✅ ปัจจัยที่หนุนให้ทองคำอาจทำ “นิวไฮ” ใหม่

• ราคาทองโลกในปี 2025 ขึ้นมาแรงแล้ว — มีความต้องการลงทุนจากธนาคารกลาง และนักลงทุนส่วนตัวทั่วโลก รวมถึงแรงหนุนจากความกังวลเศรษฐกิจ-ภูมิรัฐศาสตร์  
• ล่าสุด Deutsche Bank ปรับคาดการณ์ราคาทองโลกปี 2026 ขึ้นเป็น ~ USD 4,450/ออนซ์ และมองว่ายังมีโอกาสไปถึง ~ USD 4,950/ออนซ์ ในช่วงปี 2026-2027  
• ปัจจัยทางเศรษฐกิจ — เช่น ดอกเบี้ยของ Federal Reserve (Fed) ถ้ามีโอกาส “ลดดอกเบี้ย” จะทำให้ต้นทุนโอกาสของการถือทอง (ซึ่งไม่ให้ดอกเบี้ย) ลดลง — ส่งเสริมให้คนมองทองเป็นสินทรัพย์หลบความเสี่ยงมากขึ้น  
• แนวโน้ม “demand” จากธนาคารกลางและนักลงทุนสถาบัน — การสะสมทองโดยธนาคารกลาง (เพื่อสำรองระหว่างประเทศ) เป็นแรงดึงราคาทองให้ยืนได้ค่อนข้างแข็ง โดยไม่ขึ้นอยู่กับอารมณ์เก็งกำไรเพียงอย่างเดียว  

⚠️ ปัจจัยที่อาจกดดันทอง — ทำให้ยากต่อการไป “นิวไฮ”

• ถ้าดอลลาร์แข็งค่า หรือ Fed ตัดสินใจ ไม่ ลดดอกเบี้ยทัน — จะกดดันราคาทอง เพราะทองคำมักเคลื่อนไหวสวนกับดอลลาร์ และดอกเบี้ยสูงทำให้การถือทอง (ซึ่งไม่ให้ดอกเบี้ย) “เสียโอกาส” เปรียบกับพันธบัตรหรือฝากเงิน  
• ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐหรือโลกฟื้นตัวดีมาก ๆ — นักลงทุนอาจหันไปถือสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น, อสังหา, ฯลฯ) แทนทองคำ — ทำให้แรงซื้อทองลดลง
• ราคาที่อาจ “ขึ้นแรงเกินไป” แล้วเกิด “ฟองสบู่” — ถ้าความคาดหวังกับทองสูงจนเกินจริง (โดยเฉพาะในช่วงเก็งกำไร) อาจมี “correction” (ปรับลด) ได้เมื่อไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ  

🎯 สรุป — โอกาสนิวไฮ “มีสูง แต่ต้องติดตาม”

โดยรวม — ถ้าปัจจัยบวก (ดอกเบี้ย, ดอลลาร์, เศรษฐกิจโลก, ความไม่แน่นอน) ยังอยู่ — ทองคำมีโอกาสแตะ “นิวไฮ” ได้อีกครั้งภายใน 12–24 เดือนข้างหน้า (ตามกลุ่มคาดการณ์ที่ bullish) เช่น ราคาทองโลกขยับไป ~ US $4,500–4,950/ออนซ์.

แต่ถ้าปัจจัยกลับเปลี่ยน (ดอกเบี้ยไม่ลด ดอลลาร์แข็ง ค่าเงินไทย/เงินบาทเปลี่ยน ฯลฯ) — ราคาทองอาจ “พักฐาน” หรือลงได้เช่นกัน.