coverอันดับนักแข่งเทรดมือ
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

สำรวจคนยุค Millennials ถามว่าเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของพวกเขาคืออะไร

4 กระทู้
1 ผู้ใช้
12 Reactions
646 เข้าชม
thanongsuk12
(@thanongsuk12)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 2 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 388
หัวข้อเริ่มต้น  

วันนี้มีบทความดีๆมาให้อ่านครับ เกี่ยวกับ " เป้าหมายสูงสุดในชีวิต "

มีการสำรวจคนยุค Millennials ถามว่าเป้าหมายสูงสุดในชีวิตของพวกเขาคืออะไร?
.
มากกว่า 80% ตอบว่า เป้าหมายสูงสุดคือความร่ำรวย และอีก 50% คือการมีชื่อเสียงโด่งดัง
.
เรามักจะถูกสอนให้มุ่งไปที่งาน ทุ่มเทให้กับงานมากๆ และประสบความสำเร็จให้มากขึ้น เราถูกฝังหัวว่านี่คือสิ่งที่เราต้องไขว่คว้า เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดี
.
โครงการ Harvard Study of Adult Development เป็นโครงการศึกษาชีวิตมนุษย์ ที่นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาตลอด 85 ปี ศึกษาชีวิตของคนกว่า 724 คน ถามพวกเขาเกี่ยวกับงาน ความเป็นอยู่ และสุขภาพ ปีแล้วปีเล่า โดยไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
.
การศึกษาวิจัยแบบนี้หายาก เพราะเกือบทุกโครงการลักษณะแบบเดียวกันนี้มักล้มเลิกไปภายใน 10 ปี บางทีกลุ่มตัวอย่างขอออกจากโครงการหรือไม่ก็ ไม่มีเงินสนับสนุนโครงการต่อ หรือบางทีนักวิจัยดันเกิดหมดความสนใจขึ้นมา หรือบางทีนักวิจัยเสียชีวิตและไม่มีใครสานต่อโครงการ
.
โครงการศึกษานี้รอดมาได้กลุ่มตัวอย่างของราวๆ 60 คน จาก 724 คน ยังมีชีวิตอยู่ และยังร่วมอยู่ในโครงการนี้ ส่วนใหญ่ก็อายุราวๆ 90 ปีแล้ว

มีต่อครับ


หัวข้อนี้ได้รับการแก้ไข 1 ปี ที่ผ่านมา โดย thanongsuk12

   
อ้างอิง
thanongsuk12
(@thanongsuk12)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 2 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 388
หัวข้อเริ่มต้น  
[ต่อ]
 
ตั้งแต่ปี 1938 การศึกษานี้ศึกษาชายอยู่สองกลุ่ม กลุ่มแรกเริ่มเข้าโครงการขณะเรียนอยู่ปีสองที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ด พวกเขาทุกคนจบวิทยาลัย ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเกือบทุกคนก็ออกมาเข้าร่วมสงคราม กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มเด็กชายจากชุมชนที่จนที่สุดในบอสตัน เด็กๆถูกคัดเลือกเข้าโครงการเพราะพวกเขามาจากครอบครัวที่มีปัญหาและด้อยโอกาสมากที่สุด ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในห้องเช่าที่ไม่มีน้ำใช้ด้วยซ้ำ
.
เมื่อพวกเขาเข้าร่วมโครงการ เด็กทุกคนถูกสัมภาษณ์และได้รับการตรวจร่างกาย สัมภาษณ์พ่อแม่ จากนั้นพวกเขาก็เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนเป็นพนักงานโรงงาน ทนายความ ช่างปูน และหมอ หนึ่งคนเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาด้วย บางคนติดสุราเรื้อรัง บางส่วนเป็นโรคจิตเภท บางคนไต่บันไดของสังคมจากชนชั้นล่างสุดไปเป็นชนชั้นสูงสุด บางคนดำเนินชีวิตไปในทางตรงกันข้าม
.
ผ่านมา 85 ปีโครงการนี้ยังดำเนินต่อ ทุกๆ สองปีนักวิจัยจะโทรหากลุ่มตัวอย่างเพื่อถามเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง
.
ชายในกลุ่มเด็กยากจนจากบอสตันหลายคนถามว่า “ทำไมพวกคุณถึงยังอยากศึกษาชีวิตผม? ชีวิตผมไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้น” แต่ชายจากฮาร์วาร์ดไม่เคยถามคำถามนั้นเลย
.
หลังจากสัมภาษณ์ ก็เก็บตัวอย่างเลือดและสแกนสมอง คุยกับลูกๆ อัดวิดีโอขณะที่พวกเขาเล่าความกังวลใจให้ภรรยาฟัง สิ่งที่การศึกษาชิ้นนี้ค้นพบจากข้อมูลจำนวนหลายหมื่นหน้า บทเรียนไม่ได้เกี่ยวกับความร่ำรวย ความโด่งดัง หรือการทำงานหนัก สิ่งที่ชัดเจนที่สุด ที่งานวิจัย 75 ปีบ่งบอกคือ ‘ความสัมพันธ์ที่ดี’ จะช่วยให้เรามีความสุขและแข็งแรงมากขึ้นแค่นั้นเลยจริง ๆ
 
มีต่อครับ


   
ตอบอ้างอิง
thanongsuk12
(@thanongsuk12)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 2 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 388
หัวข้อเริ่มต้น  

[บทส่งท้าย]

ข้อคิด 3 ข้อหลักๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่พวกเขาสรุปมาคือ
.
1. ความสัมพันธ์ทางสังคม มีประโยชน์กับเรามาก และความโดดเดี่ยวโหดร้ายมาก กลายเป็นว่า คนที่มีความสัมพันธ์อันดี กับครอบครัว เพื่อน และสังคมของเขา มีความสุข สุขภาพดี และอายุยืน กว่าคนที่มีความสัมพันธ์กับผู้อื่นน้อยกว่า คนที่ถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยวจากคนอื่นจะกลายเป็นคนไม่มีความสุข สุขภาพเสื่อมโทรมตั้งแต่ช่วงกลางของชีวิต การทำงานของสมองเสื่อมลงเร็วกว่า และอายุสั้นกว่าคนที่ไม่โดดเดี่ยว
.
ท่ามกลางผู้คนมากมาย คุณอาจรู้สึกโดดเดี่ยวได้เช่นกัน
.
2. คุณภาพของความสัมพันธ์ใกล้ชิดนั้นสำคัญ การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ชีวิตแต่งงานที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เป็นสิ่งที่ทำร้ายสุขภาพ อาจจะมากกว่าการหย่าร้างด้วยซ้ำไป และการมีชีวิตอยู่ท่ามกลาง ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นช่วยทำให้เราแข็งแรงและมีความสุขมากขึ้น
.
สิ่งที่ทำนายว่าคนจะมีความสุขในวัย 80 คือระดับความพึงพอใจของความสัมพันธ์ที่พวกเขามี คนที่พอใจกับความสัมพันธ์ที่มีตอนอายุ 50 จะมีสุขภาพแข็งแรงกว่าตอนอายุ 80
.
3. ความสัมพันธ์ทำให้สมองของเราแข็งแรงด้วย คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีจะรู้สึกว่าพึ่งพาอีกคนได้ มีความจำที่เฉียบคม ส่วนคนที่มีความสัมพันธ์ที่รู้สึกว่าไม่สามารถพึ่งพาอีกคนได้ ความจำจะเสื่อมถอยเร็วกว่า
.
ความสัมพันธ์ที่ดีที่ว่าไม่จำเป็นต้องราบรื่นตลอดเวลา คู่รักวัย 80 บางคู่อาจจะทะเลาะ ไม่หยุดไม่หย่อน แต่ตราบเท่าที่พวกเขารู้สึกว่าสามารถพึ่งพากันได้ แค่นั้นก็ถือว่าโอเค
.
เมื่อครั้งที่พวกเขายังเป็นหนุ่มวัยรุ่นคนเหล่านี้ก็เชื่อเหมือนกันว่าชื่อเสียง ความร่ำรวย และการประสบความสำเร็จสูงสุดคือสิ่งที่พวกเขาต้องได้มาถ้าอยากมีชีวิตที่ดี แต่ตลอด 75 ปีที่ผ่านมา งานวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือคนที่ทุ่มเทเวลาให้กับ ครอบครัว เพื่อน และสังคม
.
แล้วคุณล่ะครับ ตอนนี้ คุณอาจจะอายุ 25 หรือ 40 หรือ 60 คุณกำลังทุ่มเทให้กับอะไรอยู่?
.



   
ตอบอ้างอิง
thanongsuk12
(@thanongsuk12)
สมาชิก
โพสครบ 20 กะทู้
โพสกะทู้ครบ 300
Rank F
เข้าร่วม: 2 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 388
หัวข้อเริ่มต้น  

Mark Twain เขียนเอาไว้ว่า
.
“ชีวิตสั้นนัก จนไม่มีเวลา สำหรับการทะเลาะ การขอโทษ การอิจฉาริษยา และการต่อว่า มีเพียงเวลาเพื่อรัก และจะว่าไปแล้ว แค่นั้นก็แสนสั้นเช่นกัน”



   
ตอบอ้างอิง

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

You are not allowed to attach files on this forum. It is possible that you have not reached the minimum required number of posts, or your user group does not have permission to attach files in this forum.
 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน: