สรุปสถานการณ์ตลาดการเงิน 10 มกราคม 2025
📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 10/01/2025 🌍
🔔 ทองคำ:
Spot Gold: $ 2,669.86
แนวโน้มราคาทองคำ: มีโอกาสปรับตัวขึ้นในระยะสั้น
ปัจจัยหนุนแนวโน้มราคาทองคำ
1. ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
• นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง (safe-haven) ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
• ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจก่อให้เกิดความผันผวนทางการค้าและเงินเฟ้อ
2. การประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ (IEEPA)
• มีรายงานว่าทรัมป์อาจประกาศใช้กฎหมาย IEEPA เพื่อกำหนดกำแพงภาษีนำเข้า
• การใช้นโยบายดังกล่าวอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและการค้า ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพิ่ม
3. แรงหนุนจากราคาปิดบวก
• ราคาทองคำปิดบวก เพิ่มขึ้น 18.40 ดอลลาร์ หรือ 0.69% สู่ระดับ 2,690.80 ดอลลาร์/ออนซ์
• การปิดในแดนบวกต่อเนื่องบ่งชี้ถึงความต้องการที่ยังแข็งแกร่ง
ปัจจัยลบที่ควรจับตา
1. การแข็งค่าของดอลลาร์
• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ โดยทำให้ทองคำแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น
2. ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ
• นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll)
• หากตัวเลขการจ้างงานออกมาดีเกินคาด อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
สรุปภาพรวม
ราคาทองคำมีแนวโน้ม ปรับตัวขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลทางเศรษฐกิจและนโยบายของทรัมป์ อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของดอลลาร์และข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจเป็นปัจจัยกดดันในบางช่วง นักลงทุนควรจับตาดูตัวเลขจ้างงานอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินทิศทางในระยะถัดไป.
⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️
💱 อัตราแลกเปลี่ยน:
USD/THB: 34.57
ดัชนีดอลลาร์: 109.163
แนวโน้มราคาดอลลาร์: แข็งค่าต่อเนื่องในระยะสั้น
เหตุผลสนับสนุนแนวโน้ม
1. นโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์
• การคาดการณ์ว่านโยบายกีดกันการค้าของทรัมป์ เช่น การตั้งกำแพงภาษีนำเข้า จะกระตุ้นเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
• ส่งผลให้เฟดอาจ ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
• การชะลอการลดดอกเบี้ยสนับสนุนการแข็งค่าของดอลลาร์ เนื่องจากยังคงเป็นสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
2. รายงานการประชุมเฟด
• เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายทรัมป์ต่อเงินเฟ้อ
• สัญญาณจากเฟดชี้ว่าอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้น้อยลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์
3. การคาดการณ์เกี่ยวกับตัวเลขจ้างงาน
• ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร โดยแม้คาดว่าจะชะลอตัวลง แต่ยังสะท้อนถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
• อัตราว่างงานที่ทรงตัวและการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานยังสนับสนุนความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ
4. การเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์
• ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.08% แตะที่ 109.180 และแข็งค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 3
• การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สกุลเงินอื่น ๆ เช่น ยูโรและปอนด์อ่อนค่าลง
5. ความไม่แน่นอนจากนโยบายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจของทรัมป์
• แผนการประกาศ “ภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ” เพื่อสนับสนุนกำแพงภาษีนำเข้า อาจกระตุ้นความต้องการถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
สรุปภาพรวม
ดอลลาร์มีแนวโน้ม แข็งค่าต่อเนื่องในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยหนุนจากความคาดหวังในนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะกระตุ้นเงินเฟ้อ และการที่เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูตัวเลขจ้างงานและนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของดอลลาร์ในระยะถัดไป.
📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:
Yield: 4.681
🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:
$74.22/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นที่ปกคลุมพื้นที่บางส่วนของสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงในฤดูหนาวปรับตัวสูงขึ้น
ADVERTISEMENT
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 73.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.00% ปิดที่ 76.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความต้องการเชื้อเพลิงในฤดูหนาวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น โดยสำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NWS) ได้ออกประกาศเตือนภัยพายุฤดูหนาวในหลายพื้นที่เมื่อวานนี้ ตั้งแต่ฝั่งตะวันออกของรัฐเท็กซัสไปจนถึงฝั่งตะวันตกของรัฐเวอร์จิเนีย และยังครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐอาร์คันซอ เทนเนสซี และเคนตักกี
ADVERTISEMENT
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า สัญญาน้ำมันดีเซลชนิดกำมะถันต่ำพิเศษ (ultra-low sulfur diesel) หรือ ULSD มีการซื้อขายที่ประมาณ 2.38 ดอลลาร์/แกลลอน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2567
นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนประมาณการว่า สำหรับสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นนั้น ทุก ๆ หนึ่งองศาฟาเรนไฮต์ที่อุณหภูมิลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี จะทำให้ความต้องการน้ำมันฮีตติ้งออยล์และโพรเพนเพิ่มขึ้น 113,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากอุณหภูมิที่หนาวจัดทำให้ผู้บริโภคเร่งเปิดเครื่องทำความร้อน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแนวโน้มที่จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่พุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจรัสเซียในสัปดาห์นี้ โดยคณะบริหารของไบเดนกำลังพยายามเพิ่มประสิทธิภาพให้กับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยที่ผ่านมานั้นเป้าหมายสำคัญของการคว่ำบาตรคืออุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซีย
เคลวิน หว่อง นักวิเคราะห์จากบริษัท OANDA คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมัน WTI จะแกว่งตัวในกรอบ 67.55 - 77.95 ดอลลาร์จนถึงเดือนก.พ. ในขณะที่ตลาดรอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์ และมาตรการกระตุ้นการคลังจากจีน
😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):
18.07
🏆 กองทุนทองคำ SPDR:
ปริมาณการถือครอง: 871.08 (วันนี้กองทุนไม่มีการซื้อเข้าหรือขายออก)
💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:
แนวรับสำคัญ: $2,640 , $2,530 , $2,520
แนวต้านสำคัญ: $2,665 , $2,655 , $2,645
📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 20.30น.((USD)) รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)
- ⭐⭐⭐ 20.30น.((USD)) การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm)
- ⭐⭐⭐ 20.30น.((USD)) อัตราการว่างงาน (ธ.ค.)
⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)
⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
เครดิต เจอโรมพาเทรด
ทิ้งคำตอบไว้
- 39 ฟอรัม
- 1,033 หัวข้อ
- 3,209 กระทู้
- 16 ออนไลน์
- 1,406 สมาชิก