เมื่อราคาปิดต่ำกว่าเส้น 8 EMA" หากเกิดสัญญาณนี้ ให้ขายออกทันทีเพื่อจำกัดการขาดทุน

 

เครื่องมือและโบรกเกอร์ที่แนะนำ

 

  • โบรกเกอร์: แนะนำให้แยกบัญชี Swing Trading ออกจากบัญชีอื่น โบรกเกอร์ที่น่าสนใจได้แก่ Centerpoint Securities, Interactive Brokers หรือ Weeble ซึ่งมีแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย

  • โปรแกรมดูกราฟ: TradingView เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงและมีฟังก์ชันครบครันสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค

โดยสรุป การเทรดแบบ Swing Trading เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้จากตลาดหุ้นโดยใช้เวลาและความเครียดน้อยลง ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพดังที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเน้นการวิเคราะห์แนวโน้มหลักผ่านเส้นค่าเฉลี่ยและมองหารูปแบบการทะลุที่แข็งแกร่ง คุณก็สามารถเริ่มต้นเส้นทางนักเทรดแบบ Swing ได้อย่างมั่นใจ



   
อ้างอิง
FDaziima
(@fda0056fda)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
Rank G
เข้าร่วม: 3 เดือน ที่ผ่านมา
กระทู้: 85
 

เหมากับแม่ลูกอ่อนแบบเรามากๆ



   
ตอบอ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: