ราคาทองคำได้ ฟื้นตัว ขึ้นมาอีกครั้ง โดยกลับมายืนเหนือระดับ 3,670 ได้สำเร็จ แม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม การฟื้นตัวนี้เกิดขึ้นหลังจากราคาทองคำร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดของสัปดาห์ที่ประมาณ 3,630 ซึ่งมีนักซื้อเมื่อราคาตก เข้ามาซื้อดันราคาขึ้นไป

• ปัจจัยบวกสำหรับทองคำ

  • การลดดอกเบี้ยของ Fed ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และส่งสัญญาณว่าจะลดอีก 2 ครั้งในช่วงปลายปี ทำให้บรรยากาศโดยรวมเอื้อต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำมักจะทำผลงานได้ดีในสภาวะดอกเบี้ยต่ำ

  • ความต้องการจากเอเชีย การส่งออกทองคำของสวิตเซอร์แลนด์ไปยังจีนและอินเดียพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญให้กับราคาทองคำ

  • คำพูดของเจ้าหน้าที่ Fed แม้จะมีท่าทีที่ดูเป็นกลาง (hawkish) แต่บางคนก็สนับสนุนการลดดอกเบี้ย ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตลาด

• ปัจจัยลบสำหรับทองคำ

  • เงินดอลลาร์แข็งค่า ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ปรับตัวขึ้น ซึ่งโดยปกติจะกดดันราคาทองคำ

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้การถือครองทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ยดูน่าสนใจน้อยลง

แนวรับ - แนวต้านทองคำ

แนวต้าน 

• • 3,703 

  • 3,750

  • 3,800

  • 3,850

  • 3,900

แนวรับ 

• • 3,650

  • 3,630

  • 3,613 

  • 3,600

  • 3,580

คำเตือนสำหรับนักลงทุน

โปรดทราบว่าตลาดทองคำนั้นมีความผันผวนสูงมาก แม้ว่าราคาทองคำจะแสดงสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มที่ดีในระยะสั้นจากปัจจัยหนุนต่างๆ แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง เช่น ความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงได้อีกครั้ง หากราคาหลุดแนวรับสำคัญอย่าง 3,650 ลงไป อาจจะกลับสู่แนวโน้มขาลงได้ และสำหรับนักลงทุนมือใหม่ โปรดอย่าหลงระเริงกับข่าวเชิงบวกเพียงอย่างเดียว และควรพิจารณาปัจจัยทั้งหมดอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