เคยเป็นไหม ตั้ง Stop Loss ไว้ดีๆ กราฟทะลุแนวรับแนวต้านไปอย่างสวย พอรีบเข้าออเดอร์ตามทันที ปรากฏว่ากราฟเด้งกลับมาทางเดิมอย่างไวแถมโดนลาก SL ไปอีก แล้วสุดท้ายราคาไปในทิศทางที่คิดไว้แต่แรก นี่แหละที่เรียกว่า False Breakout หรือการ "หลอกหลุด" ของราคา ถ้าคุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แสดงว่าคุณไม่ได้เจอแค่คนเดียว เพราะ False Breakout เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมากในตลาด Forex และสามารถทำให้เทรดเดอร์เสียเงินได้ถ้าไม่รู้ทัน วันนี้เราจะมาคุยกันว่า False Breakout คืออะไร เกิดจากอะไร และมีวิธีป้องกันยังไง

1. False Breakout คืออะไร

False Breakout คือการที่ราคา ทะลุแนวรับหรือแนวต้าน แต่สุดท้าย ไม่สามารถยืนเหนือระดับนั้นได้ และกลับตัวลงมาอย่างรวดเร็ว ลองนึกภาพคุณกำลังดูแนวต้านแข็งๆ อยู่ เช่น EUR/USD ที่ 1.1000 แล้วกราฟขึ้นไปแตะ 1.1005 คุณคิดว่ามัน "Breakout" และรีบเข้า Buy ตามทันทีแต่แล้วราคาดันร่วงลงมาและปิดต่ำกว่า 1.1000 ซะงั้น นี่แหละ False Breakout มันเหมือนกับคนที่พยายามจะวิ่งออกจากห้อง แต่พอเปิดประตูไปแล้ว เจอของที่ลืมไว้ เลยต้องเดินกลับเข้ามาใหม่

2. False Breakout เกิดขึ้นได้ยังไง

False Breakout เกิดจากหลายปัจจัย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1) การล่อ Stop Loss (Stop Hunting)

บางครั้งตลาดดูเหมือนจะเบรคแนวรับแนวต้าน แต่จริง ๆ แล้วเป็นแค่การล่อให้เทรดเดอร์ "ติดกับ"

• สมมติคุณตั้ง SL ไว้เหนือแนวต้าน ราคาวิ่งไปชน SL ของคุณ แล้วพอราคาล้าง SL ไปหมดแล้ว มันดันกลับไปทางเดิม

ใครเป็นคนทำแบบนี้?

• โบรกเกอร์บางรายที่ไม่มีมาตรฐาน Market Maker หรือกลุ่มทุนใหญ่ที่ต้องการล้างพอร์ตของรายย่อย

2) ข่าวแรงทำให้ราคาวิ่งหนักเกินไป

False Breakout มักเกิดขึ้นเวลามีข่าวใหญ่ เช่น Non-Farm Payrolls (NFP), CPI หรือประกาศอัตราดอกเบี้ย ราคาจะเคลื่อนที่เร็วมากจนดูเหมือนจะทะลุแนวรับแนวต้าน แต่พอข่าวจบ ราคาก็กลับมาอยู่ที่เดิม

3) Volume ไม่มากพอที่จะ Breakout จริง

ถ้าราคา Breakout แต่ไม่มี Volume สนับสนุน ราคาก็อาจจะไหลกลับเข้ามาในกรอบเดิมได้

3. วิธีสังเกต False Breakout ก่อนโดนลาก

False Breakout อาจดูเหมือนกับ Breakout จริง แต่ถ้าคุณสังเกตดีๆ จะมีสัญญาณที่บอกให้รู้ว่ามันอาจเป็น "ของปลอม"

1) ดูพฤติกรรมแท่งเทียน

• ถ้าแท่งที่ Breakout ไปมีไส้ (Wick) ยาวๆ ออกไปจากแนวรับแนวต้าน แล้วย้อนกลับมา แสดงว่าเป็น Fake Out
• ถ้าแท่งเทียนที่ Breakout ไปเป็นแท่งเล็กๆ และไม่มี Volume มากพอ อาจเป็นสัญญาณของ False Breakout

