📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 15/01/2025 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $ 2,672.32

แนวโน้มราคาทองคำ: ขาขึ้น (Bullish)

เหตุผล:
1. ดัชนี PPI ต่ำกว่าคาด:
• ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นเพียง 3.3% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.5%
• ดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) เพิ่มขึ้น 3.5% เท่ากับเดือนก่อนหน้า แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.8%
• ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย ทำให้เฟดมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป
2. ดอลลาร์อ่อนค่า:
• ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงหลังการประกาศ PPI ที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ราคาทองคำซึ่งซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์มีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
3. ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ย:
• นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เพื่อตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัว
• อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจะลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย
4. การจับตาข้อมูล CPI:
• นักลงทุนรอคอยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนภาพรวมเงินเฟ้อของผู้บริโภค
• หากตัวเลข CPI ต่ำกว่าคาด จะช่วยยืนยันแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายของเฟด และเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม

ภาพรวม:
ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากดัชนี PPI ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าและเพิ่มความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ความคาดหวังที่ว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปในปีนี้เป็นแรงสนับสนุนสำคัญ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังจับตาดูตัวเลข CPI ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้นถึงกลาง

⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 34.74
ดัชนีดอลลาร์: 109.245

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.784

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$77.66/บาร์เรล

แนวโน้มราคาน้ำมัน: ขาลง (Bearish)

เหตุผล:
1. คาดการณ์อุปทานที่เพิ่มขึ้นจาก EIA:
• สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 13.55 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิม
• ภาวะอุปทานล้นตลาด (Oversupply) ถูกย้ำโดยการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นแซงหน้าอุปสงค์ในอีก 2 ปีข้างหน้า
2. ราคาน้ำมันในระยะยาวถูกคาดการณ์ให้ลดลง:
• EIA คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันเบรนท์จะเฉลี่ยลดลง 8% เหลือ 74 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2565 และลดลงอีกในปี 2566
• ราคาน้ำมัน WTI คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2565 และลดลงสู่ระดับ 62 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2566
3. ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบ:
• แม้ว่าสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล แต่ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เพียงพอที่จะผลักดันราคาน้ำมันขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว
4. ดัชนีดอลลาร์และการคว่ำบาตรรัสเซีย:
• แม้การคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียจะส่งผลกระทบต่ออุปทานบางส่วน แต่ยังไม่สามารถหักล้างผลกระทบเชิงลบจากการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ และทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น
• ดอลลาร์ที่แข็งค่าเพิ่มแรงกดดันต่อน้ำมันซึ่งซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น

ภาพรวม:
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากปัจจัยด้านอุปทานล้นตลาดที่ได้รับการยืนยันจากรายงานของ EIA แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบและการคว่ำบาตรรัสเซียก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานยังคงเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในปัจจุบัน.

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

18.70

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 872.52 (วันนี้กองทุนมีการขายออก 2.01 ตัน🔽)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,660 , $2,650 , $2,640
แนวต้านสำคัญ: $2,680 , $2,690 , $2,700

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 20.30 น.((USD)) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)
- ⭐⭐⭐ 20.30 น.((USD)) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)
- ⭐⭐⭐ 20.30 น.((USD)) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ธ.ค.)
- ⭐⭐⭐ 22.30 น.((USD)) สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เครดิต เจอโรมพาเทรด