📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 22/01/2025 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $ 2,748.17

สรุปปัจจัยข่าวและแนวโน้มราคาทองคำ
1. ดอลลาร์อ่อนค่า
• ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก ทำให้ทองคำที่ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงในสายตาของผู้ถือสกุลเงินอื่น จึงเป็นแรงหนุนราคาทองคำ
2. ความไม่แน่นอนเรื่องภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์
• หลังเข้าพิธีสาบานตน ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้า (Universal Tariffs) ในทันที แต่ส่งสัญญาณว่าอาจเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกตั้งแต่ 1 ก.พ.
• ความไม่แน่นอนนี้เพิ่มแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
3. การประชุมเฟดวันที่ 28-29 ม.ค.
• นักลงทุนจับตาว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดหรือไม่ และรอฟังแถลงการณ์ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2568
• หากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายหรือ “ลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง” อาจหนุนราคาทอง
4. ตัวเลข PCE สัปดาห์หน้า
• ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อสำคัญของเฟด
• หาก PCE ต่ำกว่าที่คาด อาจหนุนแนวโน้มเฟดผ่อนคลายนโยบาย และเป็นบวกต่อทองคำ

แนวโน้มราคาทองคำโดยรวม
• ขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง
• ดอลลาร์อ่อนค่า และความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
• หากเฟดคงดอกเบี้ยและส่งสัญญาณอาจลดดอกเบี้ยต่อในปี 2568 ทองคำจะได้แรงหนุนเพิ่มขึ้น
• ปัจจัยที่ต้องติดตาม
• ถ้าเฟดมีมุมมองเข้มงวดขึ้น (Hawkish) หรือเงินเฟ้อพุ่งเกินคาด อาจกดดันราคาทอง
• ความคืบหน้าเรื่องภาษีนำเข้า หากทรัมป์ประกาศใช้ภาษีครอบจักรวาล อาจเพิ่มความผันผวนในตลาดและยิ่งหนุนทองคำในระยะสั้น

สรุป:
ทองคำยังมีแนวโน้มขาขึ้นจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าและความกังวลด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ นักลงทุนควรจับตาการประชุมเฟดและข้อมูล PCE ในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนราคาทองคำในระยะต่อไป.
⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 33.92
ดัชนีดอลลาร์: 108.093

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.593

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$75.75/บาร์เรล

สรุปปัจจัยข่าวและแนวโน้มราคาน้ำมัน
1. ปธน.ทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานในสหรัฐฯ
• ทรัมป์ต้องการเพิ่มการผลิตน้ำมันภายในประเทศ ทั้งการขุดเจาะ, สร้างท่อส่ง และตั้งโรงกลั่นใหม่
• จุดประสงค์คือเพื่อลดต้นทุนเชื้อเพลิงให้กับชาวอเมริกัน ซึ่งอาจทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น และกระตุ้นความกังวลว่าอาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด (Oversupply) ในปีนี้
2. สถานการณ์ในตะวันออกกลางผ่อนคลายบางส่วน
• กลุ่มฮูตี (Houthi) ในเยเมนประกาศลดการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลเท่านั้น
• หากอิสราเอลปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงฉนวนกาซาอย่างครบถ้วน ฮูตีก็จะยุติการโจมตีเรือสินค้าทั้งหมดในที่สุด
• สถานการณ์ที่ผ่อนคลายนี้ลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และอาจลด “Risk Premium” ในราคาน้ำมัน
3. EIA คาดการณ์อุปทานล้นตลาด, ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลด
• สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อุปสงค์ (Demand) ชะลอตัว
• ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกกดดันในภาพรวม ทั้งปีนี้และปีหน้า
4. ปัจจัยที่ช่วยลดช่วงลบของราคาน้ำมัน
• ปธน.ทรัมป์อาจยุติการซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายสำคัญให้กับสหรัฐฯ หากเกิดขึ้นจริงจะลดปริมาณน้ำมันที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ และดึงราคาน้ำมันให้สูงขึ้นบ้างในระหว่างวัน

แนวโน้มราคาน้ำมันโดยรวม
1. ทิศทางขาลงในระยะสั้น
• ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานในสหรัฐฯ อาจทำให้อุปทานน้ำมันภายในประเทศเพิ่มขึ้น
• EIA ยังคงมุมมองว่าภาพรวมตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะอุปทานล้นตลาดในปีนี้ และราคามีแนวโน้มปรับตัวลดลง
2. ปัจจัยต้องติดตาม
• การผลิตจริง หลังประกาศนโยบายของทรัมป์ว่าจะเพิ่มขึ้นตามที่คาดหรือไม่
• สถานการณ์ตะวันออกกลาง หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน กลุ่มฮูตีเปลี่ยนท่าที หรือความขัดแย้งกลับมารุนแรง จะเป็นแรงหนุนราคาน้ำมัน
• นโยบายด้านการนำเข้าของสหรัฐฯ หากยุติการซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาอย่างเป็นรูปธรรม อาจกระทบให้ราคาน้ำมันผันผวนในระยะสั้น
3. สรุปภาพรวม
• ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะสั้น จากความกังวลอุปทานล้นตลาด หลังสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มการผลิตและการคาดการณ์ของ EIA ที่มองว่าราคาอาจลดลงต่อเนื่อง
• ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ผ่อนคลายยังซ้ำเติมให้ Risk Premium ต่ำลง แต่ต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า/ส่งออกน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาน้ำมันได้ในทันที

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

15.05

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 871.66 (วันนี้กองทุนมีการขายออก 7.46 ตัน)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,745 , $2,735 , $2,725
แนวต้านสำคัญ: $2,750 , $2,760 , $2,770

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:
- การประชุมเฟดวันที่ 28-29 ม.ค.
- ตัวเลข PCE สัปดาห์หน้า

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ไม่มีข่าวในตารางที่น่าสนใจ

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เครดิต เจอโรมพาเทรด