การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

📌 การอ่านตลาดตามความน่าจะเป็นด้วยหลักของทฤษฎีดาว (Dow Theory)

1 กระทู้
1 ผู้ใช้
1 Reactions
40 เข้าชม
Coach Niphon P
(@coach-niphon-p)
สมาชิก
Rookie
เข้าร่วม: 1 วัน ที่ผ่านมา
กระทู้: 9
หัวข้อเริ่มต้น  
การวิเคราะห์ตลาดตาม ทฤษฎีดาว (Dow Theory) เป็นหลักการพื้นฐานที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถ อ่านแนวโน้มของตลาด (Market Trend) ได้อย่างมีโครงสร้าง และใช้ หลักความน่าจะเป็น แทนการคาดเดาแบบไร้เหตุผล
🎯 เป้าหมาย
✅ ช่วยให้เข้าใจว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มไหน
✅ ใช้หลักความน่าจะเป็นในการวิเคราะห์โอกาสขึ้น/ลง
✅ หลีกเลี่ยงการเทรดสวนเทรนด์โดยไม่มีเหตุผล
🔹 1. หลักพื้นฐานของทฤษฎีดาว
📌 ทฤษฎีดาวกล่าวว่า ตลาดเคลื่อนที่เป็นแนวโน้ม (Trend) และแนวโน้มแบ่งเป็น 3 ระดับ
✅ Primary Trend (แนวโน้มหลัก) → กินเวลาหลายเดือนถึงปี
✅ Secondary Trend (แนวโน้มรอง) → กินเวลาหลายสัปดาห์ถึงเดือน
✅ Minor Trend (แนวโน้มย่อย) → ระยะสั้น กินเวลาไม่กี่วัน
📌 ตลาดมี 3 รูปแบบหลัก
1️⃣ Uptrend (ขาขึ้น) → มี Higher High (HH) และ Higher Low (HL)
2️⃣ Downtrend (ขาลง) → มี Lower High (LH) และ Lower Low (LL)
3️⃣ Sideway (ไม่มีแนวโน้ม) → High & Low ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
📌 หลักสำคัญ
• ถ้าตลาดยังคงสร้าง HH-HL → แนวโน้มขาขึ้นแข็งแรง
• ถ้าตลาดยังคงสร้าง LH-LL → แนวโน้มขาลงแข็งแรง
• ถ้าราคาไม่สร้าง HH หรือ LL → อาจเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้ม

🔹
2. ใช้หลักความน่าจะเป็นในการอ่านแนวโน้มตลาด
🎯 แนวคิด
1️⃣ ให้โฟกัสที่ Primary Trend ก่อน → ดูแนวโน้มหลักของตลาด
2️⃣ ใช้ Secondary & Minor Trend เป็นจุดเข้า → ดูแนวโน้มระยะกลางและระยะสั้น
3️⃣ ถ้าแนวโน้มหลักแข็งแกร่ง โอกาสที่ราคาจะเคลื่อนที่ไปต่อสูง
📌 ตัวอย่างความน่าจะเป็นในการอ่านตลาด
✅ ถ้าตลาดอยู่ในขาขึ้น (Uptrend)
• มีโอกาสสูงที่ HL ต่อไปจะไม่ถูกทำลาย
• มีโอกาสสูงที่ HH จะถูกทำลาย
• การเข้า Buy ตามแนวรับที่ HL มีโอกาสชนะสูงกว่า Sell
✅ ถ้าตลาดอยู่ในขาลง (Downtrend)
• มีโอกาสสูงที่ LH ต่อไปจะไม่ถูกทำลาย
• มีโอกาสสูงที่ LL จะถูกทำลาย
• การเข้า Sell ตามแนวต้านที่ LH มีโอกาสชนะสูงกว่า Buy
📌 หลักความน่าจะเป็นที่ช่วยลดความผิดพลาด
❌ ถ้าแนวโน้มหลักยังไม่เปลี่ยน อย่ารีบเทรดสวน!
❌ ถ้าแนวโน้มเปลี่ยนไป (HH หายไป / LL หายไป) ต้องปรับกลยุทธ์
❌ การเดาว่าราคาจะกลับตัวโดยไม่มีสัญญาณ → เป็นการเทรดที่ใช้ความหวัง ไม่ใช่ความน่าจะเป็น

🔹
3. ใช้ทฤษฎีดาวร่วมกับโซนสำคัญ
✅ ทฤษฎีดาว + Supply/Demand Zone
• ถ้าตลาดเป็น ขาขึ้น → ควรโฟกัสโซน Demand (HL)
• ถ้าตลาดเป็น ขาลง → ควรโฟกัสโซน Supply (LH)
✅ ทฤษฎีดาว + Liquidity Grab
• ถ้าตลาดเป็นขาขึ้น → ดูว่า HL มี Stop Hunt หรือ Liquidity Grab หรือไม่
• ถ้าตลาดเป็นขาลง → ดูว่า LH มี Stop Hunt หรือ Liquidity Grab หรือไม่
✅ ทฤษฎีดาว + Break of Structure (BOS)
• ถ้า BOS เกิดในขาขึ้น → ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นต่อ
• ถ้า BOS เกิดในขาลง → ยืนยันแนวโน้มขาลงต่อ
• ถ้ามี CHoCH (Change of Character) → ระวังการกลับตัว

🔹
4. วิธีนำไปใช้จริง
📌 ตัวอย่างการวิเคราะห์แนวโน้มตามทฤษฎีดาว
1️⃣ เริ่มจาก Timeframe ใหญ่ (H4/D1) → ดู Primary Trend
2️⃣ ใช้ Timeframe กลาง (H1) → ดู Secondary Trend
3️⃣ ใช้ Timeframe เล็ก (M15/M5) เพื่อหา Entry จุดเข้า
📌 ตัวอย่างการตัดสินใจเทรด ตลาดเป็นขาขึ้น (HH-HL)
✔️ รอให้ราคาย่อลงมา HL
✔️ เข้า Buy เมื่อมี Liquidity Grab หรือ BOS
ตลาดเป็นขาลง (LH-LL)
✔️ รอให้ราคากลับขึ้นมา LH
✔️ เข้า Sell เมื่อมี Liquidity Grab หรือ BOS

🔹
5. สรุป อ่านตลาดตามความน่าจะเป็นด้วยทฤษฎีดาว
✅ เข้าใจว่าแนวโน้มตลาดเป็นแบบไหน (Uptrend, Downtrend, Sideway)
✅ ใช้หลัก HH-HL / LH-LL เพื่อกำหนดแนวโน้มหลัก
✅ เข้าเทรดตามแนวโน้มหลัก โอกาสชนะสูงกว่าการเทรดสวน
✅ ใช้ Liquidity, BOS และโซนสำคัญช่วยยืนยันแนวโน้ม
✅ ใช้ Multi-Timeframe Analysis เพื่อวิเคราะห์ Entry ให้แม่นยำ
 
 
 
 
 
ดูข้อมูลเชิงลึกและโฆษณา

 
โปรโมทโพสต์
 
<img class="x16dsc37" role="presentation" src="data:;base64," width="18" height="18" />
<img class="x16dsc37" role="presentation" src="data:;base64," width="18" height="18" />
ความรู้สึกทั้งหมด

Pinyo Tappasarndamrong, Sirajayy Jayy และ คนอื่นๆ อีก 25 คน

 
 

   
อ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: