ราคาทองคำยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องและจ่อแตะระดับ $4,000 ต่อออนซ์ แม้ว่าบางคนจะมองว่าการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ (ปิดหน่วยงานบางส่วน) เป็นสาเหตุ แต่ Thu Lan Nguyen หัวหน้าฝ่ายวิจัย FX และสินค้าโภคภัณฑ์ของ Commerzbank มองว่า ไม่น่าใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ทองแข็งแกร่งขนาดนี้

สาเหตุหลักที่ทองคำโดดเด่นน่าจะมาจาก ความเสี่ยงทางการเมืองและการคลัง ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ตัวอย่างเช่น การลาออกของนายกรัฐมนตรีในฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ทำให้ความเสี่ยงของพันธบัตรรัฐบาล (ซึ่งปกติถือเป็น Safe Haven) ของประเทศเหล่านี้สูงขึ้น แถมสหรัฐฯ และอังกฤษก็มีปัญหาความเสี่ยงทางการคลังเช่นกัน

สรุปง่ายๆ คือ สินทรัพย์ปลอดภัย ทั่วไป (เช่น พันธบัตรรัฐบาล) ดูไม่น่าสนใจเหมือนเดิมแล้ว ทำให้ทองคำกลายเป็นทางเลือกที่เหลืออยู่และมีความต้องการสูงขึ้นมาก

นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องการให้ฟรังก์สวิส (CHF) แข็งค่าเร็วเกินไป ก็ทำให้ทองคำยิ่งได้รับแรงหนุน

สรุปแนวโน้มการวิเคราะห์

แนวโน้มโดยรวมคือ เป็นบวก (Bullish) ในระยะกลางถึงระยะยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักๆ คือ

1. ความไม่แน่นอนทางการเมือง/การคลัง ปัญหาความเสี่ยงหนี้และเสถียรภาพทางการคลังในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก (สหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น) ทำให้พันธบัตรรัฐบาล ซึ่งเป็น Safe Haven ดั้งเดิม เสื่อมความน่าสนใจ

2. ขาดทางเลือก (Lack of Alternatives):เมื่อ Safe Haven ดั้งเดิมอ่อนแอลง ทองคำจึงกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่โดดเด่นที่สุดในการป้องกันความเสี่ยง

3. การปรับลดอัตราดอกเบี้ย คาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาทองคำ

4. แรงหนุนต่อโลหะเงิน ราคาโลหะเงิน (Silver) ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

แนวรับและแนวต้าน

แนวต้าน

• 3,980

• 4,000 

• 4,050

• 4,150

• 4,200 

แนวรับ 

• 3,900

• 3,850

• 3,800

• 3,700

• 3,600

คำเตือนนักลงทุน

โปรดจำไว้เสมอว่า การลงทุนในทองคำมีความผันผวนสูง แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกหนุนมากมาย และธนาคารขนาดใหญ่อย่าง Commerzbank จะปรับเพิ่มเป้าหมายราคาอย่างน่าตกใจ แต่ตัวเลขคาดการณ์เหล่านี้เป็นเพียงการวิเคราะห์ภายใต้สมมติฐานบางอย่างเท่านั้น นักลงทุนควรติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และความเสี่ยงทางการเมือง/การคลังอย่างใกล้ชิด เพราะหากสถานการณ์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาทองคำก็อาจปรับฐานลงได้เช่นกัน ดังนั้น จงบริหารความเสี่ยง ด้วยการตั้งจุดตัดขาดทุน Sl และอย่าลงทุนด้วยเงินทั้งหมดที่คุณไม่สามารถยอมรับการสูญเสียได้