coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงิน 23 มกราคม 2025

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
413 เข้าชม
kenfxg21
(@kenfxg21)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 2 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 314
หัวข้อเริ่มต้น  

📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 23/01/2025 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $ 2,754.92

สรุปปัจจัยข่าวและแนวโน้มราคาทองคำ
1. ราคาทองคำปิดบวกเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
• สัญญาทองคำส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 2,770.90 ดอลลาร์/ออนซ์
• สะท้อนแรงซื้อที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์ปลอดภัย
2. ความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% และจากเม็กซิโก-แคนาดาอีก 25% ในวันที่ 1 ก.พ.
• ยังขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรป โดยไม่ได้เผยรายละเอียดเพิ่มเติม
• ตลาดไม่มั่นใจถึงระดับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านปริมาณและขอบเขตของสินค้าทั้งหมดที่ถูกเรียกเก็บภาษี
3. นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
• ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรทำให้นักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและการค้า
• เมื่อเกิดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์หรือความไม่ชัดเจนในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นักลงทุนมักโยกเงินไปยังทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
4. มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ
• ไรอัน แมคอินไทร์ กรรมการพอร์ตโฟลิโอจาก Sprott Asset Management ระบุว่า การที่ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนักเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอน และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ

แนวโน้มราคาทองคำโดยรวม
• ขาขึ้นระยะสั้น: ได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า หากทรัมป์ใช้มาตรการภาษีจริงตามที่กล่าว อาจเกิดผลลบต่อเศรษฐกิจโลก และนักลงทุนจะยิ่งเข้าหาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
• ปัจจัยเสี่ยง: หากในที่สุดมาตรการภาษีไม่รุนแรงหรือมีการเจรจาจนตกลงกันได้ อาจลดแรงกดดันต่อเศรษฐกิจ และนักลงทุนอาจโยกเงินกลับไปยังสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำ
• ข้อควรติดตาม: ควรจับตาการประกาศรายละเอียดหรือความคืบหน้าของมาตรการภาษีในวันที่ 1 ก.พ. และดูว่านโยบายจะส่งผลต่อทิศทางของเฟดหรือไม่ (เฟดอาจชะลอการปรับลดดอกเบี้ยหากเศรษฐกิจไม่ถูกกระทบมากเกินคาด)

สรุป: ราคาทองคำยังมีแนวโน้ม “ขาขึ้น” ในระยะสั้น เนื่องจากความกังวลด้านมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอนและนักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย.

⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 33.90
ดัชนีดอลลาร์: 108.237

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.607

ส่วนที่ 2

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$75.24/บาร์เรล

สรุปปัจจัยข่าวและแนวโน้มราคาน้ำมัน
1. ราคาปิดและสถานการณ์ล่าสุด
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 75.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.51%
• เป็นการปรับลดติดต่อกัน 4 วันทำการ และลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์
• ตลาดยังคงไม่แน่นอนเรื่องมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
2. ความกังวลเรื่องมาตรการภาษีศุลกากร
• ทรัมป์ประกาศอาจเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 1 ก.พ.
• จะเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันเดียวกัน
• ขู่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรป และขู่คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม หากไม่มีความคืบหน้าฝั่งรัสเซียในการเจรจายุติสงครามยูเครน
• ผลกระทบ: นักลงทุนกลัวว่าหากมีการเก็บภาษีสูง จะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก และเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ความต้องการใช้น้ำมันอาจลดลง
3. ความสนใจย้ายจาก “การคว่ำบาตรรัสเซีย” ไปสู่นโยบายการค้าทรัมป์
• เดิมทีตลาดเน้นไปที่การคว่ำบาตรรัสเซีย (ซึ่งกระทบอุปทานน้ำมันโลก)
• ปัจจุบัน ตลาดหันมาสนใจนโยบายการค้าของทรัมป์ที่อาจกดดันเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
4. ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ
• สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล (สัปดาห์สิ้นสุด 17 ม.ค.)
• นักลงทุนรอตัวเลขอย่างเป็นทางการจาก EIA ซึ่งจะประกาศในคืนนี้เวลา 23.00 น. (ตามเวลาไทย)
• หากสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด อาจกดดันราคาน้ำมันเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาน้ำมันโดยรวม
1. ระยะสั้น: มีโอกาสปรับตัวลงต่อ
• ความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อหลายประเทศ อาจฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดอุปสงค์น้ำมันในอนาคต
• การเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ยิ่งเสริมความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกิน
2. ระยะกลาง: ยังมีความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์
• หากสงครามในยูเครน/สถานการณ์รัสเซียถูกยกระดับการคว่ำบาตรใหม่ ๆ ก็อาจทำให้ราคาน้ำมันพลิกกลับมาขึ้นได้ในบางช่วง
• แต่โดยรวม นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวจากสงครามการค้า
3. ข้อสรุป:
• ราคาน้ำมันถูกกดดันจากความเสี่ยงที่อุปสงค์จะลดลง หากสงครามการค้าทรงตัวหรือรุนแรงขึ้น
• สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นกว่าคาดหมาย กดดันเพิ่มเติม
• นักลงทุนต้องจับตาการเปิดเผยตัวเลข EIA และความเคลื่อนไหวต่อไปของนโยบายทรัมป์อย่างใกล้ชิด

สรุป: แนวโน้มราคาน้ำมันยัง “ขาลง” ในระยะสั้น เพราะกังวลว่านโยบายภาษีของสหรัฐฯ จะสกัดการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและลดความต้องการน้ำมัน ขณะที่ข้อมูลสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้น ยิ่งกดดันราคาให้อ่อนตัวลง

ส่วนที่ 3

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

15.11

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 869.36 (วันนี้กองทุนมีการขายออก 2.30 ตัน 🔽)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,726 , $2,708 , $2,689
แนวต้านสำคัญ: $2,761 , $2,776 , $2,790

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:
- การประชุมเฟดวันที่ 28-29 ม.ค.
- ตัวเลข PCE สัปดาห์หน้า

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 20.30 น. จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
- ⭐⭐⭐ 23.00 น. ปาฐกถาของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

 

เครดิต เจอโรมพาเทรด



   
อ้างอิง
แท็กหัวข้อ

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: