coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

สรุปสถานการณ์ตลาดการเงิน 6 ธันวาคม 2024

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
0 Reactions
646 เข้าชม
kenfxg21
(@kenfxg21)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 2 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 314
หัวข้อเริ่มต้น  

📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 06/12/2024 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $2,631.95

- ทองปิดลบ $27.80 บอนด์ยีลด์พุ่งกดดันตลาด

แนวโน้มราคาทองคำ: แกว่งตัวในกรอบขาลงระยะสั้น

เหตุผล:
1.แรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น:
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้น 0.3% สร้างแรงกดดันต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำสูงขึ้น
- ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรจึงดึงดูดเงินทุนออกจากตลาดทองคำ
2.ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง:
- การที่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ในเดือนกันยายน บ่งชี้ว่าแรงกดดันในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอาจลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยลบสำหรับทองคำ
3.ข้อมูลแรงงานที่ผสมผสาน:
- จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาด (224,000 ราย เทียบกับคาดการณ์ 215,000 ราย) สะท้อนถึงบางส่วนของตลาดแรงงานที่อ่อนแอ
- อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งจะให้ภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับตลาดแรงงาน
4.การคาดการณ์นโยบายการเงินของเฟด:
- นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 70% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งช่วยหนุนความหวังในตลาดทองคำในระยะกลาง
- แต่ตลาดยังไม่มั่นใจในทิศทางที่แน่นอน จึงเกิดแรงขายทำกำไรในช่วงนี้

สรุปภาพรวม:
- ราคาทองคำในระยะสั้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาต่ำกว่าคาด อาจช่วยพยุงราคาทองคำในช่วงปลายสัปดาห์
- นักลงทุนควรจับตาผลการประชุมเฟดในเดือนนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะกลางถึงยาว

ปัจจัยที่ต้องจับตา:
1.ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls): จะส่งผลต่อการประเมินทิศทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด
2.ท่าทีของเฟดในการประชุมปลายเดือน: หากมีสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ทองคำอาจกลับมามีแรงซื้อในระยะกลาง
3.แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตร: หากยังคงปรับตัวสูงขึ้น จะกดดันราคาทองคำต่อไป

⚠️ "ข้อมูลและการวิเคราะห์ที่นำเสนอในนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น มิได้มีเจตนาชักชวนหรือสนับสนุนให้ลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ"⚠️

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 34.09
ดัชนีดอลลาร์: 105.790

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.182

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$68.50 /บาร์เรล

- น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.40 นลท.ระวังซื้อขายก่อนประชุมโอเปกพลัส

แนวโน้มราคาน้ำมัน: แนวโน้มอ่อนตัวลง (Bearish)

เหตุผล:
1.แนวโน้มอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปี 2568:
- แม้ว่าที่ประชุมโอเปกพลัสจะขยายเวลาการลดกำลังการผลิตและเลื่อนการเพิ่มกำลังผลิตออกไปอีก 3 เดือนจนถึงเมษายน 2568 แต่ตลาดน้ำมันยังเผชิญกับปัญหาอุปทานล้นตลาด
- การผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัส เช่น สหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาน้ำมันในระยะยาว
2.อุปสงค์ที่ซบเซา:
- แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันอ่อนแอ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันตลาดน้ำมัน
3.การลดกำลังการผลิตที่มีข้อจำกัด:
- โอเปกพลัสยังคงลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน แต่การทยอยยกเลิกมาตรการลดกำลังผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน จะเริ่มในเมษายน 2568 และใช้เวลา 18 เดือนจนถึงกันยายน 2569 ซึ่งสะท้อนว่าอุปทานจะทยอยเพิ่มขึ้นในระยะยาว
4.ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์:
- บ็อบ ยอว์เกอร์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัท Mizuho ชี้ว่า ขณะนี้ตลาดอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาด ไม่ใช่ภาวะขาดแคลน และยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันในอนาคตอันใกล้
5.ปัจจัยทางเทคนิค:
- ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ปิดลบเล็กน้อย สะท้อนถึงแรงขายของนักลงทุนที่ยังมองภาพลบต่อราคาน้ำมัน

สรุปภาพรวม:
- ราคาน้ำมันมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในระยะสั้นถึงระยะกลาง เนื่องจากตลาดกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ล้นตลาดในปี 2568 และอุปสงค์ที่ยังไม่ฟื้นตัว
- แม้ว่าการลดกำลังการผลิตของโอเปกพลัสจะช่วยพยุงราคาน้ำมันในระยะสั้น แต่แรงกดดันจากการเพิ่มกำลังผลิตในอนาคตยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งราคา

ปัจจัยที่ต้องจับตา:
- แนวโน้มเศรษฐกิจโลก: หากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว อุปสงค์น้ำมันจะยังถูกกดดัน
- ข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก EIA: ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของสต็อกน้ำมันในสหรัฐฯ จะส่งสัญญาณถึงระดับอุปสงค์ในตลาด
- การดำเนินนโยบายของโอเปกพลัส: หากมีการปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม อาจช่วยพยุงราคาน้ำมันในระยะสั้น
- สถานการณ์การผลิตของประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัส: เช่น การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

13.53

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 873.66 (วันนี้กองทุนมีการขายออก 1.72 ตัน 🔽)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,604 , $2,583 , $2,561
แนวต้านสำคัญ: $2,650 , $2,671 , $2,689

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:
- ตัวเลขจ้างงาน non-farm ในวันศุกร์นี้

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 20.30 น. รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (พ.ย.)
- ⭐⭐⭐ 20.30 น. การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (พ.ย.)
- ⭐⭐⭐ 20.30 น. อัตราการว่างงาน (พ.ย.)

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ครดิต เจอโรมพาเทรด



   
อ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: