ราคาทองคำ (XAU/USD) ทะลุระดับ $3,500 และทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาล แรงหนุนมาจากหลายปัจจัย เช่น ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำ, การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะลดดอกเบี้ย, ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้ง S&P 500, Nasdaq 100 และ Dow Jones ต่างปรับตัวลดลงพร้อมกัน ขณะที่ตลาดพันธบัตรก็เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก ทำให้กลยุทธ์การลงทุนแบบ 60/40 (หุ้น 60% / พันธบัตร 40%) มีความท้าทายมากขึ้น

รัฐบาลทั่วโลกมีภาระหนี้สินสูงและมีการกู้ยืมเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความมั่นคงทางการคลัง ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตร (Yield) พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี และในญี่ปุ่นที่ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวก็ทำสถิติใหม่เช่นกัน

ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงนโยบายปัจจุบันไว้

แนวรับและแนวต้าน

แนวต้าน 

• 3,560

• 3,585

• 3,610

• 3,635

• 3,650

แนวรับ 

• 3,520

• 3,500

• 3,485

• 3,460

• 3,435

คำเตือนสำหรับนักลงทุน

การที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและทำสถิติใหม่ อาจเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่ต้องระวังให้ดี ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงเกินไปอาจเกิดจากความผันผวนและความตื่นตระหนกในตลาดมากกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งเสมอไป

นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจ เพราะการที่สินทรัพย์หนึ่งพุ่งขึ้นอย่างผิดปกติ อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงปัญหาในระบบเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้น การเข้าซื้อในช่วงที่ราคาพุ่งสูงอย่างไม่หยุดยั้งอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะมีโอกาสที่ราคาจะร่วงลงแรงเมื่อความตื่นตระหนกคลี่คลายลง หรือเมื่อตลาดกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น หากคิดจะลงทุนควรศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้และมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่รัดกุมก่อนเสมอ