สรุปปัจจัยข่าวและแนวโน้มราคาทองคำ
1. ราคาทองฟิวเจอร์ทรงตัวก่อนการประชุมเฟด
• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย (+0.01%) อยู่ที่ 2,795.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ณ เวลา 19.12 น.ตามเวลาไทย
• สะท้อนว่านักลงทุนรอความชัดเจนจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และถ้อยแถลงของประธานเฟด
2. การประชุมเฟดครั้งแรกของปีนี้
• คาดว่าเฟดจะ “คงอัตราดอกเบี้ย” ในการประชุมนี้ ตามที่นักลงทุนได้ให้น้ำหนักเกือบ 100%
• ตลาดยังคาดการณ์ว่าเฟดจะ “ปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2568” ซึ่งสอดคล้องกับ Dot Plot ที่เฟดเคยส่งสัญญาณไว้ในการประชุมธ.ค.2567
• หากเฟดยืนยันการลดดอกเบี้ยในอนาคต ราคาทองอาจได้รับแรงหนุน (เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยต่ำสนับสนุนการถือทอง)
• ถ้าเฟดคงดอกเบี้ย แต่แสดงความเข้มงวดหรือมองว่าเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง → ทองคำอาจย่อตัวลงบ้าง (เนื่องจากดอลลาร์อาจแข็งค่า และสินทรัพย์เสี่ยงอาจดึงเม็ดเงินไป)
3. นโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
• ทรัมป์เตรียมเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันที่ 1 ก.พ.
• ขู่เก็บภาษีต่อชิปคอมพิวเตอร์ ยา และเหล็กจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตย้ายฐานมายังสหรัฐฯ
• หากนโยบายกีดกันทางการค้าขยายวง อาจสร้างความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลก และส่งผลบวกต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
4. แนวโน้มราคาทองคำ
• ระยะสั้น (ก่อนผลประชุมเฟด): ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบและทรงตัว นักวิเคราะห์คาดว่าจะยัง “รอความชัดเจน” จนกว่าจะได้ยินถ้อยแถลงของประธานเฟด (เจอโรม พาวเวล)
• ปัจจัยหนุน: หากเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินหรือยืนยันการลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ทองคำจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่ม
• ปัจจัยกดดัน: ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง หรือค่าดอลลาร์แข็งค่า (จากเหตุผลอื่น ๆ) ทองคำอาจถูกกดดัน นอกจากนี้ หากภาษีของทรัมป์ไม่ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก ตลาดอาจย้ายไปลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

สรุป:
ราคาทองคำยังคงมีลักษณะ “ทรงตัว” ก่อนการประชุมเฟด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้นำทิศทางในระยะสั้น หากเฟดยืนยันแนวทางลดดอกเบี้ยปีนี้ ทองคำอาจได้แรงหนุนเพิ่ม ส่วนความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของทรัมป์ยังเป็นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง.

เครดิต NRattana