2) ดู Volume ประกอบ

• ถ้า Breakout จริง Volume ต้องสูงกว่าปกติ ถ้า Breakout แต่ไม่มี Volume ระวัง False Breakout

3) รอให้แท่งเทียนปิดก่อนค่อยตัดสินใจ

• อย่าเพิ่งรีบเข้าออเดอร์เมื่อราคาทะลุแนวรับแนวต้านทันที รอให้ราคาปิดแท่งเหนือแนวรับแนวต้านก่อน

4) ใช้ Breakout Retest ช่วยยืนยัน

• ถ้าราคาเบรคไปแล้ว ควรรอให้ราคากลับมาทดสอบแนวรับแนวต้านเดิมก่อน แล้วค่อยเข้าเทรด

4. วิธีป้องกันไม่ให้โดน False Breakout หลอก

1) ตั้ง SL ให้เหมาะสม อย่าวางไว้ใกล้เกินไป

• ถ้าตั้ง SL ใกล้แนวรับแนวต้านมากเกินไป อาจโดนลากก่อนราคาจะไปในทิศทางที่คาดไว้
• วิธีแก้: ตั้ง SL เผื่อจากแนวรับแนวต้านเล็กน้อย

2) รอให้ราคา "Confirm" การ Breakout ก่อนเข้าออเดอร์

• แทนที่จะเข้าออเดอร์ทันทีเมื่อเห็น Breakout ให้รอแท่งเทียนปิดก่อน หรือรอ Retest แล้วค่อยเข้า

3) ใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ เช่น Bollinger Bands, RSI, MACD

• ถ้า RSI อยู่ในโซน Overbought หรือ Oversold อาจมีโอกาสเกิด False Breakout
• ถ้าราคา Breakout ออกจาก Bollinger Bands แบบสุดขั้ว อาจเป็น Fake Out

4) เลือกเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมี Liquidity สูง

• หลีกเลี่ยงการเข้าเทรดช่วงตลาดเงียบ เช่น เวลาที่ตลาดเอเชียเปิด แต่ตลาดยุโรปยังไม่เปิด
• เทรดช่วงที่มี Volume สูง เช่น London Session หรือ New York Session

5. False Breakout ไม่ได้แย่เสมอไป ถ้ารู้จักใช้ให้เป็น

แทนที่จะกลัว False Breakout เราสามารถใช้มันเป็นโอกาสทำกำไรได้ด้วย

กลยุทธ์เทรด False Breakout

ถ้าราคาเบรคแนวรับแนวต้านแล้วดึงกลับมาอย่างเร็ว ให้ลองเข้าออเดอร์สวนทางกับ Breakout
ตั้ง SL เหนือ High หรือ Low ของแท่งที่หลอก
ตั้ง TP ไว้ที่แนวรับแนวต้านเดิม

ตัวอย่าง

• ราคาเบรคขึ้นเหนือแนวต้าน 1.1000 แต่ดึงกลับมาปิดต่ำกว่า 1.1000
• ให้เปิด Sell และตั้ง SL เหนือ High ของแท่งที่เบรค
• ตั้ง TP ที่แนวรับก่อนหน้า

สรุป False Breakout คืออะไร และจะรับมือยังไง

False Breakout คือการหลุดแนวรับแนวต้านแบบปลอมๆ แล้วราคากลับเข้ากรอบเดิม
เกิดจาก Stop Hunting, ข่าวแรง หรือ Volume ไม่พอ
วิธีสังเกต ดูแท่งเทียน, Volume และรอให้ราคาปิดแท่งก่อนเข้า
วิธีป้องกัน ตั้ง SL ให้เหมาะสม, รอการ Retest และใช้เครื่องมือช่วยวิเคราะห์
ใช้ False Breakout เป็นโอกาสทำกำไรโดยเทรดสวนทางเมื่อเห็นสัญญาณชัดเจน

False Breakout อาจดูน่ารำคาญ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของตลาด ถ้าเรารู้ทัน เราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของมัน