📊 สรุปสถานการณ์ตลาดการเงินประจำวันที่ 20/11/2024 🌍
🔔 ทองคำ:

Spot Gold: $2,637.56

- ทองปิดบวก $16.40 นลท.รุกซื้อต่อเนื่องหลังสงครามยูเครนบานปลาย

แนวโน้มราคาทองคำ: ขาขึ้น

เหตุผลที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น
1.ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย:

- สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามในกฤษฎีกาใหม่ที่ปรับเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์
- การที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธโจมตีดินแดนรัสเซีย ทำให้ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมองหาทองคำเป็นที่หลบภัยจากความไม่แน่นอน

2.แรงหนุนจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์:
- การที่รัสเซียเตือนว่าสหรัฐฯ กำลังเข้าเกี่ยวข้องโดยตรงในสงคราม มีแนวโน้มสร้างความเสี่ยงให้สถานการณ์บานปลายจนถึงระดับสงครามโลกครั้งที่ 3
- ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นยังคงกระตุ้นความต้องการทองคำในระยะสั้น

3.ความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด:
- นักลงทุนให้น้ำหนัก 63% ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. การลดดอกเบี้ยจะทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลง และดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น
- หากเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นที่บ่งชี้ถึงนโยบายการเงินผ่อนคลาย ทองคำจะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม

ปัจจัยอื่นที่ควรติดตาม:
- การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความชัดเจนในทิศทางดอกเบี้ย
- สัญญาณเพิ่มเติมจากสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และท่าทีของชาติตะวันตก

สรุปภาพรวม:
- ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด หากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นหรือเฟดส่งสัญญาณชัดเจนในการผ่อนคลายนโยบาย ทองคำจะได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่อง

💱 อัตราแลกเปลี่ยน:

USD/THB: 34.55
ดัชนีดอลลาร์: 106.263

📈 พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี:

Yield: 4.404

🛢️ ราคาน้ำมัน WTI:

$69.15 /บาร์เรล

- น้ำมัน WTI ปิดบวก 23 เซนต์ คาดสงครามรัสเซีย-ยูเครนกระทบอุปทาน

แนวโน้มราคาน้ำมัน: ขาขึ้นเล็กน้อย

เหตุผลที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น

1.สงครามรัสเซีย-ยูเครนรุนแรงขึ้น:
- การโจมตีด้วยขีปนาวุธของยูเครนและการปรับกฎการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียสร้างความกังวลต่ออุปทานน้ำมัน
- ตลาดมองว่าสงครามอาจทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัวมากขึ้น

2.การนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้นในจีน:
- ข้อมูลจาก Kpler ระบุว่าจีนมียอดนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนพ.ย.สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- สะท้อนถึงความต้องการพลังงานที่ยังแข็งแกร่ง

เหตุผลที่กดดันราคาน้ำมัน

1.การกลับมาผลิตที่บ่อน้ำมันโยฮัน สเวอร์ดรุป:
-การกลับมาดำเนินการผลิตหลังจากหยุดไปชั่วคราวในบ่อน้ำมันใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ช่วยเสริมอุปทานน้ำมันในตลาด
2.ความไม่แน่นอนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ:
- นักลงทุนยังจับตาข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบจาก EIA หากตัวเลขออกมาสูงเกินคาด อาจกดดันราคาน้ำมันในระยะสั้น

สรุปภาพรวม:
- ราคาน้ำมันมีแนวโน้มขยับขึ้นเล็กน้อยในระยะสั้น เนื่องจากความกังวลด้านอุปทานจากสงครามและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในจีน แต่ยังมีปัจจัยกดดันจากการกลับมาผลิตในยุโรปและความไม่แน่นอนในสหรัฐฯ ซึ่งอาจจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาในระยะยาว.

😨 VIX (ดัชนีความผันผวน):

16.34

🏆 กองทุนทองคำ SPDR:

ปริมาณการถือครอง: 872.23 (วันนี้กองทุนมีการซื้อเข้า 0.58 ตัน🔼)

💡 คำแนะนำการเทรดทองคำวันนี้:

แนวรับสำคัญ: $2,622 , $2,604 $2,585
แนวต้านสำคัญ: $2,656 , $2,675 , $2,710

🔍 ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม:
- สถานการณ์ความตึงเครียดรัซเซีย-ยูเครน

📅 ตารางข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำวัน:
- ⭐⭐⭐ 22.30 น. - สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

⏰ หมายเหตุ: เวลาทั้งหมดเป็นเวลาไทย (GMT+7)

⚠️ Disclaimer: ข้อมูลนี้เป็นเพียงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

เครดิตเจอโรมพาเทรด