เคยสงสัยไหม ว่าทำไมพอร์ตยังมีเงินอยู่ แต่เปิดออเดอร์เพิ่มไม่ได้ หลายคนที่เทรด Forex คงเคยเจอปัญหานี้ เปิดกราฟมาเจอจังหวะสวยๆ อยากกดเพิ่มอีกไม้ แต่ดันเจอข้อความเด้งขึ้นมาว่า "Not enough money" หรืออะไรทำนองนี้

อ้าว แล้วเงินในพอร์ตก็ยังมี ทำไมเปิดไม่ได้ล่ะ ปัญหานี้มักเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า "Free Margin" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้ เพราะมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ความสามารถในการเปิดออเดอร์ และการอยู่รอดของพอร์ต

1. Free Margin คืออะไร

คำอธิบายแบบเข้าใจง่าย

Free Margin คือเงินที่เหลืออยู่ในพอร์ตของคุณหลังจากที่หัก Margin ของออเดอร์ที่เปิดไปแล้ว หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เงินที่สามารถนำไปใช้เปิดออเดอร์ใหม่ได้

ถ้า Free Margin เหลือน้อยหรือเป็นศูนย์ นั่นแปลว่าคุณไม่สามารถเปิดออเดอร์เพิ่มได้อีก

สูตรคำนวณ Free Margin

📌 Free Margin = Equity - Used Margin

• Equity = Balance + กำไร/ขาดทุนของออเดอร์ที่เปิดอยู่
• Used Margin = Margin ที่ถูกใช้ไปสำหรับออเดอร์ที่เปิดอยู่

2. Free Margin มีไว้ทำไม และมันสำคัญยังไง

1) ใช้เป็นตัววัดว่าคุณสามารถเปิดออเดอร์เพิ่มได้ไหม

• ถ้า Free Margin สูง → แสดงว่ายังมีเงินพอเปิดออเดอร์เพิ่ม
• ถ้า Free Margin ต่ำ → อาจไม่สามารถเปิดออเดอร์เพิ่มได้

2) ถ้า Free Margin หมด = มีความเสี่ยงโดน Margin Call

• ถ้า Free Margin เป็นศูนย์หรือเข้าใกล้ศูนย์ โบรกเกอร์จะส่ง Margin Call มาเตือนว่าคุณมีเงินไม่พอที่จะรักษาออเดอร์ที่เปิดอยู่
• ถ้ายังไม่มีการเติมเงินหรือปิดออเดอร์บางส่วน ระบบจะปิดออเดอร์ให้อัตโนมัติ (Stop Out)

3) Free Margin มีผลต่อ Leverage ที่คุณใช้

• ถ้าใช้ Leverage สูง เช่น 1:500 Free Margin อาจลดลงเร็วมากเพราะเปิดออเดอร์ได้ใหญ่ขึ้น
• ถ้าใช้ Leverage ต่ำ เช่น 1:50 Free Margin จะลดลงช้ากว่า เพราะต้องใช้เงิน Margin มากขึ้นในการเปิดออเดอร์

3. อะไรทำให้ Free Margin ลดลง หรือเพิ่มขึ้น

📌 Free Margin ลดลง เมื่อ
✅ เปิดออเดอร์เพิ่ม → ใช้ Margin มากขึ้น
✅ ออเดอร์ที่เปิดอยู่ขาดทุน → Equity ลดลง → Free Margin ลด
✅ ตลาดผันผวนหนัก → ราคาขยับผิดทางมากขึ้น

📌 Free Margin เพิ่มขึ้น เมื่อ
✅ ออเดอร์ที่เปิดอยู่กำไร → Equity เพิ่ม → Free Margin เพิ่ม
✅ ปิดออเดอร์บางส่วน → Margin ที่ถูกใช้ลดลง
✅ เติมเงินเข้าพอร์ต → Balance เพิ่มขึ้น → Free Margin เพิ่ม

4. วิธีบริหาร Free Margin ไม่ให้พอร์ตพัง

1) ใช้ Leverage ให้เหมาะสม

อย่าใช้ Leverage สูงเกินไป เพราะจะทำให้ Free Margin ลดลงเร็วและพอร์ตเสี่ยงต่อการโดน Margin Call
🔹 ถ้าคุณเป็นมือใหม่ แนะนำให้ใช้ Leverage 1:100 - 1:200

2) ไม่เปิดออเดอร์เยอะเกินไป

การเปิดหลายออเดอร์พร้อมกันโดยไม่คำนวณ Margin ที่เหลือ อาจทำให้ Free Margin หมดเร็วและเปิดออเดอร์ใหม่ไม่ได้

3) ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง

การตั้ง SL ช่วยป้องกันไม่ให้ Free Margin ลดลงเร็วเกินไป ถ้าตลาดวิ่งผิดทาง

4) หมั่นเช็ก Margin Level อยู่เสมอ

Margin Level (%) = (Equity / Used Margin) x 100
🔹 ถ้า Margin Level ต่ำกว่า 100% = มีโอกาสโดน Margin Call
🔹 ถ้า Margin Level ต่ำกว่า 50% = มีโอกาสโดน Stop Out

5. ตัวอย่างสถานการณ์จริงของ Free Margin

🔹 สมมติว่าคุณมีพอร์ต $1,000 และใช้ Leverage 1:100

• เปิดออเดอร์ EUR/USD 1 ล็อต → ต้องใช้ Margin ประมาณ $1,000
• พอเปิดออเดอร์ Free Margin = 0 ทันที → เปิดเพิ่มไม่ได้
• ถ้ากราฟวิ่งผิดทาง ขาดทุนสะสม Equity ลดลง → Free Margin ติดลบ → มีโอกาสโดน Stop Out

🔹 สมมติว่าคุณเปิดออเดอร์แค่ 0.1 ล็อต

• ใช้ Margin ประมาณ $100
• ยังมี Free Margin เหลือ $900 → เปิดเพิ่มได้หลายไม้
• ถ้ากราฟวิ่งผิดทาง Free Margin ยังมีพอให้รับแรงเหวี่ยงของตลาด

สรุป Free Margin คืออะไร และทำไมต้องรู้จักมัน

✅ Free Margin คือเงินที่เหลือให้ใช้เปิดออเดอร์ใหม่
✅ ถ้า Free Margin หมด อาจโดน Margin Call และ Stop Out
✅ ควรใช้ Leverage อย่างเหมาะสม และไม่เปิดออเดอร์เยอะเกินไป
✅ หมั่นเช็ก Margin Level เพื่อป้องกันพอร์ตพัง

ถ้าเข้าใจเรื่อง Free Margin ดีๆ จะช่วยให้คุณบริหารพอร์ตได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการล้างพอร์ตโดยไม่รู้ตัว