บทนำ

ตลาดรถยนต์ทั่วโลกในปี 2025 มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ SUV และ Crossover ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน เช่น BYD และ NIO กำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญในระดับสากล

บทความนี้จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกปี 2025 พร้อมการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและปัจจัยที่ทำให้รถยนต์บางรุ่นครองใจผู้บริโภค

---

10 อันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกปี 2025

1. Tesla Model Y - ยอดขาย 1.05 ล้านคัน (-3.7%)

2. Toyota Corolla - ยอดขาย 1.03 ล้านคัน (-4.6%)

3. Toyota RAV4 - ยอดขาย 995,000 คัน (-2.4%)

4. BYD Song - ยอดขาย 890,000 คัน (+55%)

5. Ford F-Series - ยอดขาย 875,000 คัน (-3.1%)

6. Honda CR-V - ยอดขาย 730,000 คัน (-1.2%)

7. Chevrolet Silverado - ยอดขาย 610,000 คัน (-4.7%)

8. Hyundai Tucson - ยอดขาย 595,000 คัน (-2.3%)

9. Volkswagen Tiguan - ยอดขาย 560,000 คัน (+3.1%)

10. Toyota Camry - ยอดขาย 545,000 คัน (-6.1%)

---

วิเคราะห์แนวโน้มตลาดรถยนต์โลกปี 2025

1. Tesla Model Y ยังคงครองแชมป์ แม้ยอดขายลดลง

Tesla Model Y ยังคงเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกเป็นปีที่สามติดต่อกัน แม้ว่ายอดขายจะลดลงเล็กน้อย (-3.7%) แต่ก็ยังครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงได้อย่างเหนียวแน่น

ปัจจัยที่ทำให้ Model Y ประสบความสำเร็จ ได้แก่

การผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดต้นทุนการผลิต

การขยายโรงงานผลิตไปยังตลาดใหม่ เช่น อินเดียและอเมริกาใต้

ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง

นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าจากรัฐบาลทั่วโลก

Tesla Model Y เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

2. Toyota Corolla และ Toyota RAV4 ยังเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง

Toyota ยังคงเป็นแบรนด์ที่มีอิทธิพลสูงสุดในตลาดโลก โดย Corolla และ RAV4 ยังคงติดอันดับสูงสุด

Toyota Corolla (1.03 ล้านคัน, -4.6%) แม้ว่ายอดขายจะลดลง แต่ยังคงเป็นรถซีดานยอดนิยมในหลายประเทศ

Toyota RAV4 (995,000 คัน, -2.4%) ยังคงได้รับความนิยมในตลาด SUV

แม้ว่ายอดขายของ Toyota จะลดลงเล็กน้อย แต่ความน่าเชื่อถือและต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ ยังคงทำให้รถยนต์ของพวกเขาเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้บริโภค

3. BYD Song: รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมาแรง

ปี 2025 เป็นปีที่ BYD Song สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยยอดขาย 890,000 คัน เพิ่มขึ้น 55% จากปีที่แล้ว!

BYD กำลังกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโลก ด้วยปัจจัยสนับสนุน ได้แก่

การผลิตที่มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง

เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทันสมัย

การขยายตลาดไปยังยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

BYD Song กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tesla Model Y ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

4. รถกระบะในอเมริกายังคงแข็งแกร่ง

แม้ว่าตลาดรถยนต์จะเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า แต่รถกระบะยังคงมีที่ยืนในตลาด โดย Ford F-Series (875,000 คัน) และ Chevrolet Silverado (610,000 คัน) ยังคงติดอันดับ

แม้ว่ายอดขายจะลดลงเล็กน้อย แต่รถกระบะยังคงเป็นรถยอดนิยมของสหรัฐฯ เนื่องจากความทนทานและการใช้งานที่หลากหลาย

5. SUV และ Crossover ยังคงครองตลาด

จาก 10 อันดับ มี 5 รุ่น ที่เป็น SUV และ Crossover ได้แก่

Toyota RAV4

Honda CR-V

Hyundai Tucson

Volkswagen Tiguan

BYD Song

SUV และ Crossover ยังคงได้รับความนิยม เพราะให้พื้นที่กว้างขวาง ขับขี่สบาย และเหมาะกับครอบครัว

6. Toyota Camry ยอดขายลดลงต่อเนื่อง

Toyota Camry (545,000 คัน, -6.1%) ยอดขายลดลงต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนจาก รถซีดานไปสู่ SUV มากขึ้น

---

แนวโน้มของตลาดรถยนต์ในปี 2026

1. รถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาดมากขึ้น

ยอดขายของ Tesla Model Y และ BYD Song แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นกระแสหลัก คาดว่าในปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50%

2. ผู้ผลิตจีนจะขยายตลาดมากขึ้น

BYD, NIO, XPeng กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตที่มีอิทธิพล โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาใต้

3. SUV และ Crossover จะยังคงเป็นรถยอดนิยม

ตลาดรถยนต์กำลังเปลี่ยนจาก ซีดานไปสู่ SUV และ Crossover มากขึ้น เนื่องจากความต้องการรถที่อเนกประสงค์และสะดวกสบาย

4. นวัตกรรมเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญ

รถยนต์ไร้คนขับ จะได้รับความสนใจมากขึ้น

แบตเตอรี่โซลิดสเตต จะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ไกลขึ้น

พลังงานไฮโดรเจน อาจเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด

---

สรุป

ปี 2025 เป็นปีที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างชัดเจน Tesla Model Y ยังคงครองอันดับหนึ่ง ขณะที่ BYD Song ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง

Toyota และ Ford ยังคงเป็นผู้เล่นหลัก แต่ยอดขายรถซีดานเช่น Camry และ Corolla กำลังลดลง

แนวโน้มในอนาคตชี้ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้า SUV และเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงตลาดรถยนต์โลกต่อไปในปี 2026 และปีถัด ๆ ไป!